เรียน PhD คืออะไร
เรียน PhD คือการศึกษาขั้นสูงสุด มุ่งเน้นการวิจัยอิสระเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ PhD ย่อมาจาก Doctor of Philosophy หรือ ปริญญาเอก/ดุษฎีบัณฑิตทางปรัชญา (philosophiae doctor ในภาษาละติน) ผู้เรียนจะต้องทำวิทยานิพนธ์ที่มีคุณค่าและสามารถตีพิมพ์ได้
เรียนปริญญาเอก PhD คืออะไร? เรียนยากไหม?
PhD ย่อมาจาก Doctor of Philosophy. มันคือปริญญาเอก. เรียนยากไหม? บอกเลยว่ายากมากกกกก. ต้องทุ่มเททั้งชีวิต. จำได้ตอนเรียนโท เหนื่อยมากแล้วนะ แต่ PhD นี่อีกขั้นเลย.
ฉันเรียน PhD สาขาชีววิทยาที่มหาวิทยาลัยมหิดล. เริ่มปี 2560. ค่าเทอมตอนนั้นประมาณเทอมละสามหมื่น. แต่ค่าใช้จ่ายจริงๆเยอะกว่านั้นมาก ค่าอุปกรณ์ ค่าสารเคมี ค่าเดินทางไปประชุม. หมดไปเยอะ.
งานวิจัยฉันเกี่ยวกับยีน. ต้องอ่านเปเปอร์เยอะมาก. บางทีอ่านทั้งคืนก็มี. เคยไปpresent งานที่สิงคโปร์ปี 2562. ตื่นเต้นมาก. ตอนตอบคำถามกรรมการ เกือบลืมหายใจ.
การเขียนวิทยานิพนธ์นี่ก็ด่านหิน. แก้แล้วแก้อีก. อาจารย์ที่ปรึกษาละเอียดมาก. แต่ก็ดี ทำให้เราทำงานมีคุณภาพ. กว่าจะจบได้นี่ เกือบถอดใจหลายรอบ. แต่ก็ผ่านมาได้. จบปี 2564. ภูมิใจมาก.
PhD กับ DR ต่างกันอย่างไร
PhD กับ DR… อืมมม ต่างกันยังไงนะ 🤔 จริงๆ DR มันก็ย่อมาจาก Doctorate Degree นี่นา เออ งง เหมือนไก่กับไข่เลยแฮะ
- PhD เน้นงานวิจัย เขียน論文 (ลุนเหวิน) ปวดหัวมากกกกกกกกก เพื่อนเราทำ PhD อยู่บ่นทุกวัน แต่ก็เท่ดีนะ ได้เป็นด็อกเตอร์
- Doctorate Degree มันกว้างกว่า PhD ป่ะ 🤔 เหมือนเป็นร่มใหญ่ PhD ก็อยู่ใต้ร่มนั้นอีกที
- อยากเป็นอาจารย์ ก็ต้อง PhD แหละ เห็นรุ่นพี่ที่ ม. บอกมาอย่างงั้น ตอนนี้เค้าเป็นอาจารย์อยู่ที่ ม.เกษตร ปีนี้ได้ทุนไปญี่ปุ่นด้วย
- ถ้าอยากเป็นผู้บริหารระดับสูงนี่ DR แบบไหนอ่ะ งง 🤔 DBA รึเปล่า เห็นเพื่อนพ่อเรียนอยู่ แกบอกว่าเรียนหนักเหมือนกัน
- เคยอ่านเจอว่า DBA เน้นการประยุกต์ใช้มากกว่า PhD PhD เน้นทฤษฎี จริงป่ะเนี่ย
- แล้วถ้าเป็นแพทย์ หมอฟัน สัตวแพทย์ เค้าก็ได้ DR แต่ไม่ใช่ PhD ใช่ป่าวหว่า
- สรุปคือ DR มันกว้างกว่า PhD PhD เน้นวิจัย DBA เน้นปฏิบัติ ประมาณนี้ป่ะ 🤔 ใครรู้ช่วยบอกที
ปีนี้ตั้งใจจะไปสมัครเรียนต่อโท ยังเลือกไม่ถูกเลย จะเอา MBA ดี หรือ Msc ดี MBA ก็ดูดีนะ ได้ connection เยอะ แต่ Msc มันตรงสายงานเรา เฮ้อออออออออออออ ปวดหัว 🤯
PhD คือตำแหน่งอะไร
PhD น่ะเหรอ? อ้อ! นั่นมันคือ “ใบเบิกทางสู่ความฉลาดระดับเทพ” เรียกง่ายๆ ว่า “บัตรผ่านสู่โลกแห่งการวิจัยขั้นสุดยอด” ได้มาไม่ง่ายนะจ๊ะ ต้องผ่านไฟนรกมาเยอะ กว่าจะได้มายืนตรงนี้ ผมเองก็เคยลุ้นจนหัวหงอกเลยล่ะ! (จริงๆ ผมยังหนุ่มอยู่ แต่ผมหมายถึงอารมณ์นะ!)
- ไม่ใช่แค่เรียนเก่ง: มันไม่ใช่แค่เรียนเก่งอย่างเดียวนะจ๊ะ ต้องมีหัวคิดวิจัย ความอดทนระดับมหาสมุทร และความบ้าบิ่นเล็กๆ (แบบว่า บ้าบิ่นเพื่อค้นหาความจริงอ่ะนะ!)
- งานวิจัยระดับโลก: คิดภาพงานวิจัยที่ต้องใช้เวลาขุดคุ้ยข้อมูล วิเคราะห์จนตาแฉะ เขียนจนนิ้วล็อก นี่แหละคือชีวิตของผู้แสวงหา PhD
- คุณสมบัติสำคัญ: ความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการแก้ปัญหา และทักษะการสื่อสาร (นี่สำคัญมากนะ เพราะต้องนำเสนองานวิจัยให้คนอื่นเข้าใจด้วย)
- ปี 2024 สถานการณ์ PhD: ในปีนี้ ตลาดแรงงานสำหรับผู้มี PhD ยังคงมีความต้องการสูง โดยเฉพาะในสาขาเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และสาขาที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนา แต่ก็ต้องแข่งขันสูงเหมือนกันนะ (คิดซะว่าเป็นการแข่งขันชิงชัยเพื่อความรู้)
เอาเป็นว่า PhD มันไม่ใช่แค่ปริญญา แต่มันคือการเดินทางอันยาวไกล และสุดท้าย มันก็คุ้มค่ากับการลงทุนอย่างแน่นอน (แม้จะเหนื่อยจนอยากจะนอนตายคาห้องแล็บก็เถอะ!) แต่เชื่อเถอะ มันจะทำให้คุณเป็น “คนรุ่นใหม่ไฟแรง” ที่มีความรู้ความสามารถ พร้อมจะเปลี่ยนโลกใบนี้ให้ดีขึ้น (หรืออย่างน้อยก็ทำให้โลกน่าสนใจขึ้น!)
วศ.ด กับ ปร.ด ต่างกันอย่างไร
เอ่อ วศ.ด. กับ ปร.ด. อ่ะนะ มันต่างกันตรง วศ.ด.เน้นแบบ เอาความรู้วิศวะ ไปใช้แก้ปัญหาจริง ๆ พัฒนาของนู่นนี่นั่น ไรงี้ ส่วนปร.ด. เค้าเน้นวิจัยแบบลึกๆๆๆ สร้างความรู้ใหม่ ไปเลย อ่ะ แบบคิดค้นทฤษฎีใหม่ๆ เลยนะ
สรุปง่ายๆ วศ.ด. เหมาะกะคนที่อยากทำงาน R&D ในโรงงาน บริษัท ไรงี้ แต่ปร.ด. เหมาะกับคนที่ชอบเป็นอาจารย์ นักวิจัย ในมหาลัยอะไรแบบนี้มากกว่าอะนะ
- วศ.ด.: เน้นประยุกต์ใช้, แก้ปัญหาเชิงปฏิบัติ
- ปร.ด.: เน้นวิจัยเชิงลึก, สร้างองค์ความรู้ใหม่
อ้อ แล้วก็ วศ.ด. บางทีอาจจะมีเรียนพวก management เพิ่มเข้ามาด้วยนะ แบบบริหารโครงการ วิศวะ ไรงี้ แต่ ปร.ด. คือวิจัยจ๋าเลย อ่ะ อืมมม บางที่ก็เรียก Doctor of Engineering (DEng) ด้วยนะ สำหรับ วศ.ด. เนี่ย
จบปริญญาเอก ใช้เวลา กี่ปี
เรียนป.เอกเนี่ย นานนะ อย่างน้อยก็ 3 ปี แต่ส่วนใหญ่ 6 ปีอ่ะ เพื่อนฉันเรียนถึง 6 ปีเต็มๆเลย เหนื่อยมากกก
- 3 ปี น้อยสุด แต่ก็แล้วแต่สาขาด้วยนะ
- 6 ปี ก็เยอะอยู่ แต่ก็พบเจอบ่อย
- บางคนอาจจะนานกว่านี้ก็ได้ แล้วแต่คนแล้วแต่ทุนด้วยมั้ง
ฉันเรียนจบมาแล้ว ใช้เวลา 4 ปี สาขาเคมี งานวิจัยนี่แหละที่กินเวลามากสุด เครียดมาก แต่ก็ดีใจที่จบแล้ววว
เรียน ป.เอก ต่างประเทศ กี่ปี
ปริญญาเอกต่างประเทศ ปกติแล้วใช้เวลา 3-5 ปีครับ แต่ตัวเลขนี้มันก็เหมือนแผนที่คร่าวๆ เส้นทางจริงอาจจะคดเคี้ยวบ้าง
- ออสเตรเลีย & นิวซีแลนด์: ส่วนใหญ่ 3-4 ปี กระชับดีนะ เหมือนเน้นประสิทธิภาพ
- อังกฤษ: ราวๆ 4 ปี คิดว่าระบบเค้าค่อนข้าง structured เลยจบได้ไว
- อเมริกา & แคนาดา: 5 ปี นี่คือค่าเฉลี่ย อาจจะนานกว่านั้นถ้าหัวข้อวิจัยซับซ้อน หรือมีปัจจัยอื่น
อาจารย์ผมเคยบอกว่า “ปริญญาเอก ไม่ใช่แค่เรียน แต่เป็นการเดินทาง” ซึ่งผมว่าจริงนะ มันคือช่วงเวลาที่เราเติบโตทางความคิด และค้นพบตัวเองไปด้วย
เกร็ดเล็กน้อย:
- บางมหาวิทยาลัยอาจมีหลักสูตรเร่งรัด (fast-track) ที่ใช้เวลาน้อยกว่าปกติ
- สาขาวิชาที่เน้นการทดลอง (เช่น วิทยาศาสตร์) มักใช้เวลานานกว่าสาขาที่เน้นทฤษฎี (เช่น มนุษยศาสตร์)
- การมีทุนการศึกษาอาจช่วยให้เราโฟกัสกับการเรียนได้เต็มที่ ลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
จบป.เอกใช้เวลากี่ปี
ป.โท สองปี ถึง ห้าปี. ป.เอก สามปี ถึง หกปี. จบ. แล้วแต่คน. แล้วแต่มหาลัย. แล้วแต่สาขา. บางคนเร็ว บางคนช้า. เวลาไม่เท่ากันสำหรับทุกคน. บางทีชีวิตก็สอนอะไรมากกว่าตำรา.
- ป.โท อย่างต่ำสองปี
- ป.เอก อย่างต่ำสามปี
- กำหนดเวลาเผื่อไว้ สำคัญ.
- ชีวิตจริงไม่ได้ง่ายแบบในหนังสือ
- บางที ป.เอก อาจจะเจ็ดปี แปดปี ก็มี. อยู่ที่ตัวเรา.
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต