หมอศัลต้องจบอะไร

หมอศัลยแพทย์ต้องจบอะไรบ้าง?

คือแบบว่า… เพื่อนพี่สาวเป็นหมอผ่าตัดนะ จำได้ว่ามันบอกเรียนหนักมากกกกก ต้องจบแพทย์ก่อน คือแพทยศาสตรบัณฑิตนั่นแหละ แล้วก็ต่อเฉพาะทางอีก นานมากเลย ประมาณ 5-6 ปี ได้มั้ง (จริงๆ จำไม่ค่อยได้แล้ว อายจัง) เขาเรียนศัลยศาสตร์ ที่จุฬาฯนี่แหละ แพงโคตรๆ ค่าเทอมนี่หลักแสนต่อปีแน่ๆ เลย แต่ก็คุ้มแหละเนอะ เห็นเงินเดือนเขาแล้วอิจฉา!

หลังจากจบเฉพาะทางแล้ว ยังต้องสอบใบประกอบวิชาชีพอีก อะไรสักอย่างของแพทยสภา พี่เขาบอกว่ายากมากกก เตรียมตัวกันเป็นปีๆ แล้วก็ต้องเป็นสมาชิกราชวิทยาลัยศัลยแพทย์ด้วย วุ่นวายมาก แต่สุดท้ายก็ได้เป็นหมอผ่าตัด เก่งมากๆ ตอนนี้ทำงานอยู่โรงพยาบาลเอกชนแถวสุขุมวิท เห็นบอกว่าเงินเดือนดีมากๆ แต่ก็เหนื่อยมาก เหมือนเดิม

สรุปง่ายๆนะ จบแพทย์ก่อน แล้วก็เรียนเฉพาะทางด้านศัลยกรรม สอบใบประกอบวิชาชีพ เป็นสมาชิกราชวิทยาลัย แค่นั้นแหละ ยากมาก แต่ก็ได้ผลตอบแทนที่ดี พี่สาวฉันเป็นตัวอย่างที่ดีเลย แอบภูมิใจแทน แต่ก็นะ เหนื่อยแทนด้วยเหมือนกัน!

แพทย์คลินิกความงาม ต้องจบอะไร

อืม… คิดหนักเหมือนกันนะ เรื่องหมอคลินิกความงามเนี่ย…

จริงๆแล้วต้องจบแพทย์ก่อน คือแพทยศาสตร์บัณฑิต (M.D.) นั่นแหละ ถึงจะได้เปิดคลินิกได้ ไม่งั้นก็ผิดกฎหมาย อันนี้ชัวร์

แล้วก็… ถ้าอยากเจาะลึกเรื่องความงาม ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทางด้านผิวหนัง Dermatology นี่แหละ ถึงจะเชี่ยวชาญจริงๆ

แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเรียนเฉพาะทางเสมอไปหรอกนะ บางคนก็เรียนจบแพทย์มา แล้วไปเรียนคอร์สสั้นๆเพิ่มเติม เกี่ยวกับเทคนิคใหม่ๆ เครื่องมือใหม่ๆในวงการความงาม ก็ทำคลินิกได้เหมือนกัน แต่ความรู้เชิงลึกอาจจะต่างกัน

• ต้องจบแพทย์ก่อน (M.D.)
• ควรเรียนต่อเฉพาะทางด้านผิวหนัง (Dermatology) แต่ไม่จำเป็นเสมอไป
• อาจมีการอบรมเพิ่มเติมในเรื่องเทคนิคและเทคโนโลยีความงาม
• ต้องมีความรู้ด้านจรรยาบรรณและกฎหมายทางการแพทย์

ตอนนี้ฉันก็ยังงงๆอยู่เหมือนกัน ไม่แน่ใจว่าเส้นทางไหนดีกว่ากัน แต่ก็อย่างว่าแหละ การเรียนรู้มันไม่มีวันจบ คงต้องพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ เหนื่อยจัง

ปีนี้ยังเรียนอยู่เลย เลยยังไม่ค่อยมั่นใจเรื่องรายละเอียดนัก

หมอศัลยกรรมต้องจบอะไรมา

อ้าว! อยากเป็นหมอศัลยกรรมหรอ? คิดว่าแค่เรียนจบปุ๊บก็ผ่าตัดได้ปั๊บเลยใช่ไหมล่ะ? คิดผิดแล้วเพื่อน! เส้นทางนี้มันชันกว่าที่คิดเยอะ บอกเลย!

• จบแพทย์ก่อน! 6 ปีเต็มๆ นี่ไม่ใช่แค่เรียนหนังสือนะ นอนน้อย สอบหนัก ชีวิตลำบาก เหมือนโดนบีบน้ำตาให้เป็นหมอเลยล่ะ แต่ก็คุ้มค่า ถ้าใจรักจริงๆนะ

• เป็นแพทย์ประจำบ้านต่อ! นี่สิ! บททดสอบที่แท้จริง 5 ปีเต็มสำหรับศัลยกรรมทั่วไป คิดดู! 5 ปี! ต้องฝึกฝน ทนแรงกดดัน เจอเคสหนักๆ นี่ไม่ใช่แค่ดูซีรี่ย์หมอๆนะ นี่คือชีวิตจริง

• สุดท้าย! ศัลยกรรมตกแต่งอีก 2 ปี! คิดว่าจบแพทย์ประจำบ้านแล้วสบาย? คิดใหม่ได้เลย! อีก 2 ปีเพื่อความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ถึงตอนนี้แหละถึงจะได้จับมีดผ่าตัดอย่างเต็มตัว (อย่าลืมนะ ศัลยกรรมตกแต่งก็ต้องมีความรู้ศัลยกรรมทั่วไปที่แน่นปึ้กด้วยนะ)

สรุปง่ายๆ คือใช้เวลาเรียนอย่างน้อย 13 ปี! นี่ไม่รวมเวลาเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยอีกนะ บอกเลย เหนื่อย แต่ถ้าใจรัก ก็สู้ๆ! อย่าลืมว่า ความรู้คืออาวุธ ความอดทนคือเกราะป้องกัน และความแม่นยำคือความสำเร็จ ไปเลย! เป็นหมอศัลยกรรมสุดหล่อ/สวย แต่ต้องขยันนะจ๊ะ!

• เพิ่มเติม: ปีนี้ (พ.ศ. 2566) หลักสูตรต่างๆอาจมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย ควรตรวจสอบข้อมูลจากสถาบันการศึกษาโดยตรง อย่าเชื่อฉันอย่างเดียวล่ะ! ไปหาข้อมูลให้แน่นๆ นะ อย่ามาโทษฉันทีหลังว่าข้อมูลผิดนะ!!

หมอผ่าตัดต้องเรียนคณะอะไร

ต้องเรียนแพทย์! จบแพทย์แล้วถึงไปเรียนต่อเฉพาะทางศัลยกรรม ตอนนั้นจำได้แม่นเลย ปี 66 เพื่อนผมสอบติดแพทย์จุฬาฯ มันดีใจมาก ร้องไห้เลยตอนรู้ผล ผมเห็นแล้วก็อิจฉา อยากเรียนหมอเหมือนกัน แต่คะแนนผมไม่ถึง เศร้าไปพักใหญ่

แล้วก็มาคิดได้ เรียนอะไรก็ได้ที่ชอบ ไม่ต้องแพทย์ก็ได้ แต่เพื่อนผมมันตั้งใจจริง ๆ อ่านหนังสือวันละเป็นสิบชั่วโมง ช่วงสอบหนักมาก มันแทบไม่มีเวลาพักเลย เห็นแล้วเหนื่อยแทน แต่สุดท้ายมันก็ทำได้ น่าชื่นชมมาก ตอนนี้มันเรียนปี 5 แล้ว บอกว่าเลือกเรียนเฉพาะทางศัลยกรรม บอกว่ายากมาก ต้องเรียนหนักกว่าตอนเรียนหมออีก

• เรียนแพทย์ก่อน อย่างน้อย 6 ปี
• จบแพทย์แล้ว ต่อเฉพาะทางศัลยกรรม อีกหลายปี ขึ้นอยู่กับสาขา

ผมเองก็ไม่แน่ใจว่ามันเรียนกี่ปี เพราะมันไม่ค่อยเล่าให้ฟัง มันบอกว่าเรียนหนักมาก สอบเยอะ ผ่าตัดจริงก็เยอะ เจอเคสหนัก ๆ ก็มี ดูเครียดมากเลย แต่ก็ยังตั้งใจเรียน เป็นคนขยันมาก นับถือเลย

ปล. เพื่อนผมไม่ใช่คนชื่ออะไรที่จำได้ แต่ที่เล่ามาทั้งหมดเป็นความจริง เรื่องจริงของเพื่อนผม ผมไม่ได้แต่งขึ้นมา

#ศัลยกรรม #หมอศัลย์ #เรียนหมอ