น้ําหนักแม่ตั้งครรภ์ควรเพิ่มเท่าไหร่ในแต่ละไตรมาส

11 การดู

ดูแลสุขภาพระหว่างตั้งครรภ์ด้วยการควบคุมน้ำหนักอย่างเหมาะสม ปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนเพิ่มน้ำหนักที่ปลอดภัยสำหรับคุณ โดยเฉลี่ยแล้วคุณแม่ควรเพิ่มน้ำหนักประมาณ 1-2 กิโลกรัมในไตรมาสแรก และประมาณ 0.5 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ในไตรมาสที่สองและสาม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

น้ำหนักที่เปลี่ยนไป…กับการเดินทาง 9 เดือน: คู่มือการเพิ่มน้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

การตั้งครรภ์คือช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในชีวิตของคุณแม่ ไม่เพียงแต่ในด้านอารมณ์และความรู้สึก แต่ยังรวมถึงร่างกายที่ต้องปรับตัวเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารกน้อยในครรภ์ หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติและจำเป็นต่อสุขภาพของทั้งคุณแม่และลูกน้อย อย่างไรก็ตาม การเพิ่มน้ำหนักที่มากหรือน้อยเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ การทำความเข้าใจเรื่องการเพิ่มน้ำหนักที่เหมาะสมในแต่ละช่วงไตรมาสจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

ทำไมน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจึงสำคัญ?

น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ไม่ใช่แค่ “น้ำหนักส่วนเกิน” แต่เป็นผลรวมของปัจจัยหลายอย่างที่จำเป็นต่อการสร้างและเลี้ยงดูทารกน้อย ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักของทารกเอง น้ำคร่ำ รก เลือดที่เพิ่มขึ้น ปริมาณน้ำในร่างกายที่มากขึ้น และไขมันที่สะสมไว้เพื่อเป็นพลังงานสำรองสำหรับการให้นมบุตร

แล้วน้ำหนักควรเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ในแต่ละไตรมาส?

การเพิ่มน้ำหนักที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับดัชนีมวลกาย (BMI) ก่อนการตั้งครรภ์ของคุณแม่แต่ละท่าน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มดังนี้:

  • น้ำหนักน้อย (BMI < 18.5): ควรเพิ่มน้ำหนักรวม 12.5 – 18 กิโลกรัม
  • น้ำหนักปกติ (BMI 18.5 – 24.9): ควรเพิ่มน้ำหนักรวม 11.5 – 16 กิโลกรัม
  • น้ำหนักเกิน (BMI 25 – 29.9): ควรเพิ่มน้ำหนักรวม 7 – 11.5 กิโลกรัม
  • โรคอ้วน (BMI ≥ 30): ควรเพิ่มน้ำหนักรวม 5 – 9 กิโลกรัม

คำแนะนำสำหรับการเพิ่มน้ำหนักในแต่ละไตรมาส:

  • ไตรมาสแรก (สัปดาห์ที่ 1-13): ส่วนใหญ่คุณแม่อาจยังไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักมากนัก บางรายอาจมีอาการแพ้ท้องที่ทำให้เบื่ออาหารและน้ำหนักลดลงเล็กน้อย โดยเฉลี่ยแล้วควรเพิ่มน้ำหนักประมาณ 1-2 กิโลกรัมในไตรมาสนี้ สิ่งสำคัญคือการเน้นทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย แม้ว่าจะทานได้น้อยก็ตาม
  • ไตรมาสที่สอง (สัปดาห์ที่ 14-27): เป็นช่วงที่ร่างกายต้องการพลังงานมากขึ้นเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารก ควรเพิ่มน้ำหนักประมาณ 0.3-0.5 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูง ธาตุเหล็ก และแคลเซียม
  • ไตรมาสที่สาม (สัปดาห์ที่ 28-40): เป็นช่วงที่ทารกเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ควรเพิ่มน้ำหนักประมาณ 0.3-0.5 กิโลกรัมต่อสัปดาห์เช่นกัน เลือกทานอาหารที่มีกากใยสูงเพื่อป้องกันอาการท้องผูกที่มักเกิดขึ้นในไตรมาสนี้

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง:

  • การอดอาหารหรือทานน้อยเกินไป: การทำเช่นนี้อาจส่งผลเสียต่อการพัฒนาของทารก และทำให้คุณแม่ขาดสารอาหารที่จำเป็น
  • การทานอาหารขยะ (Junk Food) หรืออาหารที่มีน้ำตาลสูง: อาหารเหล่านี้ให้พลังงานที่ว่างเปล่า (Empty Calories) ซึ่งไม่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ และอาจทำให้น้ำหนักขึ้นเร็วเกินไป
  • การทานอาหารเสริมโดยไม่ปรึกษาแพทย์: อาหารเสริมบางชนิดอาจไม่ปลอดภัยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ: แพทย์หรือนักโภชนาการสามารถให้คำแนะนำเฉพาะบุคคลเกี่ยวกับการเพิ่มน้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่แต่ละท่าน โดยพิจารณาจาก BMI ก่อนการตั้งครรภ์ สุขภาพโดยรวม และปัจจัยอื่นๆ
  • ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่: เน้นอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายเบาๆ อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดความเครียด และส่งเสริมสุขภาพโดยรวม
  • ติดตามน้ำหนักอย่างสม่ำเสมอ: การชั่งน้ำหนักเป็นประจำ จะช่วยให้คุณแม่ทราบว่าน้ำหนักเพิ่มขึ้นในอัตราที่เหมาะสมหรือไม่

ข้อควรจำ: ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงแนวทางทั่วไป การเพิ่มน้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อวางแผนการเพิ่มน้ำหนักที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับคุณแม่แต่ละท่าน เพื่อให้การเดินทาง 9 เดือนนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและมีสุขภาพที่ดีทั้งคุณแม่และลูกน้อย

Disclaimer: ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลและความรู้ทั่วไปเท่านั้น ไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ หากมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับสุขภาพ โปรดปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ