รกค้าง หลังคลอดเกิดจากอะไร

รกค้างหลังคลอด: สาเหตุและแนวทางการจัดการ

รกค้างหลังคลอดเป็นภาวะที่รกไม่สามารถหลุดออกจากมดลูกได้ภายใน 60 นาทีหลังคลอดทารก ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้ ภาวะนี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

สาเหตุของรกค้าง

• รกฝังตัวลึก (Placenta Accreta): รกฝังตัวลึกเข้าไปในผนังมดลูกมากเกินไป ทำให้ยากต่อการแยกออกจากมดลูก
• มดลูกหดรัดตัวไม่ดี (Uterine Atony): มดลูกไม่หดรัดตัวหลังคลอด ทำให้รกไม่สามารถหลุดออกได้
• รกเกาะต่ำเกินไป (Placenta Previa): รกเกาะต่ำเกินไปจนปิดปากมดลูก ทำให้รกไม่สามารถหลุดออกได้
• มีพังผืดในมดลูก: พังผืดในมดลูกอาจขัดขวางการหลุดของรก
• รกเกาะขวาผิดปกติ: รกเกาะในตำแหน่งผิดปกติ เช่น เกาะด้านข้างหรือด้านบนของมดลูก
• รกขนาดใหญ่: รกที่มีขนาดใหญ่เกินไปอาจทำให้การหลุดลอกยากขึ้น
• การคลอดโดยผ่าตัดคลอด: การคลอดโดยผ่าตัดคลอดอาจเพิ่มความเสี่ยงของรกค้าง

แนวทางการจัดการรกค้าง

เมื่อพบว่ามีรกค้างหลังคลอด แพทย์จะดำเนินการดังนี้

• การจัดการด้วยมือ: แพทย์จะสอดมือเข้าไปในมดลูกเพื่อแยกและนำรกออก
• การใช้ยาเร่งการหดตัว: แพทย์อาจสั่งยาเร่งการหดตัวเพื่อกระตุ้นให้มดลูกหดรัดตัวและหลุดรก
• การแยกทางปากมดลูกด้วยเครื่องมือ: แพทย์จะใช้เครื่องมือแยกทางปากมดลูกเพื่อให้สามารถเข้าถึงรกได้ง่ายขึ้น
• การผ่าตัดมดลูก: ในกรณีที่ไม่สามารถจัดการรกค้างด้วยวิธีอื่นได้ แพทย์อาจต้องทำการผ่าตัดมดลูกเพื่อนำรกออก

ภาวะแทรกซ้อนของรกค้าง

รกค้างหลังคลอดอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนดังนี้

• ภาวะตกเลือดหลังคลอด: รกค้างอาจทำให้เกิดภาวะตกเลือดหลังคลอดได้
• การติดเชื้อ: รกค้างอาจเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อในมดลูก
• ภาวะช็อก: การตกเลือดอย่างรุนแรงจากรกค้างอาจทำให้เกิดภาวะช็อกได้
• ความเสียหายของมดลูก: การแยกรกค้างอาจทำให้มดลูกเสียหายได้ และในบางกรณีอาจต้องตัดมดลูกออก

การป้องกันภาวะรกค้างหลังคลอดเป็นเรื่องสำคัญ แพทย์จะพิจารณาปัจจัยเสี่ยงต่างๆ และดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรกค้าง

#ปัญหาสุขภาพ #รกค้าง #หลังคลอด