การสืบค้นข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ คืออะไร
การสืบค้นข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์:
คือการค้นหาข้อมูลผ่านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เช่น ฐานข้อมูลออนไลน์, หนังสืออิเล็กทรอนิกส์, และอินเทอร์เน็ต แตกต่างจากการสืบค้นด้วยมือแบบเดิมที่ใช้บัตรรายการหรือดรรชนี ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วและสะดวกกว่า
การสืบค้นข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์คืออะไร?
คือแบบนี้ ตอนเรียนมหาลัยปี 2 วิชาสารสนเทศศึกษา อาจารย์สอนให้จำแนกการสืบค้นข้อมูลเป็นสองแบบหลักๆ อ่ะ จำได้ไม่ค่อยแม่น แต่หลักๆ ก็คือแบบแรก แบบ Manual System นั่นแหละ ใช้มือล้วนๆ สมัยก่อน พวกบัตรรายการ บัตรดรรชนี วารสาร มันต้องค่อยๆ ค้นหาเอง ใช้เวลานานมาก แบบว่า หาข้อมูลเรื่องเดียว บางทีก็ใช้เวลาเป็นวัน เหนื่อยสุดๆ!
อีกแบบ คือ Computer System นี่แหละ สะดวกกว่าเยอะ! จำได้ตอนนั้น เราใช้ฐานข้อมูลออนไลน์ แล้วก็พวก e-journal e-book หาข้อมูลได้ไว แค่พิมพ์ keyword ปุ๊บ ข้อมูลโผล่มาเพียบ ประหยัดเวลาไปได้เยอะ แต่ก็มีข้อเสียเหมือนกันนะ คือบางทีข้อมูลมันเยอะเกินไป ก็ต้องใช้เวลาคัดกรองข้อมูลอยู่ดี อย่างน้อยก็ดีกว่าแบบแรกเยอะ ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการค้นหาแบบงมเข็มในมหาสมุทร ตอนนั้น เดือนตุลาคม 2560 จำได้เลย เพราะสอบวิชาชีวะ ต้องใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูลตรงนี้ ถึงสอบผ่านมาได้
เอาเป็นว่า การสืบค้นข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ มันก็คือการใช้เทคโนโลยีช่วย ให้การค้นหาข้อมูลทำได้ง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น แต่เราก็ต้องรู้จักวิเคราะห์ และคัดกรองข้อมูลให้เป็นด้วยนะ ไม่งั้น จะจมอยู่กับข้อมูลเยอะแยะ จนหาอะไรไม่เจอเหมือนเดิม!
การสืบค้นข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ คืออะไร
หาอะไร? ก็การค้นข้อมูลในคอมพิวเตอร์ไงวะ ง่ายๆแค่นี้แหละ
- ไม่ต้องอธิบายซับซ้อน มันก็คือการดึงข้อมูลที่ต้องการจากฐานข้อมูลนั่นแหละ
- ปีนี้ก็ยังใช้หลักการเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักหรอก
- เอาให้ตรงประเด็น ไม่ต้องมาเสวนา ถ้าอยากรู้ลึก ก็ไปหาอ่านเองซะ
ส่วนไอ้ Manning, Raghaven & Schütze ปี 2008 อะไรนั่น ก็เป็นแค่หนึ่งในหลายๆแหล่งอ้างอิง มันก็ถูกต้องแหละ แต่ไม่ใช่พระเจ้า โลกมันหมุนไปเรื่อยๆ ข้อมูลก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ อย่าไปยึดติดมาก
การสืบค้นข้อมูลด้วยอินเทอร์เน็ตคืออะไร และมีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไรบ้าง
โอ้โห! การสืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตนี่มันเหมือนการงมเข็มในมหาสมุทรเลยนะ แต่ว่ามหาสมุทรนี้มีปลาทองเพียบ! (ปลาทองหมายถึงข้อมูลนั่นแหละ)
ขั้นตอนมันง่ายกว่าที่คิดเยอะ อย่าไปคิดว่าเป็นภารกิจลับระดับชาติ แค่ทำตามนี้:
-
กำหนดคำหลักเทพๆ: อย่าใช้คำกว้างๆแบบ “แมว” สิ มันมีแมวล้านตัวบนเน็ต! ลองใช้ “แมวเปอร์เซียสีขาวที่มีตาสีฟ้าและชอบนอนคว่ำ” ดูสิ แม่นยำกว่าเยอะ! (นี่คือประสบการณ์ตรงจากการหาข้อมูลทำรีวิวแมวของผมเอง)
-
ป้อนคำหลักลงเครื่องมือค้นหา: Google, Bing, DuckDuckGo อันไหนก็ได้ แต่ผมชอบ Google เพราะมัน…ฉลาด (หรือเปล่า?) เหมือนมันรู้ใจผม (แอบคิดว่ามันแอบดักฟังผมอยู่ตลอดเวลา)
-
เลือกดูผลลัพธ์อย่างมีวิจารณญาณ: นี่แหละสำคัญ! อย่าเพิ่งเชื่อทุกอย่าง เหมือนกับการเลือกเพื่อน ต้องดูดีๆ ว่าเว็บไซต์นั้นน่าเชื่อถือแค่ไหน เว็บไหนดูดี เว็บไหนเหมือนทำมาลวกๆ ดูจากแหล่งอ้างอิง วันที้อัพเดทข้อมูล และดูให้ดีว่ามันมีกลิ่นอาย “หลอกลวง” ไหม (เคยเจอเว็บบอกสูตรลดน้ำหนักด้วยการกินแต่น้ำเปล่ามาแล้ว อื้อหือ!)
-
ประเมินความน่าเชื่อถือ: นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุด! ดูที่โดเมน (.com, .org, .edu มีความน่าเชื่อถือต่างกัน) ผู้เขียนเป็นใคร? มีแหล่งอ้างอิงไหม? ข้อมูลมีความเป็นกลางหรือชี้นำมากเกินไป? (เคยเจอเว็บโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบสุดโต่งมาแล้ว โชคดีที่ผมไม่หลงกล)
ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2024):
-
เครื่องมือค้นหาเฉพาะทาง: นอกจาก Google แล้ว ลองใช้เครื่องมือค้นหาเฉพาะทาง เช่น Google Scholar สำหรับงานวิชาการ หรือใช้เครื่องมือค้นหาภาพอย่าง Pinterest จะช่วยให้การค้นหาแม่นยำขึ้น เหมือนใช้มีดผ่าตัดแทนใช้มีดปังตอ
-
การใช้ตัวกรองและคำสั่งขั้นสูง: เรียนรู้การใช้ตัวกรองและคำสั่งขั้นสูงใน Google เช่น “filetype:pdf” เพื่อค้นหาไฟล์ PDF หรือ “site:edu” เพื่อค้นหาเฉพาะเว็บไซต์การศึกษา จะช่วยประหยัดเวลาได้เยอะ เหมือนมีพลังงานเวทย์มนต์ช่วยค้นหา
สุดท้ายแล้ว การค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตก็เหมือนการเดินทาง ต้องมีแผนที่ (คำหลัก) มีพาหนะ (เครื่องมือค้นหา) และที่สำคัญ ต้องมีสติและวิจารณญาณ ไม่งั้นอาจหลงทางไปเจอข้อมูลผิดๆ ได้ง่ายๆ
ประเภทการสืบค้นข้อมูลมีกี่ประเภท
การสืบค้นข้อมูล? แค่ทางแยก
- ข้อเท็จจริง: ตรงไปตรงมา จบ
- เหมือนถามอุณหภูมิวันนี้…จบ
- สำรวจ: อยากรู้อยากเห็น เปิดโลก
- ค้นหาเทรนด์ใหม่ๆ ไร้จุดหมาย
- วิเคราะห์: เจาะลึก หาความหมาย
- ทำไมยอดขายตก? ต้องรู้ให้ได้
- นำทาง: ไปให้ถึงที่หมาย
- Google Maps…แค่นั้น
ความจริงซ่อนอยู่ระหว่างบรรทัดเสมอ
ประเภทของการค้นหาข้อมูลมีอะไรบ้าง
แสงแดดอ่อนๆยามเช้า… ลมพัดโชยมาหอมกลิ่นดอกปีบ ตรงระเบียงบ้านฉันที่เชียงใหม่ ปีนี้…
-
ไล่เรียง(Browse): เหมือนเดินเล่นในสวนดอกไม้ ค่อยๆ เดิน ค่อยๆ ชม เลือกดอกไม้ที่สวยถูกใจ ค้นหาข้อมูลแบบไม่เร่งรีบ เปิดเว็บแล้วคลิกดูไปเรื่อยๆ เหมือนหลงอยู่ในโลกแห่งความรู้
-
ค้นหาด้วยคำหรือวลี (Keyword): คม! เหมือนใช้มีดคมๆ ผ่าตัดตรงเข้าไปที่แก่นของเรื่องที่ต้องการ แม่นยำ รวดเร็ว ฉันใช้ Google ค้นหา “ประวัติศาสตร์ศิลปะล้านนา” ได้ข้อมูลตรงประเด็น ปีนี้งานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะมาก
-
ค้นหาหลายคำ (Expert): โอ้! นี่คือการค้นหาแบบผู้เชี่ยวชาญ ต้องรู้จักใช้คำที่เจาะจง ละเอียดอ่อน เหมือนการแกะรอย ค้นคว้า ฉันใช้ฐานข้อมูล JSTOR ปีนี้ได้อ่านบทความวิชาการ เรื่องการทอผ้าพื้นเมืองของภาคเหนือ ลึกซึ้งเหลือเกิน
อากาศเย็นสบาย… กาแฟร้อนๆ สักแก้ว… ความรู้ที่ได้มา เหมือนหยดน้ำค้าง สดชื่น เปี่ยมล้น…
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม: ปีนี้ฉันใช้ Google Scholar, ฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่ เป็นหลัก
โปรแกรมอะไรบ้างที่ใช้ในการสืบค้นข้อมูล
โปรแกรมสืบค้นข้อมูล?
- Web browser: Chrome, Firefox, Safari จบนะ
- Search engine: Google, Bing, DuckDuckGo แค่นี้พอ
Search Engine Site ที่นิยม (ปี 2567)?
- Google: กินขาดทุกตลาด ไม่ต้องสงสัย
- ครองส่วนแบ่งตลาด >80% ทั่วโลก ใครๆ ก็รู้
- Bing: พยายามต่อไปนะ Microsoft
- ฝังตัวใน Windows เฉยๆ คนก็ยังใช้ Google
- Yahoo: ยังอยู่อีกเหรอ?
- เคยยิ่งใหญ่ ตอนนี้เป็นแค่เงาจางๆ
- ใช้ Bing เป็น engine หลัก ไม่ใช่ความผิด Yahoo หรอก
- Baidu: จีนเท่านั้นที่เข้าใจ
- เบอร์หนึ่งในประเทศจีน กฎหมายใครกฎหมายมัน
- DuckDuckGo: ความเป็นส่วนตัวคือทุกสิ่ง
- ไม่ตามรอย ไม่เก็บข้อมูล แต่ผลลัพธ์อาจไม่ตรงใจ
- Yandex: รัสเซียสไตล์
- ครองตลาดในรัสเซีย ก็แค่ประเทศเดียว
เพิ่มเติม: Search engine แต่ละตัวมี algorithm ต่างกัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็ต่างกัน เลือกใช้ตามความต้องการ
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต