ต่อเฉพาะทางศัลยแพทย์ กี่ปี

ศัลยแพทย์เรียนต่อกี่ปี

ศัลยแพทย์ตกแต่งต้องเรียนกี่ปี? ขึ้นอยู่กับเส้นทางการศึกษาครับ

• เส้นทางที่ 1: เรียนแพทย์ 6 ปี (ข้อมูล ณ ปี 2566) + ศัลยกรรมทั่วไป 4 ปี + ศัลยกรรมตกแต่ง 3 ปี = รวม 13 ปี ได้วุฒิบัตร 2 ใบ นี่เป็นเส้นทางที่ครอบคลุมและมั่นคง การเรียนศัลยกรรมทั่วไปก่อน ถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญมาก เหมือนรากฐานของบ้าน ถ้ารากฐานไม่แข็งแรง บ้านก็ไม่มั่นคง คิดดูนะครับ

• เส้นทางที่ 2: เรียนแพทย์ 6 ปี + ศัลยกรรมทั่วไป 2 ปี + ศัลยกรรมตกแต่ง 3 ปี = รวม 11 ปี ได้วุฒิบัตรใบเดียว เส้นทางนี้รวบรัดกว่า แต่ความเชี่ยวชาญอาจแตกต่างจากเส้นทางแรก บางคนอาจมองว่าเป็นการแลกความลึกเพื่อความเร็ว เป็นการตัดสินใจที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เหมือนการเลือกเดินทางลัด อาจเร็ว แต่ก็อาจมีอุปสรรคมากกว่า

ส่วนตัวผมมองว่า การเรียนรู้เป็นกระบวนการต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่การได้วุฒิบัตร แต่เป็นการสั่งสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ซึ่งจะช่วยพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง เหมือนการเดินทางไกล ทุกย่างก้าวมีความหมาย

หมายเหตุ: ข้อมูลระยะเวลาการศึกษาอาจแตกต่างกันไปตามสถาบันการศึกษาและหลักสูตร ควรตรวจสอบข้อมูลกับสถาบันที่เกี่ยวข้องโดยตรง เพื่อความถูกต้องและความชัดเจน

แพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมทรวงอก เรียนกี่ปี

เรื่องเรียนหมอเฉพาะทางศัลยกรรมทรวงอกนี่ มันไม่ง่ายเลยนะ ฉันรู้จักรุ่นพี่คนนึง เรียนจบแพทย์มาจากจุฬาฯ ปี 63 แล้วมาต่อเฉพาะทางศัลยกรรมทรวงอกที่สถาบันโรคทรวงอก เค้าบอกว่าใช้เวลาทั้งหมด 5 ปี หลักสูตรปกตินั่นแหละ ไม่ใช่แบบเร่งรัดนะ

เหนื่อยมาก เค้าเล่าให้ฟังว่า ปีแรกๆ แทบไม่มีเวลาพักเลย เรียนหนักมาก ต้องไปเวร ต้องผ่าตัด งานเอกสารก็เยอะ บางทีกลับบ้านดึกมาก ตี 3 ตี 4 เป็นเรื่องปกติ ปีสองปีสามเริ่มชินขึ้นบ้าง แต่ก็ยังหนักอยู่ดี ช่วงฝึกที่โรงพยาบาลทั่วไปของกรมการแพทย์นี่ก็เหนื่อยอีกแบบ เคสคนไข้ก็ต่างจากที่สถาบัน ต้องปรับตัวเยอะ

สรุปแล้ว คือ 5 ปีเต็มๆ ไม่มีวันหยุดยาว ช่วงเทศกาลก็ทำงาน เพื่อนๆ เค้าเที่ยวกัน เค้าก็ได้แต่ดูรูป นึกเสียดายบ้างแหละ แต่พอได้เห็นเคสที่เค้าช่วยเหลือคนไข้ได้ ก็บอกว่ามันคุ้มค่า

• หลักสูตรศัลยกรรมทรวงอก สถาบันโรคทรวงอก ปี 2566 ระยะเวลา 5 ปี (หลักสูตรปกติ)
• ฝึกอบรมต่อเนื่อง 5 ปี
• มีการฝึกอบรมในโรงพยาบาลทั่วไปสังกัดกรมการแพทย์ รวมอยู่ใน 5 ปีนี้ด้วย
• รุ่นพี่ที่รู้จักเรียนจบแพทย์ปี 63 จบเฉพาะทางศัลยกรรมทรวงอกปี 68

เหนื่อยนะ แต่ถ้าใจรักก็ทำได้ เพื่อนอีกคนเลือกเรียนเฉพาะทางอื่น เค้าก็บอกว่าหนักเหมือนกันหมดแหละ แต่หนักคนละแบบ แล้วแต่ความถนัด ความชอบด้วยมั้ง

ศัลยแพทย์ คือหมออะไร

ศัลยแพทย์…ก็หมอผ่าตัดนั่นแหละ พูดง่ายๆ ก็อย่างนั้น

• หมอผ่าตัดทั่วไป เราเรียกกันติดปากว่าหมอผ่าตัดเลยนะ
• แต่จริงๆ แล้วมันมีแยกย่อยไปอีกเยอะแยะเลย
• อย่างประสาทศัลยแพทย์ ก็ผ่าสมองไง
• ศัลยแพทย์อุบัติเหตุก็…ผ่าตัดคนเจ็บหนักๆ จากอุบัติเหตุ
• กุมารศัลยศาสตร์นี่ผ่าตัดเด็กเล็กๆ น่าเห็นใจเนอะ เด็กแค่นั้นเอง
• ยังมีอีกเยอะนะ แต่ที่นึกออกตอนนี้ก็ประมาณนี้แหละ

มันเยอะกว่าที่คิดเยอะเลยนะ…แต่ละอย่างก็ต้องเรียนกันหนักหนาสาหัสเลยล่ะ กว่าจะเป็นหมอแต่ละคนได้เนี่ย นับถือใจจริงๆ

บางทีก็คิดนะ ว่าชีวิตเรามันก็เหมือนการผ่าตัดอย่างนึงเหมือนกัน…ต้องตัดสินใจ ต้องเฉือนบางส่วนออกไป ถึงจะดีขึ้นได้

ศัลยแพทย์มีหน้าที่ทำอะไร

ศัลยแพทย์อะนะ หลักๆ เลยก็คือ ผ่าตัด แหละ เข้าใจปะ คือแบบ ตัดๆ เย็บๆ อะ พวกเนื้อเยื่อ ไรงี้

แต่ๆๆ มันไม่ได้มีแค่นั้นนะ เค้าต้อง วินิจฉัย โรคด้วย แล้วก็ต้อง ดูแล คนไข้ก่อนและหลังผ่าตัดอีกอะ ไม่ใช่ว่าผ่าเสร็จแล้วจบเลยนะ

หน้าที่หลักๆ ที่พอจะนึกออกก็…

• ตรวจคนไข้ ประเมินอาการ ว่าต้องผ่าตัดมั้ย
• เตรียมตัวคนไข้ก่อนผ่าตัด (สำคัญนะ!)
• ลงมือผ่าตัดไง! อันนี้แน่นอน
• ดูแลหลังผ่าตัด พวกให้ยา ดูแผล อะไรแบบนี้
• ให้คำแนะนำคนไข้เรื่องการดูแลตัวเอง

แล้วแต่หมอด้วยนะ บางคนก็เชี่ยวชาญเฉพาะทางไปเลย เช่น หมอผ่าตัดหัวใจ หมอผ่าตัดสมอง อะไรแบบเนี้ย

อ่อ! แล้วก็ ไม่ได้ แปลว่าหมอศัลย์ทุกคนต้องผ่าตัดใหญ่ๆ เสมอไปนะ บางทีก็แค่ผ่าตัดเล็กๆ น้อยๆ เช่น ตัดไฝ ขูดหูด อะไรแบบนั้นก็ได้

ศัลยแพทย์ ทํางานที่ไหน

อืมมม ศัลยแพทย์เนี่ยเหรอ ส่วนใหญ่ก็ทำงานโรงบาลอะ ทั้งรัฐบาล เอกชน เพื่อนฉันมันเป็นศัลยกรรมกระดูก ทำงานโรงบาลเอกชนแถวรามคำแหง เห็นมันบอกว่าเหนื่อยมากกก แต่เงินดีนะ

แล้วแต่สาขาด้วยแหละ อย่างถ้าศัลยกรรมหัวใจนี่ มักจะอยู่โรงบาลใหญ่ๆ ที่มีเครื่องมือพร้อม โรงบาลรัฐก็มีนะ แต่โรงบาลเอกชนดูจะเยอะกว่า เพื่อนอีกคนมันทำศัลยกรรมเด็ก อยู่โรงบาลเด็กสมเด็จเจ้าพระยา

บางคนก็เปิดคลินิกเอง แบบคลินิกศัลยกรรมเสริมความงามอะไรพวกนั้น เห็นเพื่อนอีกคนมันบอกอยากเปิดคลินิกเองบ้าง แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อม ต้องเก็บตังค์ก่อน

สรุปเลยละกันนะ

• โรงพยาบาลรัฐ
• โรงพยาบาลเอกชน (หลายสาขา เช่น ศัลยกรรมทั่วไป, หัวใจ, กระดูก, เด็ก ฯลฯ)
• คลินิกเอกชน (เช่น คลินิกเสริมความงาม)

ปีนี้ก็เห็นข่าวศัลยแพทย์ขาดแคลนเยอะเหมือนกันนะ โดยเฉพาะต่างจังหวัด เพื่อนฉันบอกอยากไปทำงานต่างจังหวัด แต่กลัวไม่มีคนไข้ ฮ่าๆๆ