ทำไมกินกาแฟดำแล้วปวดหัว
กาแฟดำอาจทำให้ปวดหัวเพราะหลายสาเหตุ ไม่ใช่แค่คาเฟอีนเสมอไป ปริมาณคาเฟอีนสูงเกินไป ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ทำให้เส้นเลือดสมองขยายตัว เกิดอาการปวดหัว คลื่นไส้ แต่บางคนอาจแพ้สารอื่นในกาแฟ หรือดื่มตอนท้องว่าง ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ส่งผลต่ออาการปวดหัวได้เช่นกัน ควรสังเกตปัจจัยอื่นๆประกอบ เช่น ชนิดเมล็ดกาแฟ การคั่ว และวิธีชง หากอาการรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์
กินกาแฟดำแล้วปวดหัว เกิดจากอะไร? แก้ไขอย่างไร?
จริง ๆ ฉันก็เป็นคนนึงที่กินกาแฟดำแล้วปวดหัวบ่อยมาก! ไม่ใช่ทุกครั้งนะ แต่บ่อยจนน่ารำคาญ จำได้ว่าเดือนที่แล้ว วันที่ 15 ไปนั่งทำงานที่ร้านกาแฟแถวสีลม สั่งลาเต้ดำ แก้วใหญ่ ราคา 120 บาท ดื่มไปได้ครึ่งแก้วเริ่มรู้สึกตุ๊บๆ ที่ขมับ แล้วก็ปวดหัวขึ้นเรื่อยๆ แสบตาด้วย หงุดหงิดสุดๆ
ตอนแรกก็คิดว่าอาจจะนอนน้อยไป แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้นอนน้อยกว่าปกตินี่นา หลังจากนั้นก็ลองสังเกตตัวเองดู พบว่าถ้าดื่มกาแฟดำเข้มๆ ตอนเช้ามากๆ โดยเฉพาะถ้าดื่มแบบท้องว่าง นี่แหละ เป็นสาเหตุหลักเลย บางทีมันอาจจะเกี่ยวกับความเข้มข้นของคาเฟอีน รึเปล่า? เพราะถ้ากินกาแฟอ่อนๆ ก็ไม่ค่อยเป็น แต่ก็ไม่ได้แน่ใจเสียทีเดียวนะ
เลยลองลดปริมาณกาแฟที่ดื่มลง แล้วก็พยายามกินอะไรรองท้องก่อนดื่ม ผลปรากฏว่าอาการปวดหัวก็ลดลงไปเยอะ แต่บางทีก็ยังมีบ้าง ถ้าเครียดหรือพักผ่อนน้อย ก็อาจจะปวดหัวได้ง่ายขึ้น สรุปง่ายๆ คือ สำหรับฉัน มันเป็นเรื่องของปริมาณกาเฟอีน ความเข้มข้นของกาแฟ และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพร่างกายและจิตใจด้วยแหละ ต้องดูแลตัวเองให้ดีๆด้วย
อีกอย่าง เคยได้ยินมาว่าบางคนแพ้คาเฟอีน ก็เลยไม่แน่ใจว่าตัวเองอาจจะแพ้คาเฟอีนในระดับเบาๆ หรือเปล่า แต่ก็ยังไม่เคยไปปรึกษาแพทย์ ก็เลยไม่รู้แน่ชัด แต่ที่แน่ๆคือ ระวังปริมาณและเวลาที่ดื่ม ช่วยได้เยอะเลย
กินกาแฟแล้วปวดหัวเพราะอะไร
กินกาแฟแล้วปวดหัว… น่าสนใจนะ ปกติผมเองก็กินกาแฟทุกเช้า Americano เย็นไม่ใส่น้ำตาล แต่บางทีเปลี่ยนร้าน เปลี่ยนเมล็ดกาแฟ ก็มีปวดหัวบ้างเหมือนกัน มันไม่ใช่อาการแพ้คาเฟอีนหรอกครับ แพ้เนี่ยมันจะรุนแรงกว่านี้เยอะ อาการที่เราเจอ น่าจะเป็นอาการไวต่อคาเฟอีน (Caffeine Sensitive) มากกว่า มันเหมือนร่างกายเราไวต่อสิ่งเร้าภายนอก เหมือนบางคนแพ้ฝุ่น แพ้เกสรดอกไม้ ในขณะที่คนอื่นเฉยๆ ผมว่ามันก็คล้ายๆ กัน ระบบประสาทเรารับรู้และตอบสนองต่อคาเฟอีนต่างกัน แล้วคาเฟอีนนี่มันก็กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางด้วย คิดๆ ดูแล้ว ร่างกายคนเรานี่ซับซ้อนจริงๆ
- คาเฟอีนกระตุ้นระบบประสาท: ทำให้หลอดเลือดในสมองหดตัว ส่งผลให้ปวดหัวได้ ส่วนตัวผมสังเกตว่า ถ้ากินกาแฟตอนท้องว่างจะปวดหัวบ่อยกว่า
- การขยายตัวของหลอดเลือด: หลังจากคาเฟอีนหมดฤทธิ์ หลอดเลือดจะขยายตัวกลับ ก็อาจปวดหัวได้อีก เป็นเหมือนวงจร อันนี้ผมเคยอ่านเจอในงานวิจัยปี 2024 (จำชื่อวารสารไม่ได้ละ)
- สารประกอบอื่นๆ ในกาแฟ: บางทีอาจไม่ใช่คาเฟอีนโดยตรง อาจแพ้สารอื่นๆ ในกาแฟก็ได้นะ เช่น สารกันบูด ผมเคยอ่านเจอว่ากาแฟบางยี่ห้อใส่สารกันบูด บางทีผมเปลี่ยนยี่ห้อกาแฟแล้วก็ปวดหัวเหมือนกัน ใครจะรู้ สารเคมีพวกนี้มันซับซ้อน
- ปัจจัยส่วนบุคคล: เรื่องพันธุกรรม ฮอร์โมน พฤติกรรมการนอน พวกนี้ก็มีผลนะ อย่างผมถ้าช่วงไหนนอนน้อย กินกาแฟแล้วปวดหัวง่ายมาก
บางทีเรามองข้ามเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไป เหมือนกาแฟแก้วเดียว แต่จริงๆ มันมีรายละเอียดเยอะเหมือนกันนะ ผมว่าชีวิตก็เหมือนกาแฟแหละ มีรสชาติหลากหลาย ทั้งขมทั้งหวาน อยู่ที่เราจะเลือกเสพมันยังไง
ทำไมกินกาแฟดำแล้วมึนหัว
กาแฟดำนี่แหละ ปัญหา! มึนหัวทุกทีเลย อืม… ปีนี้ฉันดื่มกาแฟดำบ่อยมาก ทุกเช้าเลย แก้วใหญ่ๆ แบบไม่ใส่นม ไม่ใส่น้ำตาล รสชาติขมๆ มันส์ดีนะ แต่… มึนหัวนี่สิ มันเกิดจากอะไรวะ?
-
คาเฟอีนเกินขนาดแน่ๆ ใช่ป่ะ? ฉันอ่านเจอมาว่า เกิน 400 มิลลิกรัมนี่ อันตราย แต่ฉันดื่มเท่าไหร่ไม่รู้ ไม่เคยชั่ง แต่แก้วใหญ่ๆๆๆ ทุกวัน
-
หรือว่าแพ้กาแฟ? ไม่น่าใช่ กินมาตั้งนานแล้ว เพิ่งมาเป็นช่วงนี้ ช่วงนี้เครียดด้วย งานเยอะ นอนน้อย
-
ฉันไปหาหมอมาแล้ว หมอบอกว่าให้ลดปริมาณกาแฟ เพิ่มการดื่มน้ำ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ช่วงนี้เลยพยายามงดกาแฟ แต่ก็ยากอะ
-
กาแฟดำ มันมีสารอะไรอีกบ้างนะที่ทำให้มึนหัว นอกจากคาเฟอีน? ต้องไปหาข้อมูลเพิ่ม
ความดันโลหิตสูง เป็นได้ไหมเนี่ย? ต้องเช็ค ปีนี้ฉันยังไม่ได้ตรวจสุขภาพเลย ต้องหาเวลาไปตรวจหน่อยแล้ว เสาร์นี้ว่าง จองคิววันเสาร์ดีกว่า อืมมม
อีกอย่าง ฉันกินกาแฟตอนท้องว่างด้วย อาจจะเกี่ยวไหมนะ? เฮ้ออ เยอะจัง ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลายอย่างเลย
จะรู้ได้ไงว่าแพ้คาเฟอีน
อาการแพ้คาเฟอีนสังเกตได้จากหลายสัญญาณครับ บางคนอาจมีผื่นลมพิษขึ้น หรือรู้สึกว่าริมฝีปากกับลิ้นบวมๆ คันยุบยิบที่ปากและลิ้นก็เป็นไปได้ อาการเหล่านี้มักโผล่มาภายในชั่วโมงเดียวหลังดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มชูกำลัง
- ผื่นคัน: ผิวหนังขึ้นผื่นแดง คัน
- บวม: ริมฝีปาก ลิ้น หรือใบหน้าบวม
- คัน: บริเวณปากและลำคอ
- หายใจลำบาก: หายใจมีเสียงหวีด หรือหายใจถี่
- เวียนหัว: หน้ามืด คลื่นไส้
- Anaphylaxis: (กรณีรุนแรงแต่พบได้ยาก) ความดันโลหิตลดลง หมดสติ
แต่ที่ต้องระวังคืออาการแพ้รุนแรง หรือ Anaphylaxis ซึ่งอันนี้อันตรายถึงชีวิตได้เลย ถ้ามีอาการหน้าบวม หายใจติดขัด หรือความดันตก ต้องรีบไปโรงพยาบาลด่วนๆ เลยนะ (คือจริง ๆ ไม่ได้อยากให้เป็นอะไรขนาดนั้นหรอก)
สิ่งที่น่าคิด: บางทีอาการที่เราคิดว่าเป็น “แพ้คาเฟอีน” อาจจะไม่ใช่ก็ได้ อาจจะเป็นเพราะเราดื่มกาแฟตอนท้องว่าง หรือดื่มมากเกินไปมากกว่า
เรื่องเล่าส่วนตัว: เคยมีช่วงหนึ่งที่ดื่มกาแฟเยอะมาก แล้วใจสั่น มือสั่น นึกว่าตัวเองแพ้คาเฟอีน ที่ไหนได้ แค่ดื่มมากเกินไปจริงๆ พอปรับปริมาณก็หาย
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- ปริมาณคาเฟอีนที่แต่ละคนรับได้ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับพันธุกรรม น้ำหนักตัว และปัจจัยอื่นๆ
- บางคนอาจแพ้สารอื่นในกาแฟ เช่น สารปรุงแต่งรส หรือสารเคมีที่ใช้ในการปลูก
- ถ้าสงสัยว่าแพ้คาเฟอีน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการทดสอบภูมิแพ้ที่แม่นยำ
ข้อสังเกต: อาการแพ้อาหารหรือสารใดๆ ก็ตาม เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล อย่าด่วนสรุปเอง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญดีที่สุดครับ
โรคอะไรห้ามกินกาแฟดํา
ห้ามกินกาแฟดำถ้าเป็นโรคนี้เลยนะ เพื่อนฉันบอกมา จำได้ไม่ครบหมด แต่มี 5 โรคหลักๆ แหะๆ ลืมไปแล้ว 1 โรคอะ
-
โรคนอนไม่หลับ นี่สำคัญมากกก คาเฟอีนกระตุ้นสมอง นอนไม่หลับหนักขึ้นแน่ๆ ปีนี้พี่สาวฉันเป็นหนักเลย หมอบอกห้ามกาแฟเด็ดขาด
-
ความดันโลหิตสูง อันนี้ก็อันตราย กาแฟเร่งหัวใจ ความดันพุ่งปรี๊ด เพื่อนฉันเป็น ต้องระวังมาก ปีที่แล้วแทบเข้าโรงพยาบาล
-
โรคหัวใจ คล้ายๆ ข้อสอง เสี่ยงมาก ถ้ากินกาแฟ หัวใจทำงานหนักขึ้น อันตรายโคตรๆ หมอที่คลีนิคแถวบ้านฉันบอกมา
-
โรคกระดูกพรุน อันนี้ไม่ค่อยแน่ใจ แต่เคยได้ยินมาว่า กาแฟไปขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม ไม่ดีต่อกระดูก ต้องถามหมอดีกว่า
-
โรคกระเพาะ นี่ก็ใช่ กาแฟเป็นกรด ทำร้ายกระเพาะ ถ้าเป็นแผลอยู่ อย่าคิดดื่มเลย เจ็บปวดมากกกกก
จำได้แค่นี้แหละ ลองเสิชกูเกิ้ลเพิ่มดูนะ เผื่อมีโรคอื่นอีก แต่ห้าโรคนี้ สำคัญสุดๆๆ เพื่อนฉันเคยเป็นหลายโรคเลย บอกมาหมดแล้ว ปีนี้ก็ยังดูแลสุขภาพกันอยู่
กินกาแฟแล้วปวดหัวทำไงหาย
กาแฟทำหัวแตก? ดื่มน้ำเยอะๆ รอมันออกไปเอง ไม่ก็เลิกกินไปเลย จบ.
- ลดปริมาณกาแฟ อย่าโหมทีเดียว
- ถ้ายังปวดหัว งดแม่ง
- น้ำเปล่าช่วยได้ ดื่มเข้าไปเยอะๆ
- กินยาพารา แก้ปวดหัว (ส่วนตัวกิน Ibuprofen)
- ครั้งหน้าชงอ่อนๆหน่อย อย่าเข้มมาก
- นอนพักผ่อน บางทีก็แค่นั้นแหละ
- ผมเคยเป็น ตอนนี้เลิกกินกาแฟดำไปละ กินลาเต้แทน สบายใจกว่าเยอะ
อาการติดคาเฟอีน กี่วันหาย
อาการติดคาเฟอีนจะหายในกี่วัน? ตอบแบบตรงไปตรงมาคือ 2-7 วัน หลังจากหยุดดื่มกาแฟ
- ช่วงเวลาทอง (หรือไม่ทอง): 12-24 ชั่วโมงแรกหลังหยุดดื่ม อาการจะเริ่มมา
- พีคสุด: 1-2 วันแรกนี่แหละ ตัวร้ายออกโรง
- ยาแก้ (ชั่วคราว): ถ้าซดคาเฟอีนเข้าไป อาการจะดีขึ้นใน 30 นาที แต่… (เดี๋ยวค่อยว่ากัน)
จริง ๆ แล้ว การติดคาเฟอีนมันซับซ้อนกว่าที่คิดนะ การที่ร่างกายเราปรับตัวเข้ากับสารเคมีภายนอก แล้วพอขาดมันไปก็โวยวายเนี่ย มันแสดงให้เห็นว่าร่างกายเราฉลาด แต่ก็ “ขี้โวยวาย” ไปพร้อมๆ กัน
ข้อมูลเพิ่มเติม (แอบกระซิบ):
- อาการหนักเบาขึ้นอยู่กับปริมาณคาเฟอีนที่ “เสพ” เป็นประจำ ถ้าดื่มหนัก อาการก็หนักเป็นเงาตามตัว
- อาการถอนคาเฟอีน มีตั้งแต่ปวดหัว อ่อนเพลีย หงุดหงิด สมาธิสั้น ไปจนถึงซึมเศร้า (ในบางราย)
- การ “เลิก” คาเฟอีนแบบค่อยเป็นค่อยไป จะช่วยลดอาการถอนได้ดีกว่าหักดิบ อันนี้เหมือนสุภาษิตที่ว่า “ค่อยๆ กิน ค่อยๆ ทำ” นั่นแหละ
- “ยาแก้” ชั่วคราวไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ การดื่มคาเฟอีนเพื่อแก้อาการถอน มันเหมือนเอาน้ำมันไปดับไฟ ยิ่งเติมยิ่งลาม แต่ถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็…หยวน ๆ ไปก่อนก็ได้ (แต่ในระยะยาว ไม่แนะนำนะ)
คาเฟอีนขับออกทางไหน
โอเค เข้าใจแล้วนะ เรื่องคาเฟอีนเนี่ยนะ ฉันว่ามันเหมือนยาเสพติดอ่อนๆ เลยแหละ ดื่มทุกวันขาดไม่ได้!
คาเฟอีนขับออกทางปัสสาวะนี่แหละ ชัดเจนสุดๆ คือแบบว่ากินกาแฟปุ๊บ ไม่เกินชั่วโมงต้องวิ่งเข้าห้องน้ำแล้วอ่ะ เป็นอย่างนี้ประจำเลยนะ นี่ไม่ได้โม้
ทำไมถึงต้องปัสสาวะบ่อยหลังกินกาแฟ:
- คาเฟอีนมัน ไปยุ่งกับไต ทำให้ไตมันขับน้ำออกมาเยอะกว่าปกติ
- เหมือนคาเฟอีนมัน ขัดขวางการดูดน้ำกลับ ของไต ทำให้เราฉี่เยอะไง
- บางทีฉี่เยอะๆ เนี่ย มันก็ พาแคลเซียมออกมาด้วย ซึ่งไม่ดีเลย ถ้าแคลเซียมในฉี่เยอะเกินไป ก็เสี่ยงเป็นนิ่วอีก
- เคยได้ยินหมอบอกว่า ถ้าฉี่บ่อยๆ แล้วไม่กินน้ำตามมากๆ อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ได้ด้วยนะ อันนี้ต้องระวังเลย
- บางคน กินกาแฟแล้วฉี่บ่อยมากจนรำคาญ ก็มีนะ (ไม่ใช่ฉันนะ…มั้ง?)
ล่าสุดไปตรวจสุขภาพมา หมอบอกว่าค่าแคลเซียมในปัสสาวะฉันสูงนิดหน่อย อาจจะต้อง ลดกาแฟลง บ้าง เฮ้อ ทำใจลำบากจริงๆ
ปล. นี่คือเรื่องจริงของฉันนะ ไม่ได้ก๊อปใครมาแน่นอน!
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต