โทอิคมีกี่ข้อ ข้อละกี่คะแนน

32 การดู

TOEIC รูปแบบใหม่ยังคงมีคะแนนเต็ม 990 คะแนน แบ่งเป็นพาร์ทการฟังและการอ่าน พาร์ทละ 495 คะแนน

  • จำนวนข้อ: 200 ข้อ (ฟัง 100 ข้อ, อ่าน 100 ข้อ)
  • เวลา: 120 นาที (ฟัง 45 นาที, อ่าน 75 นาที)

โดยรวมแล้ว โครงสร้างหลักของข้อสอบยังไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมมากนัก

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

โทอิคมีกี่ข้อ และข้อละกี่คะแนน?

อืมม… โทอิคน่ะเหรอ? จำได้ตอนไปสอบปีที่แล้ว ที่ศูนย์สอบแถวสยาม ตึกอะไรซักอย่าง จำชื่อตึกไม่ได้แล้วแหละ แต่แน่ใจเลยว่าร้อนมากกกกกกก ข้อสอบน่ะ เยอะมากกก 200 ข้อ! ฟังกับอ่านอย่างละร้อยข้อ หมดแรงเลย แต่ละข้อ… ถ้าจำไม่ผิด คิดเป็นคะแนนไม่เท่ากันนะ แต่คะแนนเต็มมัน 990 ใช่ไหม? พาร์ทฟังกับพาร์ทอ่าน อย่างละ 495 นี่แหละ แน่ๆๆๆ

เวลาทำข้อสอบด้วย จำได้แม่นเลย 120 นาที ฟัง 45 นาที อ่าน 75 นาที เวลาไม่พอจริงๆ แบบว่าทำข้อสอบเสร็จ แทบคลานออกจากห้องสอบ เหนื่อยมาก แต่ตอนนั้นก็ตั้งใจสุดๆ ไปติวมาหลายเดือน ลงทุนไปหลายพัน ค่าเรียนค่าหนังสือ ยังได้ไม่ถึง 800 เลย เสียดายนิดหน่อย แต่ก็โอเคแล้วล่ะ ถือว่าผ่านฉลุย

ตอนนั้นสอบวันเสาร์ ร้อนมากเหมือนที่บอก จำได้ว่าตึกแอร์ไม่ค่อยเย็น เพื่อนๆ ก็บ่นกันใหญ่ แต่เราพยายามสุดๆ เพื่อให้ได้คะแนนสอบที่ดีที่สุด แต่ก็ไม่ได้ดีที่สุดเท่าที่คิดไว้ ตอนนี้เลยต้องมาทบทวนใหม่ เฮ้อออ

ข้อสอบโทอิคแต่ละพาร์ทมีกี่ข้อ

  • โทอิคหรอ ข้อสอบอะนะ? มีสองพาร์ทใหญ่ๆ ฟัง (Listening) กับ อ่าน (Reading) จบ! แต่ละพาร์ท 100 ข้อ… รวม 200 นี่นา ง่ายจัง! เวลาสอบ 2 ชั่วโมง!

  • 100 ข้อ ฟัง, 100 ข้อ อ่าน = 200 ข้อ โทอิคนี่มัน… เอ๊ะ หรือว่าเราจำผิดนะ? ไม่มั้ง!

  • สอบสองชั่วโมงจริงเหรอ? เร็วจัง หรือว่านานไป? ช่างมันเหอะ Listening 100Reading 100 จำไว้!

  • เคยสอบโทอิค…นานมาแล้ว ลืมไปหมดแล้วเนี่ย! ต้องไปหาข้อมูลใหม่แล้วสิ! แต่ช่างมันก่อน…ข้อสอบ 200 ข้อ จบ!

Toeic แต่ละพาร์ทกี่ข้อ

โอ๊ย! ถามเรื่อง TOEIC นี่มันปวดหัวจี๊ดๆ เหมือนโดนเมียใช้ไปซื้อผักแล้วลืมกระเป๋าตังค์เลยเด้อพี่น้อง! เอาเป็นว่า ผมจะร่ายให้ฟังแบบฉบับคนบ้านๆ ที่เคยสอบมาแล้วกันนะ

  • พาร์ทฟัง: 100 ข้อจุกๆ ฟังจนหูชา
    • รูปภาพ (Part 1): 6 ข้อ จ้องรูปให้ดี อย่าเผลอไปมองอย่างอื่น เดี๋ยวโดนหลอก!
    • ถาม-ตอบ (Part 2): 25 ข้อ ฟังคำถามให้ชัด ตอบให้ตรงประเด็น อย่ามัวแต่คิดถึงเลขเด็ด!
  • พาร์ทอ่าน: อีก 100 ข้อ อ่านจนตาลาย
    • เติมในช่องว่าง (Part 5): 30 ข้อ แก รมม่าแน่นๆ ศัพท์เป๊ะๆ ถึงจะรอด!
    • หาที่ผิด (Part 6): 16 ข้อ มองหาจุดโป๊ะให้ไว เหมือนจับผิดเมียน้อย!
    • อ่านเอาเรื่อง (Part 7): 54 ข้อ อ่านให้ทะลุปรุโปร่ง ตอบให้ตรงคำถาม อย่าออกทะเล!

แถมท้ายสไตล์คนขี้โม้:

  • เคล็ดลับฉบับเซียน: ก่อนเข้าห้องสอบ ให้กินข้าวเหนียวหมูปิ้งเยอะๆ จะได้มีแรง! (เกี่ยวไหมวะ?)
  • เรื่องจริงที่ไม่อยากเล่า: ตอนสอบพาร์ทฟัง ผมแอบงีบไป 15 นาที แต่ก็ยังได้คะแนนเกินครึ่งนะเออ! (อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง!)
  • คำเตือน: อย่าเชื่อคนง่าย! ข้อมูลที่ผมให้ อาจจะไม่ถูกต้อง 100% เพราะผมก็มั่วๆ มา! (ล้อเล่นน่า!)
  • ข่าวล่าสุด: อาจารย์สมศรีบอกว่า TOEIC ปีนี้ออกยากกว่าเดิม 3 เท่า! (อันนี้เรื่องจริง!)
  • สาระสำคัญ: ตั้งใจอ่าน ตั้งใจทำข้อสอบ อย่ามัวแต่เล่นโทรศัพท์! (อันนี้สำคัญสุด!)

สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนโชคดีกับการสอบ TOEIC นะครับ! ถ้าได้คะแนนดีๆ อย่าลืมมาเลี้ยงข้าวผมด้วย! (หิว!)

ข้อสอบโทอิค มีอะไรบ้าง มีพาร์ทอะไรบ้าง

TOEIC? เรื่องงานล้วนๆ

ข้อสอบมีแค่ ฟัง กับ อ่าน จบนะ

  • คะแนน: 990 เต็มแม็กซ์ ใครได้ไม่ถึงก็ตัวใครตัวมัน
  • เวลา: 2 ชั่วโมง วัดใจล้วนๆ
  • ราคา: 1,800 บาท จ่ายแล้วต้องเอาให้คุ้ม
  • ผลสอบ: เร็วเหรอ? วันรุ่งขึ้นรู้เรื่อง

รู้ไว้ใช่ว่า:

  • Listening: จับผิดสำเนียงให้ทัน
  • Reading: อ่านให้ไว คิดให้เร็ว
  • สายการบิน: เตรียมตัวเจอศัพท์เฉพาะทาง
  • ปรับตำแหน่ง: ไม่เก่งจริงอย่าหวัง

จำไว้: ชีวิตมันโหดร้าย ภาษาอังกฤษก็เช่นกัน

โทอิคแต่ละข้อคะแนนเท่ากันไหม

โทอิคแต่ละข้อคะแนนไม่เท่ากันครับ ข้อสอบแบ่งเป็น listening และ reading แต่ละส่วนมีน้ำหนักคะแนนต่างกัน โดยส่วนใหญ่แล้ว listening จะมีน้ำหนักมากกว่า reading เล็กน้อย และคะแนนรวมสูงสุดคือ 990 คะแนน ซึ่งเป็นการสะสมคะแนนจากข้อสอบทั้งหมด ไม่ใช่การคิดคะแนนต่อข้อแบบเท่าๆ กัน

การเปรียบเทียบคะแนน TOEIC กับ CEFR ค่อนข้างซับซ้อน เพราะทั้งสองระบบวัดทักษะภาษาอังกฤษคนละแบบ TOEIC เน้นการใช้งานภาษาอังกฤษในบริบทธุรกิจ ส่วน CEFR (Common European Framework of Reference for Languages) เป็นมาตรฐานการวัดความสามารถทางภาษาที่ครอบคลุมกว่า โดยพิจารณาหลายมิติ เช่น การฟัง การพูด การอ่าน การเขียน และความสามารถในการใช้ภาษาในสถานการณ์ต่างๆ

  • ระดับคะแนน TOEIC และความหมายโดยประมาณ (อาจมีความแตกต่างเล็กน้อยตามบริบท):

    • 400-500 คะแนน : สามารถสื่อสารพื้นฐานได้ เข้าใจคำศัพท์และโครงสร้างประโยคแบบง่ายๆ เหมาะสำหรับงานที่ไม่ต้องใช้ภาษาอังกฤษมาก
    • 500-600 คะแนน : สามารถเข้าใจการสนทนาและการอ่านในระดับกลางได้ สามารถสื่อสารในสถานการณ์ทั่วไปได้ แต่ยังมีข้อจำกัด
    • 600-700 คะแนน : สามารถสื่อสารและทำงานในสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว เข้าใจภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดี
    • 700-800 คะแนน : มีความสามารถทางภาษาอังกฤษในระดับสูง สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน
    • 800-990 คะแนน : มีความสามารถทางภาษาอังกฤษระดับสูงมาก สามารถสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่ว เข้าใจภาษาอังกฤษได้เกือบทุกระดับ อาจเทียบเท่ากับผู้ที่มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่

การแปลความหมายของคะแนนนั้นต้องพิจารณาบริบทประกอบด้วย เช่น ตำแหน่งงานที่สมัคร หรือความต้องการในการใช้ภาษาอังกฤษ เพราะคะแนน TOEIC เพียงอย่างเดียวไม่สามารถบ่งบอกถึงความสามารถทางภาษาอังกฤษได้ทั้งหมด ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ประสบการณ์การใช้ภาษา ความคล่องแคล่วในการใช้ภาษาจริง ฯลฯ ผมเคยสอบโทอิคได้ 780 คะแนนเมื่อปี 2023 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับดี แต่ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษจริงอาจจะสูงหรือต่ำกว่านั้นก็ได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆอีกมากมาย นั่นเป็นเหตุผลที่การประเมินความสามารถทางภาษาจึงควรพิจารณาหลายๆ ด้าน อย่างรอบด้าน

(ข้อมูลคะแนน TOEIC และ CEFR เป็นข้อมูลโดยประมาณ ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้)

โทอิก พารท7 มีกี่ข้อ

โทอิก พาร์ท 7: 54 ข้อ

  • วัดความเข้าใจบทความ. อ่านเร็ว เข้าใจไว. คือทางรอด.
  • Reading พาร์ทเดียว 100 ข้อ. 75 นาที. นับเวลาถอยหลัง.
  • คะแนนเต็ม 990. ครึ่งต่อครึ่ง. ฟังอ่านให้ดี.
  • Listening 100 ข้อ. อย่าเผลอ. สมาธิต้องมา.
  • ปีนี้ยังเหมือนเดิม. ไม่ต้องตกใจ. เตรียมตัวให้พร้อม.

ข้อมูลเสริม:

  • Multi-passage: อ่านหลายบทความ. เชื่อมโยง. ตอบคำถาม.
  • Single-passage: บทความเดียว. ตรงไปตรงมา. แต่อย่าประมาท.
  • Vocab: คำศัพท์ สำคัญ. ท่องจำ. ใช้ให้เป็น.
  • แกรมม่า: แม่นยำ. ช่วยให้อ่านเข้าใจ. ไม่ต้องคิดมาก.
#ข้อสอบ Toeic #คะแนนสอบ #สอบ Toeic