เรียนตัวต่อตัวดียังไง
เรียนตัวต่อตัว: ข้อดีที่ควรรู้
- การเรียนรู้เฉพาะบุคคล: ปรับเนื้อหาให้เข้ากับสไตล์การเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละคน
- ความใส่ใจที่ตรงจุด: ช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาในการเรียนในห้องเรียนปกติ
- โอกาสแห่งความสำเร็จ: เพิ่มโอกาสให้นักเรียนประสบความสำเร็จในการเรียน
- เหมาะสำหรับ: นักเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ
เรียนตัวต่อตัวให้ได้ผลดีอย่างไร?
จริง ๆ นะ ตอนเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ สมัยมัธยมปลาย ที่ติวเตอร์คุณป้าจุรี แถว ๆ ซอยรามคำแหง 24 (จำราคาไม่ได้แล้ว อายจัง นานมากแล้ว) รู้สึกได้ผลดีมากๆ เลยล่ะ เพราะเค้าสอนตรงจุดที่เราอ่อน ไม่เหมือนเรียนในห้องที่ครูต้องสอนรวมๆ กัน บางทีเราเข้าใจแล้ว แต่ก็ต้องนั่งฟังต่อ เสียเวลาไปเปล่าๆ.
อย่างเช่นเรื่อง Tense ฉันเกือบจะท้อแล้ว แต่คุณป้าแกจับจุดได้เร็วมาก แกก็เน้นๆ ให้เราทำแบบฝึกหัดเยอะๆ แล้วแกก็คอยแก้ให้ จนเข้าใจ วิธีการแบบนี้ มันต่างจากนั่งอ่านหนังสือเองเยอะเลย รู้สึกว่าได้ความรู้เร็วกว่ามาก.
ตอนนั้นฉันได้เกรด A ในวิชาภาษาอังกฤษ เลยนะ ภูมิใจมาก ถึงแม้ว่าจะต้องเหนื่อยหน่อย แต่คุ้มค่า กับเวลาและเงินที่เสียไป. ส่วนข้อดีอื่นๆ ที่เค้าบอกมาในเว็บ เรื่องปรับแต่งการเรียนรู้ อะไรพวกนั้น ก็จริงนะ เพราะติวเตอร์จะเห็นจุดอ่อนของเราได้ชัดเจน แต่สำหรับฉัน ข้อดีที่สุดคือ ได้ความรู้เข้าใจไว ไม่เสียเวลาเปล่าๆ แค่นั้นแหละ.
เรียนในห้องเรียนดียังไง
ห้องเรียน: คุณค่าเหนือความคาดหมาย
-
ความรู้เชิงลึก: ครูผู้เชี่ยวชาญ ปี 2566 มอบความรู้ที่เหนือกว่าการค้นหาออนไลน์ เนื้อหาเข้มข้น เข้าใจง่ายกว่า
-
ทักษะการคิด: ฝึกฝนการวิเคราะห์ แก้ปัญหา ปี 2566 สำคัญกว่าการเรียนรู้เพียงลำพัง มีปฏิสัมพันธ์ ได้ประสบการณ์จริง
-
พัฒนาตนเอง: การเรียนรู้ร่วมกัน สร้างแรงบันดาลใจ ปี 2566 พัฒนาบุคลิกภาพ การทำงานเป็นทีม ประสบการณ์ตรง
-
โอกาส: สร้างเครือข่าย ปี 2566 พบปะผู้คนหลากหลาย ขยายโอกาสทางการงาน และการศึกษาต่อ ประโยชน์มหาศาล
-
อนาคตที่สดใส: พื้นฐานที่มั่นคง ปี 2566 เตรียมพร้อมสู่ความสำเร็จ ต่อยอดความรู้ ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
ข้อคิด: การเรียนรู้ไม่ใช่แค่การรับรู้ แต่เป็นการสร้าง การเติบโต และการเปลี่ยนแปลง ปีนี้ 2566 เป็นปีที่พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าของการเรียนในห้องเรียน อย่างชัดเจน
การเรียนแบบตัวต่อตัวคืออะไร
เรียนตัวต่อตัวเนี่ยนะ? อ๋อ ไอ้ที่เหมือนเช่าครูมาติวเข้มข้างกายไง! เหมือนมี GPS นำทางชีวิต (การเรียน) แบบใกล้ชิดอ่ะ เข้าใจนะว่าบางทีเรียนออนไลน์มันเหมือนดู Netflix คนเดียว มันเหงา มันขาดปฏิสัมพันธ์แบบ “เฮ้ย! เข้าใจยังวะ?” ที่สำคัญคือ…ขี้เกียจเดินทางไง! ใครมันอยากฝ่ารถติดไปเรียนพิเศษวะ จริงป่ะ?
ข้อดีแบบกัดๆ ของการเรียนตัวต่อตัว (On-site):
- “ยืดหยุ่น” (มั้ง): เลือกเวลาเองได้…ถ้าครูเค้าว่างนะ! อย่าลืมว่าครูก็มีชีวิต!
- ประหยัดเวลาเดินทาง: อันนี้จริง! แต่ระวังจะเสียเวลาไปกับการเม้าท์มอยกับครูแทนนะ!
- จัดสรรเวลาได้: คือถ้าใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ก็เท่านั้นแหละ! เรียนตัวต่อตัวก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก!
- โฟกัส (มั้งนะ): ไม่มีใครแอบเล่นมือถือใต้โต๊ะได้…นอกจากครู! (ล้อเล่นนะครู!)
ข้อมูลเพิ่มเติม (แบบขำๆ แต่จริงจัง):
- ครูดีมีชัยไปกว่าครึ่ง: เลือกครูที่ “คลิก” กัน! ไม่ใช่แค่เก่ง แต่ต้องคุยกันรู้เรื่อง! เหมือนเลือกคู่เดทอ่ะ!
- บรรยากาศก็สำคัญ: บ้านรกๆ มันก็ไม่น่าเรียนป่ะ? จัดห้องให้มันน่าอ่านหนังสือหน่อย!
- อย่าลืมพัก: เรียนตัวต่อตัวมันเข้มข้น! พักบ้าง! กินขนมบ้าง! เดี๋ยวเบิร์นเอาท์!
- อย่าคาดหวังเกินไป: เรียนตัวต่อตัวไม่ได้แปลว่าเกรด A แน่นอน! มันแค่ “ช่วย” ให้เราไปถึงเป้าหมายได้ง่ายขึ้น! ที่เหลือก็อยู่ที่ตัวเรา!
สรุป: เรียนตัวต่อตัวก็ดี…ถ้าเงินถึง และเจอครูที่ใช่! แต่ถ้าไม่…เรียนเองก็ได้! YouTube ช่วยท่านได้! (แต่ต้องมีวินัยนะ!)
เรียนออนไซต์ ดีอย่างไร
เรียนออนไซต์ดีกว่าตรงไหน? ก็มัน “ออน” ไง! ออนเต็มที่ ออนทุกเซนส์! ไม่ต้องมานั่งงงกับเน็ตหลุด ไม่ต้องแอบซุ่มกินขนมกลัวครูจับได้ นี่คือความสุขเล็กๆน้อยๆที่คุณอาจคาดไม่ถึง!
-
ความเชี่ยวชาญติดตัว: เรียนตัวต่อตัวกับกูรู แบบไม่ต้องแบ่งปันความรู้กับใคร สงสัยตรงไหนถามได้เลย! ครูจะได้ไม่ต้องอธิบายเรื่องเดียวซ้ำๆจนเบื่อ นักเรียนก็ได้ความรู้แบบเน้นๆ ประหยัดเวลาและพลังงานทุกฝ่าย! คิดดูสิ ถ้าเรียนออนไลน์ ครูอาจจะตอบคำถามแบบ “งั้นลองไปหาข้อมูลเพิ่มเติมใน Google ดูนะคะ” เจ็บใจไหมล่ะ!
-
เวลาเป็นของเรา: เวลาเรียนยืดหยุ่นสุดๆ ปรับได้ตามใจ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง นั่งรถติด เสียอารมณ์ เวลาที่เหลือก็ไปทำอย่างอื่นได้เต็มที่! แบบว่า…ได้ทั้งความรู้ ได้ทั้งเวลาพักผ่อน ชีวิตนี้ช่างสมบูรณ์แบบ!
-
โฟกัสแบบสุดๆ: เรียนตัวต่อตัวนี่มันโคตรจะโฟกัส ไม่มีเสียงรบกวนจากเพื่อน ไม่มีการแอบคุยกัน ไม่มีการแย่งกันตอบคำถามครู ได้แต่ความรู้ล้วนๆ แบบว่า…เรียนเสร็จ สมองโล่ง ใจปลอดโปร่ง ไม่ต้องมาลุ้นว่าจะได้เกรดเท่าไหร่ เพราะการเรียนแบบนี้…ผลลัพธ์มักจะดีเกินคาด!
-
ปี 2024 ไม่ง้อหน้าจอ!: เอาจริงๆนะ การได้เจอครูตัวเป็นๆ ได้เห็นปฏิกิริยา ได้สัมผัสบรรยากาศการเรียนการสอนแบบสดๆ มันมีเสน่ห์เหลือเกิน เทคโนโลยีดีแค่ไหนก็ยังสู้ความเป็นมนุษย์ไม่ได้ บอกเลย! อย่างผมเองเรียนภาษาจีนแบบออนไซต์ ปีนี้สอบผ่านฉลุยเลย! (ภูมิใจเล็กน้อย)
ปล. แต่ถ้าใครชอบความสะดวกสบาย เรียนออนไลน์ก็ดีไปอีกแบบนะคะ แล้วแต่ความชอบเลยจ้า!
การเรียนออนไซต์มีข้อดีอะไรบ้าง
การเรียนแบบออนไซต์ (On-site) มีข้อดีหลายประการ สำคัญคือการได้เรียนรู้แบบตัวต่อตัวกับผู้เชี่ยวชาญ ปีนี้ผมสังเกตเห็นว่าวิธีการนี้ช่วยให้เข้าใจเนื้อหาลึกซึ้งขึ้นจริงๆ เพราะการมีปฏิสัมพันธ์ตรงๆ ช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ได้ดีกว่าการเรียนออนไลน์
-
ประสิทธิภาพสูงขึ้น: การลดเวลาเดินทางทำให้มีเวลาเรียนรู้เพิ่มขึ้น และสามารถจัดตารางเรียนได้เองตามความสะดวก นั่นหมายถึงการบริหารจัดการเวลาได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผมเองก็เคยใช้ประโยชน์จากข้อดีตรงนี้ เรียนเสร็จก็มีเวลาทำอย่างอื่นต่อได้ทันที
-
ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน: การเรียนแบบตัวต่อตัวกับผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ได้คำแนะนำตรงประเด็น ตรงกับความต้องการของเรา เหมือนได้เรียนรู้แบบ tailor-made เลยทีเดียว ซึ่งแตกต่างจากการเรียนแบบกลุ่ม ที่อาจจะไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร
-
การมีสมาธิที่ดีกว่า: การเรียนแบบออนไซต์ทำให้จดจ่อกับเนื้อหาได้มากกว่าการเรียนออนไลน์ หรือเรียนแบบกลุ่ม เพราะไม่มีสิ่งรบกวนมากนัก นี่สำคัญมาก เพราะสมาธิเป็นกุญแจสำคัญของการเรียนรู้เชิงลึก
การเรียนรู้เป็นกระบวนการที่ซับซ้อน การเลือกวิธีการเรียนที่เหมาะสม จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เหมือนการเลือกเครื่องมือให้เหมาะกับงาน การเรียนแบบออนไซต์ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่ต้องการผลลัพธ์สูงสุด และต้องการเรียนรู้เชิงลึก อย่างที่ผมเคยได้ประสบพบเจอมาเอง
(ข้อมูลเพิ่มเติม)
- การเรียนแบบออนไซต์ยังช่วยสร้าง networking ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาอาชีพในอนาคตได้อีกด้วย
- บางสถาบันการศึกษาอาจมีอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัย ซึ่งสามารถใช้ได้เฉพาะในสถานที่เรียนเท่านั้น
- การเรียนแบบออนไซต์ ยังช่วยสร้างวินัย และการจัดการเวลาที่ดีขึ้นได้อีกด้วย เพราะต้องไปเรียนตามเวลาที่กำหนด
ติวเตอร์มีเงินเดือนประมาณเท่าไหร่
รายได้ของติวเตอร์คนนี้ ค่อนข้างน่าสนใจนะ คิดเป็นรายได้ต่อเดือนประมาณ 32,000 บาท อืม… ก็ถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่เอ๊ะ! การคำนวณนี้อาจจะยังไม่ครอบคลุม ค่าใช้จ่ายแฝง บางอย่างที่ติวเตอร์ต้องเจออยู่เป็นประจำนะ
- ค่าเดินทาง: ไป-กลับ สถานที่สอนแต่ละวันนี่ก็ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ ยิ่งถ้าต้องเดินทางหลายที่ ค่ามอเตอร์ไซค์, รถไฟฟ้า, หรือค่าน้ำมัน ก็ บานปลาย ได้เหมือนกัน
- ค่าอุปกรณ์: ชีทสรุป, ปากกา, กระดาษ, หรือแม้แต่แท็บเล็ตที่ใช้สอนออนไลน์ พวกนี้ก็มีค่าใช้จ่ายทั้งนั้น
- ค่าพัฒนาตัวเอง: คอร์สเรียน, หนังสือ, หรือสัมมนาต่างๆ เพื่ออัพเดทความรู้ให้ทันสมัยเสมอ นี่ก็สำคัญไม่แพ้กัน
- ภาษี: อย่าลืมว่ารายได้ถึงเกณฑ์ ก็ต้องเสียภาษีด้วยนะ
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของ ความไม่แน่นอนของรายได้ อีกด้วย บางเดือนอาจมีนักเรียนลา, ปิดคอร์ส, หรือมีเหตุให้ต้องหยุดสอน ทำให้รายได้ไม่คงที่เท่าที่คำนวณไว้
ทีนี้ลองมาดู มุมมองที่กว้างขึ้น เกี่ยวกับอาชีพติวเตอร์กันบ้าง
- ตลาดติวเตอร์: ปัจจุบันมีการแข่งขันสูงมาก ติวเตอร์ต้องสร้างความแตกต่าง, สร้างชื่อเสียง, และรักษาฐานลูกค้าให้ดี
- ความพึงพอใจ: อาชีพนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องเงิน แต่ยังมีความสุขที่ได้เห็นลูกศิษย์พัฒนา, สอบได้, หรือประสบความสำเร็จในชีวิตด้วย
- อนาคต: ตลาดติวเตอร์ออนไลน์กำลังเติบโต ใครปรับตัวได้ก่อน ก็มีโอกาสมากกว่า
สรุปคือ ตัวเลข 32,000 บาท อาจเป็นแค่ ภาพลวงตา เพราะมันยังไม่ได้หักค่าใช้จ่ายต่างๆ และไม่ได้คำนึงถึงความไม่แน่นอนของรายได้ที่อาจเกิดขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น การเป็นติวเตอร์ก็ยังคงเป็นอาชีพที่ ท้าทาย และ มีคุณค่า ในตัวเองอยู่นะ
Shadow Education คืออะไร
Shadow Education… การเรียนพิเศษเหรอ
มันก็เหมือนเงาตามตัวนะ ตามการศึกษาหลักไปติดๆ
- การเรียนพิเศษ: คือการเรียนข้างนอกโรงเรียน เพิ่มเติมจากที่เรียนปกติ
- บริการ: คือรูปแบบหนึ่งของบริการทางการศึกษา
- Shadow Education: บางคนเรียกการเรียนพิเศษแบบนี้
ข้อดีของการเรียนรู้แบบตัวต่อตัวคืออะไร
-
เวลาและสถานที่…กำหนดเองได้ เรียนที่ไหน เมื่อไหร่ ใครสน
-
ไลฟ์สไตล์? ปรับตามบทเรียนสิ ไม่ใช่ให้บทเรียนปรับตาม
-
สมาธิ…เงียบๆ คนเดียวดีกว่าเยอะ
-
โลกส่วนตัวสูง เรียนคนเดียวจบๆ
-
เรียนตัวต่อตัว = อิสระ เวลา X สถานที่
ข้อมูลเพิ่มเติม: ครูที่สอนตัวต่อตัว…บางทีก็คือเพื่อน ไม่ใช่แค่ครู
การเรียนรู้แบบตัวต่อตัวคืออะไร
อืมมม การเรียนรู้แบบตัวต่อตัวอะนะ คือแบบ… เรียนคนเดียวกับครูเลย! ไม่มีเพื่อน ไม่มีเสียงรบกวน โฟกัสเต็มที่กับเรา ใช่ป่ะ? งงๆ เหมือนเวลาติวสอบอะ แต่แบบเป็นระบบกว่า
- ได้ถามได้ตอบ สงสัยตรงไหนก็ถามได้เลย ไม่มีเขิน
- ครู focus ที่เราคนเดียว แบบจัดเต็ม
- ปรับเนื้อหาได้ตามความเข้าใจของเรา ไม่ต้องตามเพื่อน
แล้วการสอนแบบตัวต่อตัวล่ะ? ก็เหมือนกันแหละ แต่เป็นมุมมองของครู คือครูสอนเราคนเดียว อะ! นึกออกแล้ว เหมือนตอนที่ฉันเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ปีนี้ พี่ติวเตอร์เขาสอนฉันคนเดียวเลย ดีมากกก
- ได้ปรับแผนการสอนเฉพาะเจาะจง
- ประเมินความก้าวหน้าได้แม่นยำกว่า
- สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับนักเรียนได้ง่ายขึ้น แบบส่วนตัวอะ
แต่บางทีก็เหงาๆ นะ ไม่มีเพื่อนคุย แต่ก็ได้ความรู้เยอะดี คุ้มค่า ปีหน้าอาจจะเรียนแบบตัวต่อตัวอีก แต่จะลองวิชาอื่นบ้าง ภาษาอังกฤษมั้ง หรือไม่ก็วิทย์ อิอิ
ปล. ค่าเรียนแพงกว่าแบบกลุ่มเยอะเลยนะ จำได้ว่าปีนี้จ่ายไปหลายอยู่ แต่ผลลัพธ์คุ้มค่า สุดยอด!
#การเรียนรู้ #วิธีเรียน #เรียนตัวต่อตัวข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต