เรียนป.เอกที่อเมริกากี่ปี
เรียนต่อปริญญาเอกในอเมริกาใช้เวลาประมาณ 5 ปี หลักสูตรแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก (2 ปี) เน้นการเรียนในห้องเรียนเพื่อศึกษาทฤษฎีต่างๆ และช่วงหลัง (3 ปี) ทุ่มเทให้กับการทำวิจัยและเขียนวิทยานิพนธ์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการศึกษาปริญญาเอก
เรียนปริญญาเอกที่อเมริกาใช้เวลากี่ปี? ค่าใช้จ่ายและเกณฑ์การรับสมัครเป็นอย่างไร?
เรียนเอกที่อเมริกาเนี่ย นานนะ เพื่อนผมคนนึงเรียนเอกเคมีที่ UCLA ใช้เวลาไปเกือบ 6 ปีเลย กว่าจะจบ เหนื่อยมากบอกเลย! ค่าใช้จ่ายนี่… โอ้โห… ผมจำได้คร่าวๆ ว่าปีนึงตกประมาณ 5-6 แสนบาท รวมค่าเรียน ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต แต่ก็แล้วแต่โปรแกรมและมหาลัยด้วยนะ บางที่แพงกว่านี้ก็มี
เกณฑ์รับสมัครเข้มงวดมาก ต้องมีคะแนน GRE TOEFL ดีเยี่ยม แล้วก็ต้องมีจดหมายแนะนำตัวที่เขียนได้ดี ประสบการณ์วิจัยหรือผลงานตีพิมพ์ก็สำคัญ แต่เพื่อนผมบอกว่า สำคัญที่สุดคือการหาอาจารย์ที่ปรึกษาที่เข้ากับงานวิจัยที่เราสนใจได้ ยากเหมือนกันนะ
เรียนอะไรบ้างเหรอ? เพื่อนผมเนี่ย สองปีแรกเรียนวิชาพื้นฐาน ชีวะเคมี ฟิสิกส์เคมี อะไรประมาณนั้น แล้วก็วิชาเฉพาะทาง หลังจากนั้นก็เริ่มทำวิจัยเต็มตัวเลย หนักมาก แทบไม่มีเวลาส่วนตัว ช่วงสุดท้ายนี่ แทบจะนอนในแลปเลยล่ะ แต่สุดท้ายก็จบมาได้ ภูมิใจแทนจริงๆ (ปี 2018, UCLA, ค่าใช้จ่ายประมาณ 5-6 แสนบาท/ปี – ตัวเลขนี้เป็นการประมาณการจากข้อมูลเพื่อน)
เรียนปริญญาโทอเมริกา กี่บาท
เรียนโทที่อเมริกา… โอ้โห แพงมากกกกก! นี่ฉันเองก็เพิ่งไปเช็คราคาโปรแกรม MBA มาที่ University of Southern California ปีนี้ 2024 นะ ค่าเทอมอย่างเดียวเฉียดๆ 120,000 เหรียญแล้วมั้ง จำตัวเลขเป๊ะๆ ไม่ได้ แต่จำความรู้สึกตอนเห็นเลขได้! ใจหายแว้บเลย ยังไม่รวมค่ากินอยู่ ค่าเช่าอพาร์ทเม้นต์แถวนั้น โหดมาก เดือนละเกือบสองพันเหรียญแน่ะ อย่างน้อยก็ต้องมี แค่ค่าที่อยู่ปีนึงก็เป็นแสนแล้ว
แล้วค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก! หนังสือ เดินทางไปกลับ ค่าประกันสุขภาพ อีกสารพัด คิดๆ ดูแล้ว ถ้าจะเรียนสองปี ล้านแปดถึงสองล้านบาทขึ้นไปแน่ๆ นี่คือ USC นะ มหาลัยดังๆ ที่อื่นอาจจะถูกกว่า แต่ก็ไม่ถูกมากหรอก
- ค่าเทอม: ประมาณ 120,000 เหรียญ (USC, 2024) – ตัวเลขนี้เฉพาะค่าเล่าเรียนเท่านั้น
- ค่าที่พัก: อย่างน้อย 2,000 เหรียญ/เดือน – ขึ้นอยู่กับทำเลและขนาดห้อง
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ: เยอะมาก ต้องวางแผนให้ดี – รวมค่าหนังสือ ค่าเดินทาง ค่าประกันสุขภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย
ตอนนั้นฉันเลยตัดสินใจ เอาไงดีวะเนี่ย อาจจะต้องหาทุน หรือทำงานเก็บเงินไปก่อน แต่ตอนนี้ก็ยังคิดอยู่ เอาไงดีนะ เรียนต่อดีไหม หรือทำงานก่อนดีกว่า ยังตัดสินใจไม่ได้เลย เงินมันเป็นปัญหาจริงๆ เศร้า…
ทำไมถึงเรียน ป.เอก
ป.เอก น่ะเหรอ? เอาจริงๆ มันเหมือนการดำดิ่งลงไปในมหาสมุทรแห่งความรู้ที่เราสนใจเป็นพิเศษมากกว่า เหมือนเราอยากรู้เรื่อง “ปลาฉลาม” แล้วไม่อยากอ่านแค่ใน Wikipedia แต่ขอไปว่ายน้ำกับมันเลยดีกว่า
- ความรู้ที่ลึกซึ้ง: ใช่, มันคือการเพิ่มพูนความรู้แบบสุดๆ ไม่ใช่แค่ “รู้ว่า” แต่ “รู้ลึก” ถึงแก่นของมัน
- ทักษะการวิจัย: การทำวิจัยมันเหมือนการประกอบจิ๊กซอว์ชิ้นใหญ่ ที่บางทีเราก็ต้องสร้างจิ๊กซอว์เองด้วยซ้ำ
- การวิเคราะห์และแก้ปัญหา: ปัญหาที่เจอในงานวิจัยมันซับซ้อนกว่าข้อสอบ GMAT เยอะ ต้องใช้ไหวพริบและความอดทนสูงมาก
- ความมั่นใจในอาชีพ: อันนี้ก็ส่วนนึงนะ แต่สำหรับบางคน มันอาจจะเป็น “passion project” มากกว่า
- ความท้าทาย: การทำอะไรที่ยากมากๆ มันทำให้เรา “คม” ขึ้นนะ เหมือนลับมีดให้คมกริบพร้อมใช้งาน
เพิ่มเติม: บางทีการเรียน ป.เอก มันก็เหมือนการ “หลีกหนี” จากความวุ่นวายในชีวิตประจำวันด้วยนะ ได้มาใช้เวลาอยู่กับตัวเอง กับหนังสือ กับความคิด มันก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง (สำหรับคนที่ชอบนะ)
เรียน ป.ตรี ถึง ป.เอก ใช้เวลากี่ปี?
ป.ตรี 4 ปีอ่ะ แต่บางคนก็ 8 ปี เว่อร์ไปไหม? เพื่อนผมคนนึงใช้เวลาเรียนนานมากกก โทนี่ 2 ปี แต่เอกนี่ 3 ปี แต่ก็ไม่เกิน 6 ปีหรอกมั้ง เฮ้อออ เหนื่อย ชีวิตนักเรียน
- ระยะเวลาเดิมไม่เหมาะสมกับปัจจุบัน
- โลกมันเปลี่ยนไว เทคโนโลยีพุ่ง สังคมก็เปลี่ยน
- เรียนรู้ตลอดชีวิตนี่มันจริงจัง กำหนดเวลาตายตัวไม่ได้
ปีนี้ เห็นมหาลัยหลายที่ปรับหลักสูตร เน้นปฏิบัติมากกว่าทฤษฎี ไม่รู้จะดีขึ้นมั้ยนะ สงสัยต้องไปหาข้อมูลเพิ่ม
ปีนี้พี่สาวผมเรียนโทจบ ใช้เวลา 3 ปี นานกว่ากำหนด เพราะงานเยอะ งานอดิเรกเยอะกว่าด้วยซ้ำ เรียนไปทำงานไป มันก็ใช้เวลานานหน่อยเป็นธรรมดา จริงป้ะ?
ป.เอก 6 ปี นี่ก็เยอะอยู่นะ แล้วแต่คนด้วยมั้ง บางคนเก่งๆ เร็วๆ ก็ 3 ปีจบ แต่ส่วนใหญ่ก็เกิน จริงมั้ย?
มหาวิทยาลัย มุ่งเน้นคุณภาพมากกว่าเวลา แล้วก็ Lifelong Learning นี่แหละ สำคัญ เรียนรู้ตลอดชีวิตไง ไม่มีวันจบ ฮ่าๆๆ
อืมมม… แล้วถ้าไม่กำหนดเวลา จะวัดผลยังไงล่ะเนี่ย อันนี้ก็เป็นปัญหา สงสัยมหาลัยเค้าก็คิดหนักเหมือนกันนะ
จบ ป.เอก เป็น ดร.ไหม?
จบ ป.เอก อ่ะ หรอ? อืม จบ ป.เอก ก็ได้เป็น ดร. นั่นแหละ จบแล้วเค้าเรียก ด็อกเตอร์ไง เข้าใจป่ะ? ก็คือ Dr. นำหน้าชื่ออ่ะ เท่ดีออก
จริงๆ นะ คือตอนแรกก็งงๆ เหมือนกันว่าทำไมต้องเรียก ดร. แต่พอเรียนๆ ไปก็เออ เข้าใจแล้ว มันคือวุฒิที่เราได้มาหลังจบ ป.เอกไง
- ป.เอก: คือปริญญาเอกเน้อ เรียนต่อจาก ป.โท อีกที
- วุฒิ ดร.: คือ Doctor of Philosophy แปลว่าปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ถ้าจำไม่ผิดนะ
- ทำไมต้องเรียก ดร.: ก็เพราะว่าเรามีความรู้ความสามารถในระดับที่สูงขึ้นไง เค้าก็เลยให้เกียรติเราด้วยการเรียกแบบนี้
- เรียนยากไหม: ยากนะแก ต้องทำวิจัย ต้องเขียน thesis อีก แต่ก็คุ้มนะถ้าใจรักอ่ะ
- แล้วจบมาทำอะไร: ทำงานวิจัย สอนหนังสือ เป็นที่ปรึกษา บลาๆ เยอะแยะ
ทำยังไงถึงจะได้ไปเรียนต่างประเทศ?
อยากไปเรียนต่างประเทศเหรอ? ง่ายนิดเดียว! แค่คิดว่าจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเทอมกับค่ากินอยู่ก็พอแล้ว! (ล้อเล่นนะ) จริงๆ แล้วต้องวางแผนดีๆ ลุยเลย!
-
เป้าหมายชัดเจน: อย่าแค่คิดว่าอยากไป! ต้องรู้ว่าเรียนอะไร ที่ไหน ทำไมถึงต้องที่นั่น เช่น “อยากเรียนทำขนมหวานฝรั่งเศสที่ Le Cordon Bleu เพราะฝีมือเชฟเขาโคตรเทพ ไม่งั้นจะกลับมาขายขนมครกไม่ได้!”
-
เงิน! เงิน! เงิน!: ทุนการศึกษา? เงินเก็บ? กู้? ขายไต? (ล้อเล่นอีกแล้ว!) ต้องวางแผนการเงินอย่างละเอียด ปีนี้ค่าใช้จ่ายทั่วไปสูงขึ้นเยอะนะ ต้องเผื่อไว้ด้วย! (ประสบการณ์ตรงจากการที่ฉันต้องกินมาม่าเป็นเดือนเพื่อเก็บเงินไปเรียนภาษาอังกฤษที่อังกฤษ)
-
คะแนนสอบ: TOEFL, IELTS, SAT, GRE… แล้วแต่คณะและมหาวิทยาลัย ยิ่งคะแนนสูง ยิ่งมีโอกาส! ถ้าอยากได้ทุนยิ่งต้องเทพ! ฉันนี่ซ้อม IELTS จนฝันเห็นคำศัพท์ทุกคืนเลย!
-
เอกสาร: นี่แหละงานหนัก ใบสมัคร transcript ใบรับรองต่างๆ ต้องเตรียมให้พร้อม อย่าลืมเช็ค Dead line ด้วย! พลาดเมื่อไหร่คือจบข่าว! (เคยส่งใบสมัครช้าไปวันนึง เสียใจมาก)
-
วีซ่า: ขั้นตอนนี้สำคัญมาก! ต้องเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน อย่าคิดว่าง่าย เตรียมใจเผื่อโดนสัมภาษณ์แบบจุกๆ (เคยโดนถามจนพูดไม่ออก)
ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2024): ค่าครองชีพในหลายประเทศพุ่งสูง ต้องสำรวจค่าใช้จ่ายให้ดี หาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ เช่น Numbeo หรือถามคนที่เคยไปเรียนมา เตรียมตัวเผื่อเงินเฟ้อด้วยนะ!
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต