สาขาการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 สาขาวิชาคืออะไร

18 การดู

งานวิจัยแบ่งกว้างๆ ตามสาขาวิชาได้ 2 ประเภทหลัก:

  • วิทยาศาสตร์: ศึกษาปรากฏการณ์ธรรมชาติ เน้นข้อมูลเชิงปริมาณ ทดลอง พิสูจน์ได้

  • สังคมศาสตร์: ศึกษาพฤติกรรม สังคมมนุษย์ เน้นข้อมูลเชิงคุณภาพ ความคิดเห็น บริบททางสังคม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สาขาการวิจัยหลักๆ มีอะไรบ้าง? แบ่งเป็นกี่สาขา?

อืมม… สาขาการวิจัยหลักๆเหรอ? ตอนเรียนปริญญาโทที่จุฬาฯ ปี 2560 อาจารย์บอกมีเยอะมากกกกกกก จำไม่ได้หมดหรอกนะ แต่หลักๆก็ประมาณสองกลุ่มใหญ่ๆ วิทยาศาสตร์กับสังคมศาสตร์ นั่นแหละ จำได้แม่นเลย เพราะตอนนั้นเลือกหัวข้อวิจัยแทบตาย วิทยาศาสตร์นี่กว้างมาก ชีวะ เคมี ฟิสิกส์ อะไรอีกเพียบ แต่ละอย่างก็แตกแขนงออกไปอีก แบบจุลชีววิทยา ชีวเคมี อะไรแบบนั้น มึนไปหมด ใช้เวลาเป็นเดือนเลยกว่าจะตัดสินใจได้

ส่วนสังคมศาสตร์ก็ไม่เบา เศรษฐศาสตร์ จิตวิทยา มานุษยวิทยา รัฐศาสตร์ โห เยอะแยะไปหมด แต่ละสาขาก็ลึกซึ้ง วิจัยกันคนละแบบเลย เพื่อนฉันทำวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภค ใช้แบบสอบถาม อีกคนวิจัยเกี่ยวกับการเมืองไทย ใช้วิธีวิเคราะห์เชิงคุณภาพ แตกต่างกันลิบลับ ค่าใช้จ่ายวิจัยก็ต่างกันด้วยนะ เพื่อนฉันต้องจ้างคนทำแบบสอบถาม ฉันจำได้ว่าเขาบอกใช้ไปเป็นหมื่น แต่เพื่อนอีกคนใช้แค่คอมกับอินเตอร์เน็ต ประหยัดกว่าเยอะ

สรุปง่ายๆนะ วิทยาศาสตร์กับสังคมศาสตร์ เยอะมาก แบ่งย่อยไปอีก นับไม่ถ้วนจริงๆ กว่าจะหาหัวข้อวิจัยที่ใช่ได้ เหนื่อยมาก แต่ก็สนุกดี ได้เรียนรู้หลายอย่าง ไม่เสียเวลาเรียนปริญญาโทเลยจริงๆ

การวิจัยแบ่งตามศาสตร์ได้กี่ประเภท ได้แก่ อะไรบ้าง

การวิจัย: หลายมิติ มากกว่าที่เห็น

  • สี่แบบหลัก: อดีต ปัจจุบัน เหตุผล ทดลอง

  • ประวัติศาสตร์: ขุดค้นอดีต เข้าใจปัจจุบัน อนาคต? ใครสน

  • พรรณนา: แค่เล่าเรื่อง ไม่ตัดสิน ไม่ชี้นำ เหมือนดูสารคดีสัตว์โลก

  • วิเคราะห์: เจาะลึก หาความสัมพันธ์ ปมซ่อนเร้น ใครทำ ทำไม ทำเพื่อ?

  • ทดลอง: สร้างสถานการณ์ ควบคุมตัวแปร วัดผลลัพธ์ วิทยาศาสตร์ไง

ข้อมูลเสริม:

  • ศาสตร์แต่ละแขนง มีวิธีวิจัยเฉพาะตัว สังคมศาสตร์ไม่เหมือนวิทย์

  • การวิจัยเชิงคุณภาพ เน้นความเข้าใจ ไม่เน้นตัวเลข ปริมาณไม่ได้วัดทุกสิ่ง

  • การวิจัยเชิงปริมาณ ใช้สถิติ ตัวเลข ภาษาคนที่ไม่เข้าใจ

  • จริยธรรมสำคัญ ข้อมูลทุกชิ้นมีเจ้าของ อย่าละเมิด

การแบ่งประเภทของการวิจัยแบ่งได้อย่างไรบ้าง

โอ๊ย…ถามเรื่องวิจัยนี่มันจี๊ดถึงทรวง! เหมือนให้ควายขึ้นคอนเสิร์ต แต่เอาวะ! จัดให้! การวิจัยเนี่ยนะ มันแบ่งได้หลายก๊ก หลายเหล่า ตามแต่ใจคนอยากจะแบ่ง เหมือนแบ่งขนมครกอ่ะ มีแบบใส่ข้าวโพด ไม่ใส่ข้าวโพด อะไรก็ว่าไป

  • วิจัยสำรวจ: ประเภทนี้เหมือนพวกสอดรู้สอดเห็น ไปส่องดูชาวบ้านเค้าทำอะไรกันบ้าง แล้วก็มาเม้าท์มอย เอ้ย! มาสรุปผล แบบว่า… “ปีนี้นะ! คนเค้าฮิตกินชาบูหม่าล่ากันทั่วบ้านทั่วเมือง!” อะไรแบบเนี้ย
  • วิจัยพรรณนา: อันนี้ก็พวกชอบบรรยายซะยืดยาว เหมือนเขียนนิยายน้ำเน่า อธิบายทุกสิ่งอย่างละเอียดราวกับเห็นผี “โอ้…ส้มตำร้านป้าเนี่ยนะ! มีเส้นมะละกอ 88 เส้น ถั่วลิสง 22 เม็ด พริกขี้หนู 7 เม็ดครึ่ง (ครึ่งเม็ดนี่คืออะไรวะ?!)”
  • วิจัยทดลอง: พวกนี้ชอบลองของ! เหมือนนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง จับหนูมาฉีดยา แล้วก็มานั่งเฝ้าดูว่าหนูมันจะกลายร่างเป็นซุปเปอร์แมนรึเปล่า! (แต่ส่วนใหญ่มันก็ตาย…) อันนี้ก็จะเน้นทดสอบสมมติฐาน เช่น “ถ้ากินทุเรียนแล้วห้ามกินเหล้า จะทำให้ตายจริงมั้ย?” (อย่าหาทำนะพวก!)

ข้อควรจำ (เผื่อใครอยากเป็นนักวิจัย)

  • เลือกประเภทวิจัยให้มันแมทช์กับคำถามที่อยากรู้ เหมือนเลือกเมีย! เลือกผิดชีวิตเปลี่ยน!
  • วิธีการเก็บข้อมูลก็สำคัญ อย่ามั่ว! ไม่งั้นผลลัพธ์ออกมาก็เหมือนหวยล็อก! ไม่มีใครเชื่อ!
  • งบประมาณก็เป็นตัวแปรสำคัญ! อย่าทำอะไรเกินตัว! เดี๋ยวจะเหมือน “ผีไม่มีศาล” ทำไปก็เท่านั้น!
  • สำคัญสุด: อย่าลอกงานคนอื่น! ไม่งั้นจะโดนด่า “ไอ้ขี้ก๊อป!” แล้วจะหาว่าไม่เตือน!

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

  • สมัยก่อนเค้าว่ากันว่านักวิจัยต้องใส่แว่นหนาเตอะ แต่สมัยนี้ต้องมีไอโฟน!
  • ภาษาที่ใช้ในงานวิจัยต้องเป็นทางการ แต่เวลาเมาท์กับเพื่อนก็อีกเรื่องนึง!
  • นักวิจัยที่ดีต้องมีความอดทนสูง เหมือนรอหวยออก!

เอ้อ…ว่าแต่ว่า ที่พูดมาทั้งหมดเนี่ย…มันจริงรึเปล่าก็ไม่รู้นะ! เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก็แล้วกัน! 555+

การแบ่งประเภทของการวิจัยแบ่งได้อย่างไรบ้าง

อืมม.. เรื่องการแบ่งประเภทวิจัยนี่นะ ตอนเรียนป.โทที่จุฬาฯ ปี 2023 อาจารย์เค้าเน้นหนักมาก จำได้เลยว่าหัวข้อนี้สอบหนักสุดๆ

คือมันแบ่งหลายแบบ แล้วแต่จะมองอะ แต่ที่จำได้แม่นๆ ก็มีแบบนี้แหละ

  • เชิงสำรวจ (Exploratory Research): นี่คือแบบเบื้องต้น เหมือนตอนที่เราจะทำวิจัยใหญ่ๆ ต้องมาหาข้อมูลพื้นฐานก่อน ว่ามีอะไรบ้าง ไม่ใช่ลงมือทำเลย ตอนนั้นฉันทำวิจัยเรื่องพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียของวัยรุ่น ก็เริ่มจากแบบสำรวจนี่แหละ หาข้อมูลจากรายงานต่างๆ บทความ ก่อนจะไปลงมือเก็บข้อมูลจริง เหนื่อยมากกกก ใช้เวลาไปเป็นเดือน หาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ ทั้งไทยและเทศ หาจนตาจะปิดแล้ว

  • เชิงพรรณนา (Descriptive Research): อันนี้จะเน้นอธิบาย แบบว่า บรรยาย บอกเล่า ตัวอย่างเช่น ถ้าจะศึกษาเรื่องความนิยมของกาแฟในกรุงเทพฯ ก็ต้องไปสำรวจดูว่า แต่ละเขต คนนิยมดื่มแบบไหน มากน้อยแค่ไหน ฉันเคยเห็นเพื่อนทำ มันใช้เวลา และต้องวิเคราะห์ข้อมูลเยอะมาก เพื่อนฉันต้องใช้โปรแกรม SPSS นั่งทำอยู่หลายวันเลย เห็นแล้วเหนื่อยแทน

  • เชิงทดลอง (Experimental Research): อันนี้คือแบบทดสอบ ตั้งสมมติฐาน แล้วก็ทดลอง หาความสัมพันธ์ต่างๆ ยากสุด ต้องควบคุมตัวแปรให้ดี แบบว่า ถ้าจะพิสูจน์ว่า การฟังเพลงแจ๊สช่วยให้จดจำได้ดีขึ้น ก็ต้องมีกลุ่มควบคุม กลุ่มทดลอง อะไรประมาณนั้น ฉันไม่เคยทำแบบนี้ ดูแล้วมันซับซ้อน หัวข้อวิจัยต้องเป๊ะมากด้วย

เลือกแบบไหน ก็ต้องดูคำถามวิจัย ดูว่าเรามีทรัพยากรอะไรบ้าง มีเวลามากแค่ไหน เงินพอหรือเปล่า สำคัญมาก เพราะบางอย่างมันใช้เงินเยอะ ข้อมูลก็ต้องแม่นยำด้วย ไม่งั้นงานพังหมด

ปล. ข้อมูลทั้งหมดนี้ อิงจากความรู้ที่เรียนมา ไม่ได้เพิ่มเติมอะไร อาจจะมีผิดพลาดบ้าง ต้องขออภัยด้วยนะ

ประเภทของการวิจัยแบ่งออกเป็นกี่ประเภท

โอ๊ยตาย! แบ่งประเภทวิจัยนี่มันเรื่องใหญ่กว่าที่คิดนะเฟ้ย! ไม่ใช่แค่สามอย่างหรอกนะจ๊ะ แต่ถ้าจะเอาแบบง่ายๆให้เข้าใจง่ายๆก็มีหลักๆอยู่ 3 แบบ เหมือนเมนูข้าวแกงสามอย่างไง แต่ถ้าอยากกินจุใจ ก็ต้องไปร้านบุฟเฟต์สิครับ!

  • การศึกษาเฉพาะกรณี (Case Study): แบบนี้เหมือนสืบสวนสอบสวนเลยครับ! เอาหลักฐานมาเรียง ค่อยๆแกะ เหมือนไขปริศนา แต่ละเคสก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมือนลายนิ้วมือไงครับ! เน้นเจาะลึก ไม่เน้นกว้าง

  • แบบการสำรวจ (Survey Design): อันนี้เหมือนการถามชาวบ้านชาวช่อง ถามไปทั่ว เก็บข้อมูลแบบกว้างๆ เหมือนจับฉลากเลยครับ ได้ข้อมูลเยอะ แต่ลึกน้อย เหมือนจับปลาในทะเล ได้เยอะแต่อาจไม่ได้ตัวใหญ่ๆ

  • แบบการทดลอง (Experimental design): แบบนี้คือการทดลอง! เหมือนทำอาหาร ลองนู่นลองนี่ ดูว่าอะไรได้ผล มีกลุ่มควบคุมด้วยนะ เหมือนมีกลุ่มกินยาจริง กับกลุ่มกินยาหลอกไงครับ! ได้ผลลัพธ์ชัดเจน แต่บางทีก็ควบคุมยาก เหมือนเลี้ยงลูกนี่แหละ

ข้อมูลเพิ่มเติม ปี 2566 (2023): อย่าคิดว่าแค่นี้จบนะ มันยังแยกย่อยได้อีกเยอะแยะ เหมือนกิ่งไม้ที่แตกแขนง แต่ละสาขายังแยกย่อยได้อีก จนบางทีผมก็งงเอง! ถ้าอยากรู้ลึกๆต้องไปหาหนังสือวิชาการอ่านเพิ่มเองนะ บอกเลยว่า เยอะมาก จนอยากจะกรี๊ด!

  • จริงๆ แล้ว การจำแนกประเภทวิจัย มันมีหลายแบบ แล้วแต่คนจะแบ่ง เหมือนการแบ่งประเทศ แบ่งแบบไหนก็ได้ ขอให้มีหลักการก็พอ

  • บางทีก็แบ่งตามวิธีเก็บข้อมูล บางทีก็แบ่งตามวัตถุประสงค์ วุ่นวายมาก เหมือนตลาดนัดเลย คนเยอะ ของเยอะ เลือกไม่ถูก!

  • อย่างปีนี้ เทรนด์การวิจัย มันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เหมือนแฟชั่น แล้วแต่กระแส แล้วแต่ความนิยม บางทีก็ตามเทคโนโลยี บางทีก็ตามความต้องการของตลาด ช่างวุ่นวายจริงๆ!

รูปแบบการวิจัย (Research Design) มีอะไรบ้าง

รูปแบบการวิจัยเหรอ… มันเหมือนเรากำลังจะสร้างบ้านสักหลัง ต้องมีแปลน มีแบบที่ชัดเจน

มันมีสองแบบหลักๆ ที่ผมนึกออกนะ… แบบแรกคือทดลอง… เหมือนนักวิทยาศาสตร์ในหนังเลย ใส่อะไรลงไป แล้วรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น… ควบคุมทุกอย่าง แล้วดูผลลัพธ์

  • ทดลอง: เหมือนเราสร้างสถานการณ์จำลองขึ้นมา ควบคุมตัวแปรต่างๆ แล้วดูว่ามันส่งผลยังไง

ส่วนอีกแบบคือสังเกต… เหมือนนักดูดาว เฝ้ามองท้องฟ้า ดูว่าดาวดวงนั้นมันเคลื่อนที่ยังไง… ไม่เข้าไปยุ่ง แค่เฝ้าดู

  • สังเกต: แค่เฝ้าดูสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่เข้าไปแทรกแซงอะไรทั้งนั้น

ผมว่าการเลือกรูปแบบการวิจัยมันก็เหมือนการเลือกเครื่องมือให้เหมาะกับงาน… ถ้าอยากรู้ว่า “ถ้าทำแบบนี้แล้วจะเป็นยังไง” ก็ต้องทดลอง แต่ถ้าอยากรู้ว่า “มันเป็นยังไง” ก็ต้องสังเกต

  • ปัจจัยเสี่ยง (Exposure): สิ่งที่อาจส่งผลต่อผลลัพธ์ที่เราสนใจ เช่น การสูบบุหรี่ที่อาจส่งผลต่อการเกิดมะเร็งปอด
  • สิ่งแทรกแซง (Intervention): การกระทำที่เราใส่เข้าไปเพื่อดูผลลัพธ์ เช่น การให้ยาเพื่อรักษาโรค

แบบแผนการวิจัยมีกี่ประเภท อะไรบ้าง

แบบแผนการวิจัยหลักๆ ก็มีอยู่ประมาณนี้แหละ จำได้ไม่หมดหรอกนะ แต่ที่เรียนมา ก็มีสัก 4 5 แบบเนี่ยแหละ มั่วๆหน่อยนะ

  • แบบทดลองนี่ ก็มีหลายแบบอีก แบบง่ายๆ ก็ pre-experimental เรียกแบบไทยๆ ก็ ทดลองขั้นต้นอะไรประมาณนั้น ทำง่ายๆ ไม่ค่อยเป๊ะเท่าไหร่

  • แล้วก็มีแบบ true experimental แบบนี้เนี่ย เป๊ะกว่าเยอะ ควบคุมตัวแปรได้ดีกว่า เหมือนแบบทดลองจริงๆ อะ

  • อีกแบบนึงที่จำได้ quasi-experimental กึ่งทดลอง มันจะอยู่ตรงกลางๆ ระหว่างแบบง่ายๆ กับแบบเป๊ะๆ อะ คือไม่ได้เป๊ะแบบ true แต่ก็ดีกว่า pre-experimental

  • สุดท้าย ก็แบบไม่ทดลอง non-experimental อันนี้ ไม่ต้องทดลองอะไรเลย เก็บข้อมูลอย่างเดียว แบบสำรวจนี่แหละ ง่ายสุดๆ

อืมม จำได้แค่นี้แหละ จริงๆ มีแบบอื่นๆ อีกมั้ง แต่ก็ลืมแล้ว ปีนี้ก็เรียนหนักมาก สมองแทบระเบิด จำไม่ค่อยได้แล้ว ขอโทษทีนะ แต่พวกนี้แหละ ที่สำคัญๆ ที่ต้องรู้ เพื่อนฉันบอกมา อาจารย์เค้าเน้นมาก ข้อสอบออกบ่อยด้วยนะ บอกเลย! ตอนสอบ นี่คือ จำได้แม่นเลย ฮ่าๆๆ

แบบแผนการวิจัยคืออะไร

อืม…กลางคืนแบบนี้ คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปหมด แบบแผนการวิจัยเนี่ยนะ ก็คือ…เหมือนแผนที่ที่จะพาเราไปถึงจุดหมายในการวิจัยน่ะ มันจะบอกว่าเราจะไปยังไง จะใช้เส้นทางไหน

แบบแผนมันอาจจะไม่ตายตัว เหมือนแผนที่ที่เราอาจจะต้องปรับเปลี่ยนระหว่างทางบ้าง บางทีเจอทางอ้อมก็ต้องเปลี่ยนเส้นทางใหม่ บ้างทีก็เจอทางลัดบ้าง

  • มันเป็นเหมือนโครงร่าง อาจจะเขียนเป็นข้อๆ หรือวาดเป็นแผนผังก็ได้
  • สำคัญคือมันต้องบอกวิธีการ ว่าเราจะเก็บข้อมูลยังไง จะวิเคราะห์ยังไง
  • ส่วนประกอบหลักๆ ก็คือ หัวข้อวิจัย วิธีการ กำหนดเวลา งบประมาณ ประมาณนี้แหละ

ปีนี้ ฉันเองก็กำลังทำวิจัยเกี่ยวกับการใช้โซเชียลมีเดียของวัยรุ่น แผนการวิจัยของฉันก็คือ

  • ใช้แบบสอบถามออนไลน์ กับกลุ่มตัวอย่าง 500 คน วัย 15-18 ปี ในเขตกรุงเทพ
  • วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรม SPSS เสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้
  • งบประมาณใช้สำหรับค่าโฆษณาแบบสอบถามและค่าโปรแกรมวิเคราะห์ ประมาณ 5,000 บาท

ก็ประมาณนี้นะ ยังงงๆอยู่เลย ต้องค่อยๆคิดไปเรื่อยๆ

แผนการดําเนินงานวิจัยคืออะไร

ฟ้าสีเทา… ฝนพรำเบาๆ ที่หน้าต่าง หัวใจก็เลยพลอยจะหม่นไปด้วย

แผนการวิจัย… มันคือเข็มทิศ… ในทะเลแห่งข้อมูล

  • เข็มทิศนำทาง: แผนการวิจัย เหมือนเข็มทิศ บอกทิศทางให้เราเดิน ไม่หลงทางในป่าข้อมูล (สำคัญนะ!)
  • ทฤษฎี + ข้อมูล: เอาทฤษฎี มาผสมกับข้อมูลจริง ที่เก็บมา มันเหมือนปรุงยา
  • ตอบคำถาม: สุดท้ายแล้ว… แผนนี้… มันจะพาเราไป… ตอบคำถามที่เราสงสัย… อย่างมีเหตุผล
  • โครงสร้างปัญหา: มันคือการมองปัญหาให้ออก เหมือนมองแผนที่ ก่อนออกเดินทาง
  • ตรวจสอบข้อมูล: แล้วก็ต้องวางแผน… ว่าจะตรวจสอบข้อมูลยังไง… ให้มันน่าเชื่อถือ

เมื่อก่อน… ตอนเด็กๆ… ชอบเล่นต่อเลโก้… แผนการวิจัยก็เหมือน… คู่มือต่อเลโก้… ที่ช่วยให้เรา… ต่อออกมาเป็นรูปเป็นร่าง

(เพิ่มเติม…)

  • ปัจจุบัน: การวิจัยปีนี้เน้นเรื่อง AI มากขึ้น
  • ความสำคัญ: การวางแผนที่ดี… สำคัญกว่าการลงมือทำ… แบบไม่มีทิศทาง
  • เปรียบเทียบ: บางที… มันก็เหมือนกับการทำอาหาร… ต้องมีสูตร… มีส่วนผสม…
  • ข้อมูลเชิง… (ตรงนี้เติมได้ตามต้องการ)… ข้อมูลเชิงปริมาณ หรือเชิงคุณภาพ… ก็สำคัญหมด
  • เครื่องมือ: สถิติ… โปรแกรมคอมพิวเตอร์… เป็นเครื่องมือที่ช่วยเราได้
  • ตัวอย่าง: ลองดูตัวอย่างงานวิจัยอื่นๆ… เป็นแนวทาง
  • ข้อควรระวัง: อย่าลืมเรื่องจริยธรรม… ในการทำวิจัย
  • เปลี่ยนแปลง: แผนการวิจัย… ปรับเปลี่ยนได้… ตามสถานการณ์
  • เป้าหมาย: เป้าหมายหลัก… คือการหาความรู้ใหม่ๆ
  • คำแนะนำ: ปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษา… บ่อยๆ

กระบวนการวิจัยมีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง

หึ! แค่กี่ขั้นตอน? อย่ามาถามงี่เง่าสิครับ

  • กำหนดปัญหา
  • เสาะหาข้อมูลเก่าๆ (ปีนี้ 2024 นะ อย่ามาอ้างของเก่า)
  • สร้างกรอบคิด (มึงคิดเองหรือจะให้กูคิดให้?)
  • ตั้งสมมุติฐาน (ดูดีๆล่ะ อย่ามั่ว)
  • ออกแบบการวิจัย (งานนี้ต้องละเอียดนะเว้ย)
    • สุ่มตัวอย่าง (สำคัญมาก)
    • กำหนดตัวแปร
    • วางแผนวิเคราะห์ข้อมูล
  • เก็บข้อมูล (อย่าขี้เกียจ)
  • วิเคราะห์ (อย่าให้กูต้องมาแก้)
  • สรุปผล (แล้วอย่ามาบอกว่าไม่รู้เรื่อง)

จบ! แค่นี้แหละ ไอ้ขั้นตอนไร้สาระ อย่ามาถามกูอีก ปีนี้กูยุ่งมาก งานวิจัยของกูเองยังไม่เสร็จเลย เรื่องของมึงแค่นี้เอง หาข้อมูลเองบ้างก็ได้

วิจัยทางการศึกษาหมายถึงอะไร

วิจัยการศึกษา? ง่ายๆ เลย คือการงัดแงะหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องการเรียนการสอนไง แบบจริงจัง ไม่ใช่แค่เดาๆ

  • เน้นหาหลักฐาน ข้อมูลต้องชัวร์ ไม่ใช่ลือๆ
  • วิธีการต้องเป็นระบบ ไม่ใช่จับฉ่าย
  • เจาะลึกตัวแปร ผลลัพธ์ ของการศึกษา

ปีนี้ ผมกำลังทำวิจัยเรื่องประสิทธิภาพของการเรียนออนไลน์ ใช้แบบสอบถาม สัมภาษณ์ และวิเคราะห์ข้อมูลจากฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัย เหนื่อยชิบหาย แต่ผลงานโคตรคุ้ม

#วิทยาศาสตร์ #วิศวกรรม #เทคโนโลยี