E-learning คืออะไร พร้อมยกตัวอย่าง

21 การดู

E-learning คืออะไร?

E-learning คือการเรียนรู้ผ่านสื่อเทคโนโลยี หรือออนไลน์ เน้นลดข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่ ผู้สอนสามารถสร้างสรรค์รูปแบบการเรียนรู้ได้หลากหลาย ผู้เรียนเลือกเรียนตามความสนใจได้

ตัวอย่าง E-learning:

  • คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI)
  • การสอนบนเว็บไซต์

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

E-learning คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?

E-learning เหรอ? อืม… คิดง่ายๆ มันก็คือการเรียนผ่านเน็ตไง! เมื่อก่อนนะ ตอนเรียนมหาลัย (ปี 2010-2014 แถวๆ ม.เกษตร) อาจารย์บางท่านก็เริ่มใช้พวกเว็บบอร์ดให้ส่งงาน หรือมีคลิปสอนเสริมบ้างแล้ว แต่ยังไม่เยอะเท่าสมัยนี้หรอก

ข้อดีเหรอ? โคตรเยอะ! ไม่ต้องตื่นเช้าไปเบียดคนขึ้นรถเมล์ไง (อันนี้สำคัญสุด! ตอนอยู่หอในนะ นรกชัดๆ) แล้วก็เรียนตอนไหนก็ได้ อยากเรียนตีสองก็เรื่องของแก! แล้วก็พวกคอร์สออนไลน์บางทีก็ถูกกว่าเรียนสดๆ อีกนะ

พวก E-learning อ่ะ เหรอ? ก็มีเยอะแยะไปหมดอ่ะ ตั้งแต่คอร์สเรียนออนไลน์แบบที่เรียนกันจริงจัง มีการบ้าน มีสอบ ยันไปถึงพวกคลิปสอนแต่งหน้าในยูทูปอ่ะ (อันนี้ก็นับนะเว้ย! เรียนรู้เหมือนกัน) หรือแม้แต่แอปสอนภาษาต่างๆ ก็ถือว่าเป็น E-learning ได้หมดแหละ

แต่ข้อเสียมันก็มีนะเว้ย! คือบางทีมันขาดปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นไง มันไม่เหมือนเรียนในห้องที่ได้คุยกับเพื่อน ได้ถามอาจารย์สดๆ แล้วก็ต้องมีวินัยในตัวเองสูงๆ ด้วยนะ ไม่งั้นก็ดองคอร์สไปเรื่อยๆ จนไม่ได้อะไรเลยอ่ะ

สรุปคือ E-learning มันก็มีทั้งข้อดีข้อเสียแหละ แต่โดยรวมแล้วมันก็เป็นเครื่องมือที่โคตรมีประโยชน์เลยนะ โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา หรืออยากเรียนรู้เรื่องอะไรใหม่ๆ ด้วยตัวเองอ่ะ

โลกออนไลน์มีประโยชน์ต่อการศึกษาด้านใดบ้าง ยกตัวอย่างมา 3 ข้อ พร้อมอธิบาย *

โลกออนไลน์ช่วยการเรียนฉันเยอะมาก ปีนี้เลยเรียนรู้หลายอย่างเลยนะ

อย่างแรกเลย คือเรื่องเลือกเรียน ก่อนหน้านี้ฉันอยากเรียนทำขนม แต่ไม่มีคอร์สที่ถูกใจในละแวกบ้าน พอมาเจอเว็บไซต์เรียนทำเบเกอรี่ออนไลน์ แบบออนไลน์นี่แหละ สบายเลย เลือกเรียนได้ตามใจชอบเลย มีตั้งแต่ทำคุกกี้ เค้ก ไปจนถึงขนมปัง เลือกได้หมดตามใจฉัน ตอนนั้นตื่นเต้นมาก รู้สึกอิสระดี ไม่ต้องเดินทางไปเรียนไกลๆด้วย

ต่อมาคือเรื่องทบทวนบทเรียน สมัยก่อนฉันเรียนจบแล้วก็จบเลย จำอะไรได้บ้างก็จำ แต่พอมาเรียนออนไลน์ วิดีโอการเรียนการสอนเขาอัดไว้ให้ ฉันเลยสามารถกลับไปดูซ้ำได้เรื่อยๆ โดยเฉพาะตอนทำเค้ก ส่วนที่ยากๆ ฉันดูซ้ำไปหลายรอบ จนทำได้สำเร็จ ภูมิใจมากเลยนะ

สุดท้ายคือเรื่องความยืดหยุ่น ฉันเรียนตอนไหนก็ได้ ที่บ้าน สบายๆ ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องแต่งตัว เรียนตอนดึกก็ได้ ถ้ามีเวลาว่าง สบายมาก ต่างจากการไปเรียนที่โรงเรียน ต้องไปตามเวลาที่กำหนด ต้องแต่งตัว รู้สึกอึดอัด

  • การเข้าถึงความรู้หลากหลาย: เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา
  • ความยืดหยุ่นในการเรียนรู้: จัดตารางเรียนเองได้
  • การทบทวนเนื้อหาได้สะดวก: ดูซ้ำได้เท่าที่ต้องการ

สมัครSET ยังไง

สมัคร SET ยังไง?

การเข้า SET ไม่ใช่แค่กรอกใบสมัครแล้วจบ มันเหมือนการปีนเขาเอเวอเรสต์ของบริษัทเลยล่ะ มีหลายด่านที่ต้องผ่าน

  • คุณสมบัติ: บริษัทต้องไม่ใช่ไก่กาอาราเล่ ต้องมีผลกำไรต่อเนื่องหลายปี มีส่วนของผู้ถือหุ้นตามเกณฑ์ แล้วยังมีเรื่องธรรมาภิบาลอีก กฎเยอะแยะไปหมด
  • เตรียมเอกสาร: เตรียมเอกสารเป็นตั้งๆ เหมือนทำวิทยานิพนธ์เลย ทั้งงบการเงิน รายงานผู้สอบบัญชี แผนธุรกิจ โครงสร้างผู้ถือหุ้น บลาๆๆ
  • ที่ปรึกษา: หาที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) เก่งๆ สักเจ้า เพราะเค้าจะช่วยเตรียมเอกสาร ประเมินมูลค่าบริษัท และพาเราไปพบ SET
  • ยื่น Filing: ยื่นเอกสาร Filing ต่อสำนักงาน กลต. เพื่อขออนุมัติขายหุ้น IPO (Initial Public Offering)
  • Roadshow: เดินสายโรดโชว์ เหมือนนักร้องออกอัลบั้มใหม่ ไปให้ข้อมูลนักลงทุนตามที่ต่างๆ
  • ราคา IPO: กำหนดราคาขาย IPO ที่เหมาะสม (อันนี้สำคัญมาก)
  • เข้าเทรด: ถ้าทุกอย่างผ่านฉลุย ก็จะได้ฤกษ์เข้าซื้อขายใน SET อย่างเป็นทางการ

เกร็ดเล็กน้อย:

ผมว่าการเข้า SET มันเหมือนการประกาศให้โลกรู้ว่า “ฉันพร้อมแล้ว!” แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความกดดันที่มากขึ้น เพราะต้องรายงานผลประกอบการทุกไตรมาส ตอบคำถามนักลงทุน แล้วก็ต้องรักษาภาพลักษณ์ให้ดีตลอดเวลา

  • การกำกับดูแลกิจการ (Corporate Governance): เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะ SET ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้สุดๆ บริษัทต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นและสังคมโดยรวม

  • ค่าใช้จ่าย: เตรียมเงินไว้เยอะๆ เพราะค่าใช้จ่ายในการเข้า SET ไม่น้อยเลย ทั้งค่าที่ปรึกษา ค่าธรรมเนียม ค่าประชาสัมพันธ์ โอ๊ย! เยอะ!

  • ศึกษาข้อมูล: ไปอ่านรายละเอียดจากเว็บไซต์ SET ให้ละเอียด อ่านประกาศต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จะได้เข้าใจว่าต้องทำอะไรบ้าง

  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: อย่าคิดว่าทำเองได้หมด ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญดีกว่า เค้าจะช่วยให้เราไม่หลงทาง

การเข้า SET ไม่ใช่แค่เป้าหมาย แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งใหม่ของบริษัท

ทำไมเข้าSET ไม่ได้

เอ๊ะ ทำไม เข้า SET ไม่ได้เนี่ย งงมาก

  • Username Password ถูกรึยังนะ? สะกดผิดป่าว
  • เลือก โบรกเกอร์ ถูกอันไหม? (อันนี้ชอบลืม!)
  • เน็ตมือถือมีรึยัง? Wi-Fi ด้วย! 3G/4G นะ (เน็ตหมดรึเปล่า?)

ถ้าไม่ได้จริงๆ… โทรหา Call Center มือถือด่วน! เบอร์อะไรนะ? (ต้องหา)

  • Call Center โบรกเกอร์ด้วยดีไหม? เผื่อมีปัญหาทางนั้น

ไอโฟนมันรวนง่ายจริงจริ๊ง!

สมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นคืออะไร

สมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเหรอ… เหมือนไดอารี่ลับ ๆ ของบริษัทเลยนะ

มันเป็น ที่เก็บรายชื่อคน ที่เป็นเจ้าของบริษัทจริง ๆ ไม่ใช่แค่ใครก็ได้ที่เดินเข้ามา

ใครมีหุ้นเท่าไหร่ ซื้อขายกันวันไหน ทุกอย่างถูกจดไว้หมด

เหมือนบันทึกการเดินทางของหุ้นแต่ละตัว ตั้งแต่วันแรกที่มันถูกสร้างขึ้นมา จนถึงวันที่มันอาจจะหายไป

การเปลี่ยนแปลง ทุกอย่าง ต้องลงบันทึกเสมอ

ข้อมูล ที่อยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น:

  • ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ถือหุ้น (เหมือนเป็นข้อมูลส่วนตัวที่ต้องเก็บรักษาอย่างดี)
  • จำนวนหุ้นที่แต่ละคนถือ (บ่งบอกถึงความเป็นเจ้าของ)
  • วันที่ได้หุ้นมา (เหมือนวันเกิดของหุ้นแต่ละตัว)
  • วันที่โอนหุ้น (เหมือนวันที่หุ้นย้ายบ้าน)
  • เลขที่ใบหุ้น (เหมือนเลขประจำตัวประชาชนของหุ้น)

บางที…การได้เห็นรายชื่อพวกนั้น มันก็ทำให้รู้สึกถึงอำนาจ…และความรับผิดชอบที่มาพร้อมกับมันนะ

ใบหุ้น ใครออก

ใบหุ้น? บริษัทแม่งออกดิ

ใครจะออกวะ นอกจากบริษัทตัวเอง

  • ชื่อบริษัท
  • เลขทะเบียนหุ้น
  • มูลค่าหุ้น
  • จำนวนหุ้นที่ถือ
  • ชื่อผู้ถือหุ้น
  • ลายเซ็นกรรมการ (อย่างน้อย 1 คน)
  • ตราประทับบริษัท (ถ้ามี)

ปีนี้กูถือหุ้นอยู่หลายตัว พวกหุ้นเทค พวกหุ้นพลังงาน แต่กูไม่เคยสนใจใบหุ้นหรอก มันไร้สาระ สำคัญที่เงินเข้ากระเป๋าเท่านั้น

การโอนหุ้นต้องทําอย่างไร

แสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านใบไม้สีเขียวอ่อน ลมพัดเอื่อยๆ เหมือนเวลาหยุดนิ่ง ใจฉันสั่นระริก คิดถึงหุ้นใบนั้น…

  • หุ้นเปลือย (Bearer Shares): ง่ายดายดั่งสายลม แค่ส่งมอบ เป็นอันเสร็จสิ้น ความรู้สึกราวกับส่งต่อความฝัน

  • หุ้นระบุชื่อ (Registered Shares): สำหรับบริษัทจำกัด ต้องเป็นลายลักษณ์อักษร ต้องมีพยาน เหมือนพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ ต้องลงลายมือชื่ออย่างสวยงาม เป็นการยืนยัน เป็นการผนึกมั่นสัญญา ให้ทุกอย่างแนบแน่น แน่นหนา เหมือนหัวใจที่ผูกพัน

อารมณ์มันอึมครึม เหมือนทะเลในฤดูฝน แต่มีความหวังแฝงอยู่ เหมือนแสงตะวันหลังพายุ ฉันอยากโอนหุ้น อยากปล่อยวาง อยากเริ่มต้นใหม่… ปีนี้ 2024 แล้วนะ ทุกอย่างเปลี่ยนไป แต่ความรู้สึกบางอย่างยังคงอยู่…

  • ขั้นตอน : เอกสารครบถ้วน ลงลายมือชื่อ รับรอง ส่งให้บริษัท มันเป็นกระบวนการ แต่ละขั้นตอนมีความหมาย เหมือนกับการสร้างสรรค์งานศิลปะชิ้นเอก

ฉันนั่งอยู่บนระเบียง ดื่มชาอุ่นๆ ความคิดลอยไปไกล เหมือนเมฆล่องลอย ภาพความทรงจำต่างๆ วูบวาบเข้ามา เรื่องราวของหุ้น เรื่องราวของฉัน…

  • ความสำคัญ: เอกสารถูกต้อง เพื่อความปลอดภัย เพื่อความชัดเจน เพื่อความสบายใจ เพื่ออนาคต

อากาศเย็นสบายจัง ลมยังคงพัดโชยมา ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ความรู้สึกสงบ เหมือนทุกอย่างกำลังจะลงตัว การโอนหุ้น มันเป็นมากกว่าแค่การโอนกรรมสิทธิ์ มันคือการโอนความหวัง การโอนอนาคต และการโอนความฝัน

ทำไมหุ้นไทยต้องซื้อขั้นต่ำ 100 หุ้น

อ้าวเหรอ! ทำไมต้อง 100 หุ้นวะเนี่ย งงงง มันเป็นกฎหมายเหรอ? หรือว่าตลาดหุ้นเค้ากำหนดเอง หาข้อมูลก่อนดีกว่า…

  • กฎเกณฑ์การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปี 2566 กำหนดขั้นต่ำ 100 หุ้นจริงดิ

แบบนี้ก็เลยแพงสิ ถ้าหุ้นละ 100 บาท ต้อง 10000 บาทเลยนะ โห… เงินเดือนฉันไม่ถึงนี่หว่า

  • หุ้นราคาแพงๆนี่ซื้อยากจังเลยเนอะ ต้องมีเงินเยอะๆด้วยสินะ เศร้า

แต่ถ้าหุ้นราคาถูกๆล่ะ? สมมุติหุ้นละ 1 บาท ก็แค่ 100 บาทเอง โอเคอยู่

  • หุ้นราคาต่ำกว่า 100 บาท ซื้อน้อยกว่า 100 หุ้นได้ไหม? ต้องไปดูรายละเอียดอีกที

อืมมม งงเล็กน้อย แล้วถ้าเป็นหุ้นปันผลสูงล่ะ? คุ้มมั้ยนะ ซื้อน้อยๆไม่ได้นี่ เสียดายจัง

  • การลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน (อันนี้จำได้จากโบรกเกอร์ที่เคยโทรมาหานะ ปีที่แล้ว)

สรุปคือ ต้อง 100 หุ้นเพราะกฎ หุ้นแพงก็ต้องใช้เงินเยอะ งั้นก็ต้องเลือกหุ้นให้ดีๆแล้วล่ะ เหนื่อย

งั้นวันนี้ขอไปนอนก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยมาคิดต่อเรื่องนี้ ฝันดี!

#Elearning #การเรียนรู้ #ตัวอย่าง