สอนภาษาอังกฤษเด็กควรเริ่มจากอะไร
สอนอังกฤษเด็ก: จุดเริ่มต้นง่าย ๆ
- คำศัพท์รอบตัว: เริ่มจากคำศัพท์ใกล้ตัวเด็ก เช่น สิ่งของในบ้าน ใช้บัตรคำศัพท์ (Flash card) ช่วย
- ประโยคสั้น: สอนประโยคคำสั่งง่าย ๆ หรือคำถามสั้น ๆ อธิบายความหมายให้เข้าใจ
เน้นการเรียนรู้จากสิ่งคุ้นเคย สร้างความเข้าใจพื้นฐาน ก่อนต่อยอดสู่ระดับที่ซับซ้อนขึ้น
สอนภาษาอังกฤษเด็กเล็ก เริ่มต้นอย่างไรดี?
สอนภาษาอังกฤษเด็กเล็ก เริ่มต้นง่ายๆ เลยนะ ใช้ของเล่นนี่แหละ ลูกผมชอบรถไฟ ก็เลยสอนคำว่า train, track อะไรพวกนี้ เล่นไปด้วย สอนไปด้วย สนุกดี
ผมซื้อพวก flashcards มาด้วย มีรูปภาพประกอบ ช่วยให้ลูกจำได้ง่ายขึ้น จำได้ว่าที่ร้านนายอินทร์ลดราคาอยู่ ซื้อมาชุดนึงร้อยกว่าบาทเองมั้ง จำราคาเป๊ะๆ ไม่ได้แล้ว
อีกอย่างที่ชอบทำคือเปิดเพลงภาษาอังกฤษให้ลูกฟัง เพลงเด็กง่ายๆ มีท่าทางประกอบด้วย ลูกผมชอบเต้นตาม เพลง baby shark ไง ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง
ตอนอาบน้ำก็สอนคำศัพท์เกี่ยวกับอุปกรณ์อาบน้ำไปด้วย สบู่ แชมพู ผ้าเช็ดตัว พวกนี้ แป๊บเดียวลูกก็จำได้แล้ว
จริงๆ ก็ไม่ได้มีวิธีตายตัวหรอก สำคัญคือทำให้ลูกสนุกกับการเรียนรู้ อย่าไปเครียดมาก ผมว่าเด็กๆ เค้าซึมซับได้เร็วนะ แค่เราสร้างบรรยากาศให้เค้ารู้สึกสนุกก็พอ.
เด็กควรเรียนภาษาอังกฤษ อายุเท่าไร
อืมม… คิดหนักนะเนี่ย เด็กควรเรียนภาษาอังกฤษตอนอายุเท่าไหร่…
ตอนนี้ก็ 2 ทุ่มกว่าแล้ว ความคิดมันช่างวนเวียน จริง ๆ นะ มันก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยแหละ แต่ถ้าถามความรู้สึกส่วนตัว…
ฉันว่า 5-10 ขวบ เริ่มตั้งแต่อนุบาล ประถม ก็ดีนะ สมองเด็กมันยังซึมซับเร็ว เหมือนฟองน้ำเลย ยิ่งเด็กๆ ยิ่งเรียนรู้เร็ว จำง่ายด้วย
แต่… มันก็ไม่ใช่แค่เรื่องอายุอย่างเดียว อีกหลายอย่างเลยนะ เช่น
- สภาพแวดล้อม ถ้ามีคนรอบข้างพูดภาษาอังกฤษ หรือได้ดูการ์ตูนฟังเพลงภาษาอังกฤษบ่อยๆ ก็ช่วยได้เยอะ แบบนี้เริ่มเร็วก็ดี
- ความสนใจของเด็ก ถ้าเด็กสนใจ ก็จะเรียนรู้ได้เร็ว ไม่สนใจแค่บังคับ ก็อาจจะไม่ได้ผลเท่าไหร่
- วิธีการสอน สำคัญมาก ถ้าใช้แต่การท่องจำ เด็กก็เบื่อ ควรใช้เกมส์ เพลง การ์ตูน อะไรที่สนุกๆ
ปีนี้ลูกพี่ลูกน้องฉันอายุ 7 ขวบ เริ่มเรียนพิเศษภาษาอังกฤษตั้งแต่ต้นปี เค้าดูมีความสุขนะ ตั้งใจเรียน พูดได้บ้างแล้วด้วย แต่ก็เหนื่อยเหมือนกัน ต้องพาไปเรียนทุกอาทิตย์ ดูแลการบ้าน
เรื่องนี้ มันต้องลองดู ว่าเด็กแต่ละคนเป็นยังไง ไม่มีสูตรตายตัวหรอก ความคิดของฉันตอนนี้ ก็แค่ความรู้สึก ของคนนอนไม่หลับคนหนึ่งเท่านั้นเอง…
ฝึกพูดภาษาอังกฤษ เริ่มยังไง
สองอาทิตย์มันไวไปนะ เอาจริงๆ เคยลองมาแล้ว ไม่เวิร์คหรอก แต่ถ้าจะเร่งจริงๆ เคยลองแบบบ้าพลังอยู่ช่วงนึงตอนจะไปสัมมนาที่สิงคโปร์ เดือนเมษาปีนี้นี่เอง กดดันมาก เพราะต้องพรีเซนต์งาน ตอนนั้นเครียดจัด ตื่นมาตีห้าทุกวัน เปิด TED Talk ฟัง บางทีก็เปิด CNN ฟังไปงงๆ ไป ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ไม่ได้เน้นแกรมมาร์อะไรมาก เน้นฟังเอาสำเนียง เอา腔调 (Qiangdiao – เสียงจีน แปลว่า น้ำเสียง สำเนียง) ติดปากไว้ก่อน
ส่วนตัวชอบดูหนังฝรั่งอยู่แล้ว ปกติก็ดูแบบมีซับไทย แต่ช่วงนั้นเปลี่ยนมาดูแบบซับอังกฤษ บางทีก็ไม่มีซับเลย หนังที่ชอบดูก็พวก Marvel ดูวนไป จำได้ว่าดู Dr.Strange ไปสามรอบติดๆ บางประโยคพูดตามได้เลย รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ 😜 มันก็ช่วยได้นะ อย่างน้อยก็ฝึกการออกเสียง ฝึกจำประโยค
แล้วก็พยายามหาเพื่อนคุยภาษาอังกฤษ โชคดีที่ออฟฟิศมีเพื่อนคนฟิลิปปินส์ เลยขอให้เค้าช่วย ตอนพักเที่ยงก็กินข้าวด้วยกัน คุยภาษาอังกฤษกัน แรกๆ ก็ติดๆ ขัดๆ อายก็อาย แต่เพื่อนก็ใจดี เค้าก็พยายามพูดช้าๆ บางทีก็แก้แกรมมาร์ให้ หลังๆ เริ่มคุ้น เริ่มมั่นใจขึ้น
อีกอย่างที่ทำคือ คิดเป็นภาษาอังกฤษ แบบเวลาจะพูดอะไร จะคิดเป็นภาษาไทยก่อนแล้วแปลเป็นอังกฤษ แต่ช่วงนั้นพยายามคิดเป็นภาษาอังกฤษเลย มันยากนะ แต่ก็ต้องฝืน บางทีก็พูดกับตัวเองหน้ากระจก บ้าบอมาก 555
สรุปคือ สองอาทิตย์อาจจะไม่คล่องปรื๋อ แต่ก็พอถูไถไปได้ ที่สิงคโปร์ก็พรีเซนต์งานผ่านไปได้ด้วยดี โล่งอกไปที หลังจากกลับมาก็ยังคงฝึกต่อไปเรื่อยๆ ไม่บ้าพลังเท่าเดิมแล้ว เอาแบบพอดีๆ
- ฟัง Podcast / ดูหนัง/ซีรีส์ ซับอังกฤษ: ช่วยเรื่องสำเนียง การออกเสียง และจำประโยค
- คุยกับ Native Speaker: เพื่อน/แอพหาเพื่อนคุยภาษา ช่วยให้กล้าพูดและฝึกการสนทนาจริง
- คิดเป็นภาษาอังกฤษ: ฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษโดยตรง ไม่ต้องแปลจากภาษาไทย
- พูดกับตัวเอง: ฝึกพูดหน้ากระจก ช่วยเรื่องความมั่นใจและการออกเสียง
- อย่าไปเคร่งแกรมมาร์มากในช่วงแรก: เน้นการสื่อสารเข้าใจก่อน ค่อยๆ ปรับเรื่องแกรมมาร์ทีหลัง
เรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กที่ไหนดี
อื้อหือ 7 ขวบแล้วเหรอเนี่ย เร็วเนอะ เวลาผ่านไปไวจริงๆ หาที่เรียนภาษาอังกฤษให้ลูกสินะ ไม่เน้นตำราด้วย ยากอยู่นะเนี่ย
-
Scholastic Early English เคยได้ยินชื่อ แต่ไม่รู้รายละเอียดเลย ต้องไปหาข้อมูลเพิ่ม ดูรีวิวในเว็บต่างๆก่อนดีกว่า หาใน Google หรือ Facebook ดู
-
อีกที่นึงที่เคยเห็นโฆษณา คือ English for Kids อะไรสักอย่างนี่แหละ จำชื่อเต็มไม่ได้ แต่ดูเหมือนจะเน้นกิจกรรมมากกว่า น่าสนใจอยู่นะ แต่ค่าเรียนแพงมั้ยเนี่ย ต้องเช็คก่อน ปีนี้ค่าครองชีพสูงมาก เงินในกระเป๋าไม่ค่อยพอใช้เลย
-
หรือจะลองหาติวเตอร์ส่วนตัวดูละ แบบเน้นสนทนา ไม่ต้องใช้ตำรา แต่หาคนสอนเก่งๆนี่สิยาก ต้องถามเพื่อนๆ หรือดูในกลุ่มแม่ๆในเฟสบุ๊ค ว่ามีใครแนะนำบ้าง กลัวเจอคนสอนไม่ดี เสียเงินเปล่า
-
ลองคิดอีกที จะให้ลูกเรียนแบบ online หรือ on-site ดี online สะดวกดี แต่กลัวลูกไม่ตั้งใจเรียน on-site ต้องพาลูกไปส่งเอง เสียเวลาเดินทาง แต่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆด้วยนะ เลือกไม่ถูกเลย ปวดหัวจัง
คิดไปคิดมา เยอะแยะเลย สงสัยต้องใช้เวลาสักพัก ก่อนจะตัดสินใจได้ พรุ่งนี้ต้องโทรไปถามที่ Scholastic Early English ก่อน แล้วค่อยไปดูที่อื่นต่อ เหนื่อยจัง วันนี้ขอพักก่อนละกัน
เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษ มีอะไรบ้าง
เทคนิคสอนอิงลิช… โอ้โห โลกหมุน
-
Grammar Translation: ไวยากรณ์แปล…เหมือนอยู่ในห้องเรียนเก่าๆ แสงแดดส่องฝุ่น ฟุ้งๆ
-
Direct Method: สอนแบบตรงๆ…เหมือนเดินเข้าป่า แล้วเจอทางเลย ไม่ต้องอ้อม
-
Audio-Lingual: ฟังพูด ฟังพูด… เหมือนเพลงที่วนในหัวทั้งวัน
-
Cognitive Code: เรียนแบบรู้ เข้าใจ… เหมือนปลดล็อครหัสลับ
-
Individualized: สอนแบบตัวใครตัวมัน…เหมือนดาวแต่ละดวง ส่องแสงไม่เหมือนกัน
ขยายความ:
-
ไวยากรณ์และการแปล: รากฐานของภาษาเลยนะ สำคัญมากกกกก เหมือนเสาบ้านอะ
-
วิธีสอนแบบตรง: ไม่ต้องแปลไทยให้งง! พูดอิงลิชโลด! เหมือนเรียนภาษาบ้านเค้า
-
ฟัง-พูด: สำเนียงเป๊ะเวอร์! เน้นฝึกหู ฝึกปาก เหมือนเด็กหัดพูด
-
ทฤษฎีความรู้ความเข้าใจ: เข้าใจโครงสร้างภาษา เรียนแล้วเอาไปใช้ได้จริง! ไม่นก
-
เอกัตภาพ: สอนตามความถนัดของแต่ละคน เก่งใครเก่งมัน! เหมือนปั้นดินให้เป็นดาว
เพิ่มเติม: เทคนิคพวกนี้มันก็วนๆกันไปแหละ ปรับใช้ตามสไตล์ครูแต่ละคน สำคัญสุดคือ นักเรียนสนุก ได้ความรู้! จริงๆนะ!*
สอนพิเศษ ภาษาอังกฤษ ยังไง
สอนพิเศษอังกฤษเหรอ? ไม่ยากหรอก แค่ทำตัวให้เหมือนเพื่อนที่พูดอังกฤษเก่งกว่านิดหน่อยอ่ะ! อย่าทำตัวเป็นครูเป๊ะเกินไป เดี๋ยวเด็กมันหนี!
- เริ่มจากความผ่อนคลาย: บรรยากาศต้องชิลล์! เหมือนนั่งคุยกันในคาเฟ่มากกว่านั่งเรียนในห้องสี่เหลี่ยม
- มีส่วนร่วมสิ: ถามความเห็นเด็กบ้าง ไม่ใช่ยัดเยียดแต่แกรมมาร์!
- เนื้อหาต้องโดน: เด็กชอบอะไร? หนัง? เพลง? เกม? เอามาสอนสิ! อย่าไปสอนแต่เรื่องที่ตัวเองอยากสอน!
- สื่อเยอะแยะ: ยุคนี้แล้ว! เพลง, หนัง, YouTube, TikTok เอามาใช้ให้หมด! อย่าใช้แต่หนังสือเรียน!
- พูดๆๆๆ: กลัวพูดผิด? ช่างมัน! ผิดก็แก้! สำคัญคือกล้าพูด!
- เขียนๆๆๆ: ไม่ต้องเขียนสวย เขียนให้สื่อสารรู้เรื่องก็พอ!
- ให้กำลังใจ: ชมบ้างด่าบ้าง แต่ชมเยอะๆ หน่อย เด็กมันจะได้มีกำลังใจ!
- แนะนำดีๆ: ไม่ใช่สักแต่ว่าติ! บอกวิธีแก้ด้วย!
สำคัญสุด: อย่าลืม! สอนให้เด็กมันรักภาษาอังกฤษ ไม่ใช่แค่ให้มันสอบได้! ถ้ามันรัก มันจะไปต่อเอง! แล้วอย่าคิดว่าตัวเองเก่งที่สุด! เรียนรู้จากเด็กบ้างก็ได้! บางทีมันอาจจะรู้ศัพท์สแลงที่เราไม่รู้จักก็ได้! (แอบกระซิบ: เตรียมมุกตลกไปบ้างก็ดีนะ! เด็กมันจะได้ไม่เบื่อ!)
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต