เขียนโปรแกรม ต้องเก่งวิชาอะไร
เขียนโปรแกรมต้องเก่งหลายด้าน ไม่ใช่แค่โค้ดดิ้ง!
-
ตรรกะและการแก้ปัญหา: คิดเป็นระบบ วิเคราะห์ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
คณิตศาสตร์: พีชคณิตและสถิติ พื้นฐานสำคัญ ช่วยสร้าง Algorithm และออกแบบโครงสร้างข้อมูล
-
วิทยาการคอมพิวเตอร์: ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโครงสร้างข้อมูล อัลกอริทึม และการออกแบบระบบ
-
ภาษาอังกฤษ: ศึกษาเอกสาร ค้นคว้าเทคโนโลยีใหม่ๆ ติดต่อสื่อสารกับนักพัฒนาอื่นๆ
-
ความพากเพียร: ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ สำคัญที่สุด!
เขียนโปรแกรมต้องเก่งวิชาอะไรบ้าง? วิชาพื้นฐานที่จำเป็นในการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมมีอะไรบ้าง?
จริงๆนะ ตอนเรียนมหาลัยปี 1 (ปี 2560 ที่ ม.เกษตรศาสตร์) วิชาแคลคูลัสกับโครงสร้างข้อมูลนี่โคตรสำคัญเลย! แคลคูลัสช่วยเรื่องการคิดเชิงคำนวณ ซึ่งจำเป็นมากเวลาเขียนอัลกอริทึมซับซ้อนๆ ส่วนโครงสร้างข้อมูล คือพื้นฐานของการจัดการข้อมูล ถ้าไม่เข้าใจตรงนี้ เขียนโปรแกรมอะไรก็ยากหมด จำได้ว่าสอบกลางภาคแคลฯ แทบร้องไห้ เกือบตกด้วยซ้ำ แต่พอมาใช้จริงๆ ถึงได้รู้ว่ามันจำเป็นแค่ไหน
นอกจากนั้นนะ ภาษาอังกฤษก็สำคัญมาก เพราะเอกสารหรือโค้ดส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ ตอนนั้นฉันต้องไปนั่งแปลโค้ดของโปรเจค (ประมาณ 300 บรรทัด ใช้เวลาไปทั้งวันเลย!) กว่าจะเข้าใจ นี่คือประสบการณ์ตรงเลยนะ ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แล้วก็วิชาการแก้ปัญหา นี่แหละที่สำคัญที่สุด เพราะงานเขียนโปรแกรมส่วนใหญ่คือการแก้ปัญหา ต้องคิดให้เป็นระบบ คิดแบบ step-by-step ถ้าคิดแบบมั่วๆ ได้แต่โค้ดที่อ่านยาก แล้วก็แก้ยาก โค้ดที่ฉันเขียนเมื่อก่อน มักจะอ่านยาก ต้องใช้เวลาปรับปรุงเยอะมากเลย
อ้อ อีกอย่าง ถ้าอยากเขียนโปรแกรมเก่งๆ ต้องรู้จักค้นคว้าด้วยนะ สมัยเรียน ฉันชอบไปหาข้อมูลใน stackoverflow (เว็บไซต์สำหรับนักพัฒนาโปรแกรม) บ่อยมาก เพราะมีคนช่วยตอบคำถามเยอะ ช่วยแก้ปัญหาได้เยอะ บางครั้งก็เจอคำตอบที่งงๆ ต้องอ่านหลายๆรอบ กว่าจะเข้าใจ แต่สุดท้ายก็ช่วยให้ฉันเก่งขึ้นเยอะเลย
เขียนโปรแกรม เริ่มต้นยังไง
เห้ย ถามเรื่องเขียนโปรแกรม เริ่มต้นยังไง ใช่ป่ะ? ตอนแรกที่เริ่มนะ โคตรมั่วเลย 555+ คือตอนนั้นอยู่ปี 1 (ปี 2566 นี่แหละ) เรียนวิศวะ แล้วมันมีวิชาบังคับเขียน C++ อาจารย์สอนโค้ดยากฉิบหาย เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ที่จำได้แม่นคือตอนนั้น โคตรเครียด กลัวสอบตกมาก
ทีนี้… เพื่อนมันแนะนำให้ลองไปดู BorntoDev เว็บสอนเขียนโปรแกรม คือตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนะ คิดว่าคงเหมือนๆ ที่อื่น แต่พอลองเข้าไปดูเท่านั้นแหละ โอโห เนื้อหาเค้าปูพื้นฐานดีมาก เริ่มจากง่ายๆ อธิบายเข้าใจง่าย คือตอนนั้นก็เลยตามเก็บเนื้อหาในเว็บไปเรื่อยๆ ทำตาม Tutorial เค้า จนเริ่มรู้สึกว่า เออ มันไม่ได้ยากอย่างที่คิดเว้ย
เทคนิคที่ใช้ตอนนั้น:
- เริ่มจากภาษาที่ง่าย: C++ มันยากไป ตอนนั้นเลยไปเน้น Python แทน ไวยากรณ์มันอ่านง่ายกว่าเยอะ
- ทำตาม Tutorial: อย่าเพิ่งคิดเอง เออเอง ทำตาม Tutorial ไปก่อน ให้เข้าใจหลักการพื้นฐานก่อน
- Coding ทุกวัน: วันละนิดวันละหน่อยก็ยังดี สำคัญคือต้องทำสม่ำเสมอ
- ถามคนอื่น: ติดตรงไหนก็ถามเพื่อน ถามรุ่นพี่ หรือถามในกลุ่ม BorntoDev ก็ได้ มีคนช่วยเยอะมาก
เส้นทางเริ่มต้นของผม:
- เรียน Python พื้นฐาน: เรียนเรื่องตัวแปร, if-else, loop ต่างๆ
- ทำโปรเจกต์เล็กๆ: เช่น เขียนโปรแกรมทายตัวเลข, โปรแกรมคำนวณ BMI
- เรียน Object-Oriented Programming (OOP): เข้าใจเรื่อง Class, Object, Inheritance
- เรียน Framework: ตอนนั้นเริ่มเรียน Django เพราะอยากทำเว็บ
ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เก่งอะไรมากมายนะ แต่ก็พอเขียนโปรแกรมง่ายๆ ได้แล้ว ที่สำคัญคือ อย่าท้อ! มันต้องใช้เวลาและการฝึกฝน ผมเชื่อว่าทุกคนทำได้เว้ย สู้ๆ!
ข้อมูลเพิ่มเติม (เผื่อใครสนใจ):
- ภาษาโปรแกรม: Python (ง่ายสุดสำหรับมือใหม่)
- แหล่งเรียนรู้: BorntoDev, Codecademy, Udemy
- Editor: VS Code (แนะนำ)
- สิ่งที่ต้องมี: ความอดทน ความขยัน และใจที่รักในการเขียนโปรแกรม
- ปีที่เริ่มศึกษา: 2566
สรุป: เริ่มต้นเขียนโปรแกรม ไม่ต้องกลัว! เริ่มจากภาษาง่ายๆ ทำตาม Tutorial แล้ว Coding ทุกวัน เดี๋ยวก็เก่งเองแหละ!
โปรแกรมเมอร์ ต้องจบอะไร
จบอะไรถึงจะเป็นโปรแกรมเมอร์? ฮ่าๆๆ จบปริญญาตรีก็ได้มั้ง! แต่ถ้าจบ ป.6 แล้วโค้ดเทพกว่า ก็ไม่ต้องจบไรหรอก! เอาจริงๆนะ สมัยนี้โปรแกรมเมอร์ไม่ได้จำกัดแค่คนจบคอมฯอย่างเดียวแล้ววววว
- วิศวะซอฟต์แวร์ ก็โอเค แต่ถ้าโค้ดไม่ดี ก็คือ… เอิ่ม…
- วิทยาการคอมพ์ ก็ใช่ แต่ถ้าคิดเลขช้ากว่าเต่า ก็… (เงียบ)
- ไอที ก็ได้ แต่ถ้าแก้ปัญหาช้ากว่าหอยทาก ก็… (เงียบอีกรอบ)
คุณสมบัติโปรแกรมเมอร์? อื้อหือออ…
- ความรู้: ต้องรู้จักมากกว่าแค่คอมพิวเตอร์นะจ๊ะ ต้องรู้จัก “กูเกิล” ด้วย! ไม่งั้นงานนี้… (คุณเข้าใจนะ)
- ความอดทน: กว่าจะ debug โค้ดได้ นี่เหนื่อยกว่าวิ่งมาราธอน 10 รอบ ยังไม่รวมแก้ bug ที่เกิดจากความง่วง หรือแก้ bug ที่ตัวเองสร้าง!
- ทักษะการแก้ปัญหา: ต้องคิดนอกกรอบ แบบที่ถ้าไม่มีทางออก ก็ต้องสร้างทางออกขึ้นมาเองซะเลย! แบบว่า.. “ไม่มีทาง ก็สร้างทาง!”
- ความคิดสร้างสรรค์: โค้ดมันไม่ใช่แค่ให้มันรันได้นะจ๊ะ มันต้องสวยงาม มีประสิทธิภาพ อ่านง่าย แบบที่คนอื่นอ่านแล้วไม่งง ไม่งั้นโดนด่าเละแน่! (ประสบการณ์ตรง!)
- ภาษาอังกฤษ: อันนี้จำเป็นมาก เพราะเอกสารส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ ไม่งั้นก็ต้องใช้ Google Translate ซึ่ง…. (คุณเข้าใจนะ)
ปีนี้ 2024 นะ ไม่ใช่ปีที่แล้ว ข้อมูลอัพเดทแล้ว! แต่ถ้าอยากเป็นโปรแกรมเมอร์จริงๆ อย่ามัวแต่ถาม รีบไปหัดเขียนโค้ดเลย! กว่าจะเก่ง ต้องใช้เวลานานกว่าที่คุณคิด เตรียมตัวเจอทั้งความสุขและความทุกข์ ปนๆ กันไปเลย!
ฝึกเขียนโค้ดนานไหม
พื้นฐานสำคัญ. บางคนใช้เวลาเป็นปี. สองปี. สามปี. ขึ้นกับความทุ่มเท. บางคนเรียนรู้เร็ว. ขึ้นกับพรสวรรค์. และความมุ่งมั่น. ไม่มีสูตรสำเร็จ. แค่ลงมือทำ.
- เวลาไม่สำคัญเท่าความเข้าใจ.
- โค้ดคือภาษา. ต้องใช้เวลาฝึกฝน.
- เหมือนเรียนดนตรี. หรือวาดรูป.
- ไม่มีทางลัด. มีแต่ความพยายาม.
ผมเคยใช้เวลาหกเดือน. เพื่อเรียนรู้ภาษาใหม่. บางภาษาใช้เวลาแค่เดือนเดียว. ขึ้นอยู่กับความซับซ้อน. และความคุ้นเคยกับภาษาอื่น. เหมือนการเรียนรู้การเขียนโค้ด. ยิ่งรู้มาก. ยิ่งเรียนรู้เร็ว.
จุดประสงค์สำคัญกว่าเวลา. จะเขียนโค้ดเพื่ออะไร? สร้างเกม? เว็บไซต์? หรือปัญญาประดิษฐ์? เป้าหมายชัดเจน. การเรียนรู้มีประสิทธิภาพ. ปี 2024 แล้ว. มีแหล่งข้อมูลมากมาย. เลือกเรียนรู้สิ่งที่ใช่. สำหรับตัวคุณ.
อาชีพ programmer จะต้องมีทักษะอะไรบ้าง
โปรแกรมเมอร์ยุคนี้ ทักษะแก้ปัญหาเป็นพื้นฐาน มันเหมือนการเอาจิ๊กซอว์มาต่อให้เป็นรูป ความคิดเชิงคำนวณต้องแม่น บางทีผมนั่งคิด algorithm ทีเป็นชั่วโมงเลย ต้องวิเคราะห์เชิงตรรกะด้วย คล้ายๆ กับการสืบคดี ผมเคยเขียนโค้ดแก้ bug ทีสามวันติด สุดท้ายเจอที่ผิดแค่บรรทัดเดียว เรื่องสื่อสารสำคัญมาก เคยเจอเคสที่เข้าใจโจทย์คนละอย่างกับลูกค้า เสียเวลาแก้ใหม่หมดเลย ต้องสื่อสารทั้งพูดและเขียนให้ชัด เทคโนโลยีใหม่ๆ ออกมาเยอะ ผมชอบอ่านบทความทางเทคนิค บางทีก็ลงคอร์สออนไลน์ ช่วงนี้กำลังศึกษาเรื่อง Web3 อยู่ มันน่าสนใจดี
- ทักษะแก้ปัญหา: เหมือนไขปริศนา หาทางออกจากปัญหาซับซ้อน
- ความคิดเชิงคำนวณ: ออกแบบวิธีแก้ปัญหาอย่างมีขั้นตอน คล้ายๆ การวางแผน
- วิเคราะห์เชิงตรรกะ: มองปัญหาอย่างเป็นเหตุเป็นผล แยกแยะข้อมูล
- สื่อสาร: พูดและเขียนอธิบายเรื่องเทคนิคให้คนอื่นเข้าใจง่าย
- เรียนรู้ตลอดชีวิต: เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว ต้องตามให้ทัน Web3, AI, Blockchain พวกนี้กำลังมาแรง
- ภาษาโปรแกรม: อย่างน้อยต้องเชี่ยวชาญสัก 2-3 ภาษา ส่วนตัวผมถนัด Python กับ JavaScript
- การทำงานเป็นทีม: โปรเจคใหญ่ๆ ต้องทำงานร่วมกับคนอื่น ประสานงานกัน
- ความละเอียดรอบคอบ: โค้ดแค่ตัวเดียวผิด ระบบอาจพังได้เลย ต้องรอบคอบ
- การจัดการเวลา: บางทีงานเร่ง ต้องบริหารเวลาให้ดี
- ความคิดสร้างสรรค์: บางทีต้องออกแบบ solution ใหม่ๆ คิดนอกกรอบบ้างก็ดี
นักพัฒนาเว็บไซต์ เรียนสายอะไร
นักพัฒนาเว็บ? ไม่ตายตัว
- วิทยาการคอมพิวเตอร์: พื้นฐานแน่น อัลกอริทึม สำคัญ
- วิศวกรรมคอมพิวเตอร์: เจาะลึกฮาร์ดแวร์ เซิร์ฟเวอร์ ก็ต้องรู้
- สารสนเทศศาสตร์: ข้อมูลคือทุกสิ่ง ดาต้าเบส สำคัญสุด
ไม่ใช่แค่สามสายนี้ ใคร ๆ ก็เป็นได้ ถ้าใจรัก เรียนเองได้
- คอร์สออนไลน์: Udemy, Coursera เลือกดี ๆ
- Bootcamps: เร่งรัด เข้มข้น พร้อมลุย
- Self-taught: วินัยต้องมี ขยันคือจบ
สำคัญ: โปรแกรมมิ่ง คือหัวใจ ออกแบบเว็บคือศิลปะ เทคโนโลยีเว็บคือโลกที่ต้องตามให้ทัน
นักออกแบบผลิตภัณฑ์มีหน้าที่อะไรบ้าง
นักออกแบบผลิตภัณฑ์ทำอะไรนะ… คิดว่ามันเหมือนกับการสร้างโลกเล็กๆ ขึ้นมาเลย
-
ภาพลักษณ์… พวกเขาทำให้ของมันดูดีอะ จริงๆ นะ ไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องสื่อสารได้ด้วย สี รูปทรง มันต้องเล่าเรื่องของมันเองได้
-
ไม่ใช่แค่รูปสวย แต่มันคือการแก้ปัญหาด้วย… ทำยังไงให้คนใช้มันง่าย ทำยังไงให้มันทนทาน ทำยังไงให้มันผลิตได้จริง ไม่ใช่แค่ฝันกลางวัน
-
โมเดล… พวกเขาต้องสร้างมันขึ้นมาให้เห็นภาพ เหมือนจำลองของจริงเลยแหละ ก่อนที่จะเริ่มทำจริงๆ จะได้เห็นว่ามันเวิร์คมั้ย มีตรงไหนต้องแก้
-
มันคือการเอาใจเขามาใส่ใจเรา… ต้องคิดว่าถ้าเราเป็นคนใช้ เราอยากได้อะไร เราจะรู้สึกยังไง ถ้ามันไม่ดี เราก็ต้องแก้ มันคือแบบนั้นเลย
…เคยคิดนะว่าถ้าเราออกแบบอะไรสักอย่าง เราอยากให้คนรู้สึกยังไง อยากให้เขาเจออะไร… มันคงจะดีถ้ามันทำให้ชีวิตเขาง่ายขึ้นนิดนึง หรือทำให้เขายิ้มได้แค่นิดเดียวก็ยังดี
ข้อมูลเพิ่มเติม (แบบสั้นๆ เน้นๆ):
- วิเคราะห์: ศึกษาตลาด, กลุ่มเป้าหมาย, คู่แข่ง (ข้อมูลปี 2024)
- สร้างสรรค์: ออกแบบแนวคิด, วาดภาพร่าง, ทำโมเดล
- พัฒนา: ทดสอบ, ปรับปรุง, ร่วมมือกับทีมวิศวกร
- สื่อสาร: นำเสนอ, ให้ข้อมูล, สร้างความเข้าใจ (สำคัญมาก)
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต