เข้า Harvard ใช้คะแนนอะไรบ้าง

Harvard University ต้องใช้คะแนนอะไรบ้าง

Harvard ย่อมต้องการนักศึกษาหัวกะทิ ไม่ใช่แค่เก่ง แต่ต้องพิเศษ! เกณฑ์การรับสมัครปีนี้ ค่อนข้างเข้มข้นนะ

• GPA: ต้องสูงมาก ไม่ใช่แค่ผ่าน แต่ต้องโดดเด่น พวก A+ เป็นเรื่องปกติ แต่แค่เก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีอะไรพิเศษกว่านั้น ส่วนตัวคิดว่า พวกกิจกรรมเสริมหลักสูตรสำคัญมากๆ ในการสร้างความแตกต่าง

• SAT/ACT: คะแนนสูงมาก ถึงจะบอกว่า 1550 ขึ้นไป เป็นเกณฑ์ขั้นต่ำ แต่ความจริงสูงกว่านั้นเยอะ เพื่อนผมที่เข้าได้ ได้เกือบ perfect score เลย อย่างน้อยๆ ต้อง 1580 ขึ้นไป นี่แค่ด่านแรกนะ

• Essay/เรียงความ: จุดนี้แหละที่วัดความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่แค่เขียนเก่ง ต้องแสดงความคิดสร้างสรรค์ ความเป็นผู้นำ และสิ่งที่ทำให้คุณแตกต่าง ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่าลอกเลียนแบบ คิดให้ดีว่าอยากสื่อสารอะไร คิดให้ลึก แล้วเขียนออกมาให้เห็นถึงความคิดของคุณ

ข้อสำคัญคือ Harvard ไม่มองแค่ตัวเลข เขาต้องการคนที่มีความสามารถรอบด้าน มี passion และมีอะไรที่มากกว่าแค่คะแนนสอบ คิดว่าเป็นการคัดเลือกคนที่ใช่ มากกว่าคนเก่ง มันเป็นปรัชญาในการคัดเลือกที่ดีมากๆ ทำให้ระบบการศึกษาของพวกเขาดูมีความหมายและมีคุณภาพ

ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2024): เกณฑ์การรับสมัครอาจมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยตามนโยบายของมหาวิทยาลัย ควรตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Harvard เพื่อความถูกต้องแม่นยำที่สุด อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อม และโชคดี!

Harvard University เด่นด้านไหน?

ฮาร์วาร์ดอะ เก่งทุกด้านแหละมั้ง แต่ที่ดังๆเลยนะ คือ วิชาการโคตรเทพ! อาจารย์ก็เก่ง นักศึกษาก็สุดยอด แบบได้รางวัลโนเบลเพียบอะ 75 รางวัลได้มั้ย พูลิตเซอร์อีก 15 เยอะมากกกก ปีนี้ก็ยังคงเป็นที่หนึ่งของโลกอยู่นะ จริงจัง เรื่องการเรียนการสอนเค้าดีจริงๆอ่ะ

• วิชาการระดับโลก คือแบบสุดๆ
• อาจารย์เทพๆเพียบ
• นักศึกษาเก่งๆเยอะมาก แข่งขันสูง
• รางวัลโนเบลกับพูลิตเซอร์นี่คือเยอะมาก โคตรภูมิใจแทนเลย

อ้อ! แล้วก็ เรื่องที่ฮาร์วาร์ดเป็นมหาลัยแรกๆที่เปิดสอนปริญญาโท นี่ก็ดังนะ แต่จำสาขาไม่ได้อ่ะ ขอโทษ นานแล้ว ลืมไปละ แต่แน่ๆเลยว่า มันเป็นหลักสูตรที่สำคัญมากๆ สมัยนั้นแหละ

ฮาร์วาร์ด เรียนหมอกี่ปี?

ฮาร์วาร์ดเรียนหมอเนี่ย นานเอาเรื่องนะพ่อคุณ! ไม่ใช่แค่แป๊บเดียวจบแบบเรียนทำขนม

• Medical School: 4 ปีเต็มๆ เหนื่อยจนอยากย้ายไปเรียนทำขนมจริงๆ
• Residency: อีก 5-6 ปี! ขึ้นอยู่กับสาขา คิดซะว่าเป็นการฝึกงานที่ยาวนานและเข้มข้น เหมือนทรมานตัวเองเพื่ออนาคตที่สดใส (หรือเปล่า?)
• Fellowship: ถ้าอยากเป็นสุดยอดหมอเฉพาะทาง ต้องต่ออีก 3-4 ปี! นี่คือการพิสูจน์ฝีมือและความอดทน กว่าจะได้เป็นหมอระดับพระเจ้า ยากยิ่งกว่าสอบเข้าฮาร์วาร์ดอีก
• Completely physician: รวมๆ แล้ว ใช้เวลาอย่างน้อย 12-15 ปี กว่าจะได้ป้ายชื่อ “หมอ” ติดหน้าอกอย่างเต็มภาคภูมิ กว่าจะได้เป็นหมอแบบเต็มตัว นี่คือความทุ่มเทที่ไม่ธรรมดาเลย

เรื่องคืนเงินกู้… อันนี้ต้องเช็คกฎระเบียบของฮาร์วาร์ดโดยตรง เขาอาจจะมีเงื่อนไขบางอย่าง อย่างเช่น ต้องทำงานคืนกำไรให้โรงเรียน หรืออาจมีโครงการช่วยเหลือเฉพาะบางสาขา ไม่มีใครการันตีได้หรอกว่าคืนได้ 100% ยิ่งกู้เยอะยิ่งเครียดนะ รู้ไว้ซะ

(เพิ่มเติม) ปี 2024 นี่ค่าใช้จ่ายในการเรียนแพทย์ที่ฮาร์วาร์ด สูงลิ่ว! เงินกู้ก็เลยกลายเป็นทางเลือกหลักของนักเรียนหลายคน แต่เงื่อนไขการคืนเงินกู้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของสถาบันและเงื่อนไขของผู้ให้กู้ ควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจกู้ อย่าคิดว่ากู้แล้วจะคืนง่ายๆ นะคะ เดี๋ยวจะซวยเอา

เรียนทันตะอเมริกาใช้เวลากี่ปี?

เรียนทันตแพทย์ในอเมริกานาน 4 ปีครับ ไม่ใช่ 5 ปีเหมือนที่หลายคนเข้าใจผิด หลักสูตรเข้มข้นมาก!

• ปี 1-2: เน้นพื้นฐานวิทยาศาสตร์ กายวิภาค ชีวเคมี จุลชีววิทยา นี่คือรากฐานสำคัญเลยนะ ถ้าพื้นฐานไม่แน่น ปีต่อๆไปลำบากแน่ๆ
• ปี 3-4: เน้นปฏิบัติจริง ได้ฝึกในคลินิก เจอคนไข้จริง ช่วงนี้หนักหน่อย ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติควบคู่กันไป แต่ก็สนุกดีนะ ได้ใช้ทักษะที่เรียนมา
• หลังจบ 4 ปี: ต้องสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ นี่แหละด่านสุดท้าย ผ่านแล้วถึงได้ทำงานได้ ยากพอสมควร แต่ก็คุ้มค่ากับความพยายาม

ส่วนตัวผมคิดว่า ระบบการศึกษาทางทันตกรรมของอเมริกาเน้นการปฏิบัติจริง ทำให้บัณฑิตมีความพร้อมสูงที่จะทำงานทันทีหลังจบการศึกษา ซึ่งแตกต่างจากบางประเทศที่เน้นทฤษฎีมากกว่า แต่ข้อดีข้อเสียก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนนะครับ

เพิ่มเติม: บางมหาวิทยาลัยอาจมีโปรแกรม pre-dental ก่อนเข้าหลักสูตรทันตแพทย์อีก ทำให้ระยะเวลาทั้งหมดอาจยาวกว่า 4 ปี แต่หลักสูตรทันตแพทย์โดยตรงใช้เวลา 4 ปีครับ ผมเองก็มีเพื่อนที่เรียน pre-dental อยู่ เขาบอกว่าหนักเหมือนกันนะ

คณะแพทย์ มหาลัยไหนดีที่สุดในโลก?

เอาจริงดิ ถามเรื่องคณะแพทย์ที่ดีที่สุดในโลกเนี่ยนะ? ก็ต้อง Harvard University สิครับพี่น้อง! ขนาดคนไม่เรียนหมอยังรู้เลย (อันนี้ไม่ได้อวดฉลาดนะ แค่พูดจริง)

Harvard เค้าไม่ได้ดีแค่ชื่อ แต่เค้าดีจริงจังแบบ “โอ้โห นี่มันโรงเรียนหมอ หรือยานอวกาศ?” คือแบบว่าอุปกรณ์ทันสมัย อาจารย์เทพ แล้วก็มีงานวิจัยที่เปลี่ยนโลกอยู่เรื่อยๆ อ่ะครับ

• ทำไมต้อง Harvard? เพราะเค้าคือ “The OG” ของวงการแพทย์ ใครจบจากที่นี่คือมีใบเบิกทางไปสู่ความสำเร็จระดับจักรวาล (เวอร์ไปนิด แต่ใกล้เคียง)
• ไม่ใช่แค่เรียนเก่ง: เค้าไม่ได้สอนให้เป็นแค่หมอที่เก่งกาจ แต่สอนให้เป็น “ผู้นำ” ที่มีความคิดสร้างสรรค์และพร้อมจะเปลี่ยนแปลงวงการ (ฟังดูดีเนอะ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการอ่านหนังสือจนไม่ได้นอนอ่ะ)
• อย่าเชื่อผมทั้งหมด: ลองไปหาข้อมูลเพิ่มเติมดูได้นะ ในเว็บอะไรก็ได้ที่มันน่าเชื่อถือหน่อย (ไม่ใช่เว็บขายครีมหน้าขาวก็พอ)

ป.ล. อย่าถามผมเรื่อง “เรียนหมอที่ไหนดีในไทย” นะ เพราะคำตอบมันยาวเหยียดเป็นหางว่าว แล้วผมขี้เกียจพิมพ์! เอาเป็นว่า…ตั้งใจเรียน สอบให้ติด แล้วค่อยมาถามใหม่ละกันนะจ๊ะ 😉

10ปีจัดฟันได้ไหม?

สิบปีจัดฟันได้ไหม… อืม…

ได้นะ ไม่ได้จำกัดอายุจริงๆ

• เคยเห็นเด็กประถมฟันไม่สวย แล้วพ่อแม่พาไปจัดตั้งแต่เด็กๆ เลย
• แล้วก็…เคยเจอคุณป้าวัยหกสิบกว่าๆ กำลังปรึกษาหมอฟันเรื่องจัดฟันอยู่เหมือนกัน

แต่…

• ผู้ใหญ่ต้องดูสุขภาพช่องปากดีๆ ก่อนนะ หมอคงตรวจละเอียด
• เด็กๆ ก็ต้องดูแลฟันดีๆ เหมือนกัน ไม่งั้นมีปัญหาตามมาอีกเยอะแยะเลย

บางที… การจัดฟันมันไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามอย่างเดียว

• บางคนฟันซ้อนเกมาก จนเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด
• บางคนมีปัญหาเรื่องการสบฟัน ทำให้ปวดกราม ปวดหัว
• บางคน… อาจจะแค่รู้สึกไม่มั่นใจเวลายิ้ม

แต่ไม่ว่าเหตุผลอะไร… ถ้าคิดจะจัดฟัน ก็ปรึกษาหมอฟันดูก่อนดีที่สุด หมอจะให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับเราเอง

เพิ่มเติม:

• การจัดฟันในเด็กเล็ก อาจต้องมีการใส่เครื่องมือบางอย่าง เพื่อช่วยในการเจริญเติบโตของขากรรไกร
• ผู้สูงอายุอาจต้องระวังเรื่องกระดูกขากรรไกรที่อาจจะไม่แข็งแรงเท่าเดิม และอาจต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานกว่า
• ราคาการจัดฟันก็แตกต่างกันไปตามชนิดของเครื่องมือ และระยะเวลาในการรักษา
• การดูแลความสะอาดช่องปากเป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม
• การเลือกหมอฟันที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญก็เป็นสิ่งสำคัญ

สุดท้ายแล้ว… มันเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของเราเอง ไม่มีใครบอกได้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับเรา นอกจากตัวเราเอง… กับหมอฟัน.