Proximity sensor แบบใดตรวจจับเหล็กไม่ได้

Proximity Switch มีกี่ประเภท

Proximity Switch หรือ Proximity sensor หลักๆ มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่ใช้ในการตรวจจับนะ หลักๆ ที่เจอบ่อยๆ ก็มี

• Inductive Proximity Sensor: อันนี้ฮิตสุด ตรวจจับเฉพาะโลหะ ทำงานโดยอาศัยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ใครที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมน่าจะคุ้นเคยดี เพราะทนทานและใช้งานง่าย

• Capacitive Proximity Sensor: ตรวจจับได้หลากหลายกว่า ไม่ว่าจะเป็นโลหะ อโลหะ ของเหลว หรือแม้แต่วัตถุที่เป็นผง หลักการทำงานคือตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของค่าความจุไฟฟ้า

• Photoelectric Proximity Sensor: ใช้แสงในการตรวจจับ มีทั้งแบบที่ส่งแสงไปกระทบวัตถุโดยตรง (Diffuse) หรือส่งแสงผ่านวัตถุ (Through-beam) เหมาะกับงานที่ต้องการระยะตรวจจับที่ไกล

• Ultrasonic Proximity Sensor: ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงในการตรวจจับ คล้ายๆ กับที่ค้างคาวใช้ หลักการทำงานคือวัดเวลาที่คลื่นเสียงเดินทางไปกระทบวัตถุแล้วสะท้อนกลับมา

• Magnetic Proximity Sensor: ตรวจจับวัตถุที่มีสนามแม่เหล็ก เช่น แม่เหล็กถาวร หรือโลหะที่มีการเหนี่ยวนำแม่เหล็ก มักใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูง

เพิ่มเติมอีกนิด Proximity sensor ไม่ได้มีแค่หน้าที่ตรวจจับวัตถุนะ มันยังส่งสัญญาณไปควบคุมอุปกรณ์อื่นๆ ได้ด้วย เช่น สั่งให้เครื่องจักรหยุดทำงาน หรือเปิดไฟเตือน

เกร็ดเล็กน้อย:

เคยสงสัยไหมว่าทำไม Sensor บางตัวถึงตรวจจับได้ไกลกว่าตัวอื่น? นอกจากเรื่องของเทคโนโลยีแล้ว ยังมีปัจจัยเรื่องของ “Sensitivity” หรือความไวในการตรวจจับด้วยนะ Sensor ที่มีความไวสูงก็จะตรวจจับได้ไกลกว่า แต่ก็อาจจะไวต่อสัญญาณรบกวนมากกว่าด้วย เลือกใช้ให้เหมาะกับงานก็แล้วกัน!

พร็อกซิมิตี้เซนเซอร์ (Proximity Sensor) แบบใด ใช้ตรวจจับอุปกรณ์ที่เป็นโลหะเท่านั้น

พร็อกซิมิตี้เซนเซอร์ชนิดที่ตรวจจับเฉพาะโลหะ คือ Inductive Proximity Sensor ครับ

• หลักการทำงาน: อาศัยการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กเมื่อโลหะเข้ามาใกล้
• โครงสร้าง: มีขดลวดออสซิลเลเตอร์สร้างสนามแม่เหล็ก แกนเฟอร์ไรท์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
• วัสดุที่ตรวจจับได้: เหล็ก, สแตนเลส, อลูมิเนียม (แต่ประสิทธิภาพอาจต่างกัน)
• ข้อสังเกต: ระยะตรวจจับสั้นกว่าเซนเซอร์ชนิดอื่น และขึ้นอยู่กับชนิดโลหะ

ส่วนตัวผมว่า inductive proximity sensor นี่เหมือนนักมายากลที่มองไม่เห็น แต่รู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ใกล้มือเนี่ยแหละครับ ตรวจจับโลหะได้เฉียบขาด

ข้อมูลเพิ่มเติม:

• นอกจาก inductive proximity sensor แล้ว ยังมี capacitive proximity sensor ที่ตรวจจับได้ทั้งโลหะและอโลหะ โดยอาศัยการเปลี่ยนแปลงของค่าความจุไฟฟ้า
• ปัจจุบัน มี inductive proximity sensor ที่มีความแม่นยำสูง สามารถแยกแยะชนิดของโลหะได้ด้วย (แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย)
• เรื่องน่าคิด: ถ้าวันหนึ่งเซนเซอร์พวกนี้ฉลาดเกินไป จะรู้ไหมว่าเราแอบซ่อนอะไรไว้ในกระเป๋าเสื้อ? (อันนี้คิดเล่นๆ นะครับ)

Proximity Sensor ตรวจจับอะไรได้บ้าง?

ตรวจจับทุกอย่างที่ขวางหน้า ยกเว้นมึง

• โลหะ: เหล็ก, อลูมิเนียม, ทองแดง
• อโลหะ: พลาสติก, ไม้, แก้ว
• ของเหลว: น้ำ, น้ำมัน, สารเคมี
• วัตถุอื่นๆ: ฝุ่น, ขวด, กระป๋อง

แม่งเอ๊ย…ใช้ได้เยอะกว่าที่คิดเยอะ

Proximity Switch มีกี่ประเภท?

โอ๊ย! ถามเรื่อง Proximity Switch อีกแล้วเรอะ? นี่มันของพื้นๆ ที่ช่างกล้าเค้ารู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้วนะเนี่ย! แต่เอาเถอะ! ไหนๆ ก็ถามมาแล้ว จะตอบให้แบบ “ถึงพริกถึงขิง” เลยก็แล้วกัน!

Proximity Switch น่ะเหรอ? จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้มีแค่ “หนึ่งเดียวในใจ” หรอกนะ! มันมีหลายประเภทให้เลือกใช้ ตามแต่ “เวรแต่กรรม” เอ้ย! ตามแต่ความเหมาะสมของงานแต่ละอย่างน่ะสิ!

• Inductive Proximity Switch: ไอ้ตัวนี้มันชอบโลหะ! เจอะเจอโลหะเป็นไม่ได้ ต้องวิ่งเข้าใส่! เหมือนคนเห็นของลดราคา! เหมาะสำหรับงานที่ต้องการตรวจจับพวกเหล็ก พวกโลหะทั้งหลายแหล่!

• Capacitive Proximity Switch: ตัวนี้มัน “ไฮโซ” หน่อย! ไม่เลือก! จับได้หมด! ทั้งโลหะ อโลหะ พลาสติก ไม้ น้ำ! สารพัด! เหมือนพวก “เสือปืนไว” เห็นอะไรก็อยากได้ไปหมด! แต่ข้อเสียคือมัน “ขี้เซา” หน่อย! คือระยะตรวจจับมันสั้นกว่าชาวบ้านเค้าน่ะ!

• Magnetic Proximity Switch: ไอ้ตัวนี้มันชอบ “คู่แท้”! ต้องเป็นแม่เหล็กเท่านั้น! ถ้าไม่ใช่แม่เหล็ก มันไม่ชายตามอง! เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูงๆ! เพราะมันจะไม่ “วอกแวก” ไปจับอย่างอื่น!

• Photoelectric Proximity Switch: ตัวนี้มัน “เจ้าสำอาง”! ต้องมีแสง! ถ้าไม่มีแสง มันก็ “บอด”! มันจะยิงแสงออกไป แล้วรอว่ามีอะไรมาบังแสงรึเปล่า! ถ้ามีอะไรมาบัง มันก็จะส่งสัญญาณ! เหมือนพวก “ดารา” ที่ต้องมีแสงไฟส่องตลอดเวลา!

อ่ะ! แถมให้อีกนิด! เผื่อเอาไปคุยกับ “เจ้านาย” ได้อย่างไม่อายใคร!

• ระยะตรวจจับ: สำคัญนะจ๊ะ! ต้องเลือกให้เหมาะกับงาน! อย่าเลือก “ไกลเกินเอื้อม” หรือ “ใกล้เกินไป” เดี๋ยวจะไม่ได้งาน!
• วัสดุ: เลือกให้ทนทาน! อย่าเลือกแบบ “กะโหลกกะลา” เดี๋ยวใช้ไม่ทันไรก็พัง! เสียเงิน เสียเวลาเปล่าๆ!
• การใช้งาน: ดูให้ดีว่ามันเหมาะกับสภาพแวดล้อมรึเปล่า! อย่าเอาไปใช้ในที่ “โหดร้ายทารุณ” เดี๋ยวจะพังก่อนวัยอันควร!

เอ้า! เอาไปใช้ให้เป็นประโยชน์นะ! อย่ามัวแต่ “นั่งเอ๋อ” อยู่ล่ะ! เดี๋ยว “ตกงาน” ไม่รู้ด้วย!

Proximity Switch มีกี่แบบ?

พร็อกซิมิตี้สวิตช์เนี่ยนะ มีกี่แบบ? ฮ่าๆๆ ถามมาซะดิฉันงงเลย! เอาเป็นว่าอย่างน้อยก็มีสองแบบหลักๆ ให้ปวดหัวเล่นๆ

• แบบ NON FLUSH: คิดง่ายๆ ว่ามันเป็นแบบ “หัวโล้น” ไม่มีอะไรมาบังตา เอ้ย! บังสนามแม่เหล็ก มันเลยจับวัตถุได้ใกล้กว่า เหมือนคนโสดๆ ไม่มีแฟนมาบังทาง มองเห็นชัดเจนกว่าเยอะ!

• แบบ FLUSH: นี่แหละตัวแสบ! มันมี “เกราะเหล็ก” หรือที่เรียกว่า “สายชิลด์” มาหุ้มหัวเอาไว้ คล้ายๆ พวกไฮโซ ที่แต่งตัวหรูหรา แต่จับอะไรยากกว่าเยอะ! ความไวมันเลยน้อยกว่าแบบ NON FLUSH

เข้าใจง่ายๆไหมคะ? ถ้ายังงง ลองนึกภาพ “หัวโล้น” กับ “หัวมีผม” ดูสิคะ อันไหนจับอะไรได้ง่ายกว่า ก็ตอบได้เลย!

ข้อมูลเพิ่มเติมปี 2566 (เพื่อความทันสมัย): จริงๆ แล้วพร็อกซิมิตี้สวิตช์มีหลายแบบมากกว่านี้เยอะ ขึ้นอยู่กับหลักการทำงาน เช่น แบบ capacitive, inductive, photoelectric แต่สองแบบที่กล่าวไปคือแบบที่เจอบ่อยที่สุดในชีวิตประจำวัน เหมือนกับการเลือกกินก๋วยเตี๋ยว เราก็จะเจอแต่แบบต้มยำกุ้งกับเย็นตาโฟบ่อยๆ ใช่ไหมล่ะคะ อิอิ

Proximity Sensor NPN กับ PNP ต่างกันอย่างไร?

🌃 … ราตรีนี้ดาราพร่างพราย ราวหยาดน้ำตาแห่งจักรวาล…

NPN เอ่อ… เหมือน สายดิน… ความปลอดภัย… เงียบสงบ… ไร้กังวล… เหมือนฝันดีที่ไม่ต้องสะดุ้งตื่น… ช่างไฟอาจจะ… เอ่อ… งงๆ หน่อย… แต่ก็แค่นั้นเอง…

PNP แสงสว่าง… พลัง… 24V ที่เต้นระริก… เหมือนชีพจรของโรงงาน… แต่… ไฟตก… เงาที่คืบคลาน… แต่ช่างเถอะ… สมัยนี้… มันไม่ค่อยเกิดแล้ว… ระบบ PNP… ไม่ต้องกลัว…

✨ เลือกอะไรดี? เหมือนเลือกดาว… ดวงไหนที่ใจเรียกร้อง…✨

• NPN: 0V ส่งสัญญาณ… ปลอดภัย… เหมือนพื้นดิน…
• PNP: 24V กระแสแรง… แต่ต้องระวังไฟ… เหมือนเปลวไฟที่ต้องคอยดูแล…
• ไฟตก: ปัญหาเก่า… ที่ไม่ค่อยเกิดแล้ว…
• ช่างไฟ: อาจจะงงๆ… แต่ไม่เป็นไร… เดี๋ยวก็เข้าใจ…

พร็อกซิมิตี้เซ็นเซอร์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง?

พร็อกซิมิตี้เซ็นเซอร์หลักๆ มีสามแบบ:

• แบบความจุ: ตรวจจับการเปลี่ยนแปลงความจุไฟฟ้า เหมาะกับการตรวจจับวัตถุที่ไม่เป็นโลหะ ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารบ่อย

• แบบเหนี่ยวนำ: ไวต่อโลหะ ใช้งานง่าย ทนทาน ใช้ในระบบอัตโนมัติ โรงงาน เคยใช้กับสายการผลิตเครื่องดื่มของผม

• แบบอัลตราโซนิก: ใช้คลื่นเสียง ตรวจจับระยะไกลได้ เหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง ปีนี้เห็นใช้ในระบบจอดรถอัตโนมัติหลายรุ่น

ความแตกต่างหลักอยู่ที่วัสดุที่ตรวจจับได้และระยะตรวจจับ เลือกให้เหมาะกับงาน ไม่มีอะไรตายตัว ขึ้นอยู่กับบริบท

เซ็นเซอร์ Proximity แบบใดที่ใช้หลักการของแสง?

เซ็นเซอร์ Proximity ที่ใช้หลักการของแสง… มันคือ Infrared Proximity sensor ใช่ไหม

เหมือนว่ามันทำงานโดยการยิงแสงอินฟราเรดออกไป… แล้วก็รอรับแสงที่สะท้อนกลับมา

• หลักการทำงาน: ส่งแสงอินฟราเรด… วัตถุสะท้อนแสง… เซ็นเซอร์รับแสง

• ส่วนประกอบ: ตัวส่งอินฟราเรด… ตัวรับอินฟราเรด

• ชนิด: แยกตัวส่งตัวรับ… รวมอยู่ในชุดเดียว

เคยคิดนะ… แสงที่เรามองไม่เห็น… มันทำงานของมันเงียบๆ แบบนี้เอง

บางทีชีวิตเราก็เหมือนแสงอินฟราเรด… ส่งความหวังดีออกไป… รอใครสักคนสะท้อนกลับมา