Grammar กับไวยากรณ์ต่างกันยังไง
Grammar กับ ไวยากรณ์: ความหมายเดียวกัน
- "ไวยากรณ์" (ภาษาไทย) และ "grammar" (ภาษาอังกฤษ) คือสิ่งเดียวกัน
- หมายถึง ศึกษาและเข้าใจกฎเกณฑ์ของภาษา
- ครอบคลุม เสียง คำศัพท์ โครงสร้างประโยค
- รวมถึงการสร้างคำใหม่และความหมายของคำ
- ใช้อธิบายลักษณะของหนังสือที่สอนกฎภาษา
Grammar กับไวยากรณ์ ต่างกันอย่างไร?
อืม…ไวยากรณ์กับแกรมม่าร์นี่นะ ตอนเรียนมัธยมปลายที่โรงเรียนสตรีศรีนคร(จำได้เลย ปี 2550!) ครูภาษาอังกฤษเน้นย้ำมาก แกบอกว่าแกรมม่าร์เนี่ย คือ กฎเกณฑ์ของภาษาอังกฤษ แบบว่า ประธาน กริยา กรรม ต้องเรียงยังไง ใช้คำเชื่อมอะไร จำได้คร่าวๆนะ แต่แกสอนละเอียดมาก แบบว่า ถ้าผิดไปนิดเดียว แกจะจับผิดได้หมดเลย กลัวแกมากๆๆ อิอิ
ส่วนไวยากรณ์ ฉันคิดว่ามันกว้างกว่านะ แบบรวมๆ หลายภาษาเลย ไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษอย่างเดียว คือหลักการสร้างประโยค โครงสร้างของภาษาต่างๆ ยังไงก็ต้องมีกฎเกณฑ์ แต่ไวยากรณ์มันดูเป็นวิชาการมากกว่า อธิบายเชิงวิชาการ ลึกซึ้งกว่า ฉันว่านะ ตอนนั้น เรียนวิชาภาษาไทย ก็มีไวยากรณ์ แต่เรียกอีกอย่าง จำไม่ได้แล้วสิ นานมากแล้ว สมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่จุฬาฯ สาขาภาษาไทย (ปี 2554) ก็มี แต่มันเรียกอีกชื่อหนึ่ง ตอนนั้น ฉันก็งงๆอยู่เหมือนกัน ว่ามันต่างกันยังไง จริงๆ
สรุปง่ายๆ สำหรับฉัน แกรมม่าร์คือกฎเกณฑ์ของภาษาอังกฤษ เฉพาะเจาะจง ส่วนไวยากรณ์กว้างกว่า เป็นหลักการทั่วไป ของหลายๆภาษา แต่ก็คล้ายๆกัน แค่ชื่อต่างกัน มั้งนะ ฉันไม่ค่อยแน่ใจ เรื่องนี้ นานมาแล้ว ความจำฉันไม่ค่อยดี จริงๆ
ไวยากรณ์ ทําหน้าที่อะไร
ไวยากรณ์… มันเหมือนโครงสร้างของบ้านนะ ถ้าไม่มีมัน คำพูดก็แค่กองอิฐ กองทราย ที่วางระเกะระกะ ไม่เป็นรูปเป็นร่าง
มันคือ กฎเกณฑ์ ที่กำหนดว่าเราจะเอาคำนู้นคำนี้มาวางตรงไหน ถึงจะสื่อสารกันรู้เรื่อง
- การเรียงคำ: คิดง่ายๆ ว่าประธาน กริยา กรรม ต้องมายังไง ถ้าสลับที่ ชีวิตก็เปลี่ยน ความหมายก็อาจจะเพี้ยน
- โครงสร้างประโยค: ประโยคซับซ้อนแค่ไหน ไวยากรณ์ก็ช่วยให้มันเป็นระเบียบ จับใจความได้
- หน้าที่ของคำ: คำแต่ละคำมีหน้าที่ของมันเอง ไวยากรณ์ช่วยบอกว่าคำไหนทำอะไรในประโยค
ไวยากรณ์ ไม่ใช่แค่เรื่องถูกผิด แต่มันคือ เครื่องมือ ที่ทำให้เราเข้าใจกันได้… ถึงบางทีมันก็ซับซ้อนจนน่าปวดหัวก็เถอะ
ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษหมายถึงอะไร
อืม… ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเนี่ยนะ… มันก็คือกฎเกณฑ์ของภาษาอังกฤษนั่นแหละ เหมือนแบบ… โครงสร้างประโยค การเรียงคำ ให้มันถูกต้องตามหลักภาษา อะไรงี้
คิดไปคิดมาแล้วก็งงๆ เหมือนกันนะ บางทีเราก็พูดผิดๆ ถูกๆ ไปโดยไม่รู้ตัว เหมือนตอนคุยกับเพื่อน ก็ไม่ได้คิดมาก มันก็เลยมักจะผิดหลักไวยากรณ์ไปบ้าง อย่างเช่น ประโยคที่ยกตัวอย่างมานั่นแหละ
-
ประโยคที่ 1 “My new purse beautiful.” มันขาด verb ต้องเติมคำกริยาเข้าไป เช่น “My new purse is beautiful.” ถึงจะถูกต้อง
-
ประโยคที่ 2 “At Monday, I will go to work.” อันนี้ผิดตรงที่ใช้คำบุพบท “at” กับวัน ควรใช้ “on Monday” ถึงจะถูกต้อง
ตอนนี้ก็เลยรู้สึกเหมือน… ตัวเองก็ยังไม่เก่งภาษาอังกฤษเลย แม้ว่าจะเรียนมาตั้งนานแล้ว ยังต้องคอยระวังเรื่องพวกนี้ตลอด บางทีก็เหนื่อยเหมือนกันนะ การเรียนภาษา มันยากกว่าที่คิดจริงๆ
ปีนี้ก็ยังคงเรียนภาษาอังกฤษอยู่ แต่เน้นฝึกพูดกับฝรั่งมากกว่า เพราะรู้สึกว่าการอ่านหรือเขียนอย่างเดียวมันไม่พอ ต้องใช้จริงๆ ถึงจะเก่งขึ้น
ไวยากรณ์ทำหน้าที่อะไรบ้าง
อืมมม ไวยากรณ์นะเหรอ ตอนเรียนปีสามที่จุฬาฯ วิชาภาษาอังกฤษกับอาจารย์ภาควิชาภาษาอังกฤษ สมัยนั้นปี 2024 คือโคตรเครียดเลย จำได้แม่นว่า มึนตึ๊บกับการวิเคราะห์ประโยคซับซ้อน แบบมี subordinate clause เต็มไปหมด หัวจะปวดตาย! รู้สึกเหมือนสมองจะระเบิด ต้องนั่งแกะแยกโครงสร้างประโยค หา subject verb object แล้วก็ phrase ต่างๆ กว่าจะเข้าใจแต่ละส่วนของประโยค ก็ปวดหัวไปหลายวัน งานส่งอาจารย์นี่คือ ต้องใช้เวลานานมาก กว่าจะได้ grade ที่โอเค
จริงๆแล้วไวยากรณ์มันก็คือ กฎเกณฑ์ที่ทำให้เรารู้ว่า จะเรียงคำ สร้างประโยคยังไงให้ถูกต้อง ให้คนอื่นเข้าใจ ไม่งั้น ก็พูดกันไม่รู้เรื่องสิ ใช่ไหม?
- ช่วยให้เราสร้างประโยคที่ถูกต้องตามหลักภาษา
- ทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ทำให้เราเข้าใจภาษาได้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยให้เราเขียนและพูดภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตอนนั้น รู้สึกว่าไวยากรณ์มันสำคัญมาก เพราะ ถ้าเราไม่เข้าใจไวยากรณ์ การเขียน การพูดภาษาอังกฤษของเรา ก็จะไม่ดี เวลาสอบก็จะได้คะแนนไม่ดีด้วย ยังจำความรู้สึกกดดันตอนนั้นได้เลย แบบว่า ต้องอ่านหนังสือหนักมาก กว่าจะสอบผ่าน แต่ก็ดีนะที่ได้ความรู้เรื่องนี้มา ช่วยในการเรียนภาษาอื่นๆ ได้ด้วย ตอนนี้ทำงานแล้ว ก็ยังใช้ความรู้เรื่องไวยากรณ์ ในการทำงานเขียน อยู่บ่อยๆ
ส่วนคำว่าหลักภาษา ที่อาจารย์บอก ก็ใช้กับภาษาไทย นั่นแหละ ก็คล้ายๆ กัน คือกฎเกณฑ์ของภาษาไทย แต่ใช้เฉพาะภาษาไทย ไม่เหมือน grammar ที่ใช้ได้กับทุกภาษา
ไวยากรณ์ศึกษาเกี่ยวกับอะไร
เอ้า! ไวยากรณ์นี่มันเรื่องใหญ่กว่าที่คิดนะเฟ้ย! ไม่ใช่แค่เรื่องการเรียงคำให้ถูกต้องตามตำราแบบที่ครูฝรั่งสอนสมัยเรียนมัธยม มันครอบคลุมกว่านั้นเยอะ! คิดภาพง่ายๆ เหมือนการสร้างบ้านหลังใหญ่
-
เสียง (Phonology): นี่คือรากฐานเลย เหมือนเสาเข็มบ้านเรา ถ้าเสียงไม่ชัด บ้านก็พัง! ลองคิดดูสิ ถ้าเราออกเสียง “ขำ” เป็น “ค้ำ” คนฟังก็งงสิครับ!
-
คำศัพท์ (Lexicon): อิฐ หิน ปูน ของสำคัญในการสร้างบ้าน ไม่มีคำศัพท์ ก็สร้างประโยคไม่ได้ ยิ่งรู้คำเยอะ บ้านก็ยิ่งใหญ่โตอลังการ แต่ถ้าใช้คำไม่ถูกที่ถูกทาง ก็เหมือนใช้ของเกรดต่ำมาสร้างบ้าน เดี๋ยวก็พัง!
-
ประโยค (Syntax): นี่แหละคือแบบแปลนบ้าน! เรียงคำอย่างไรให้บ้านสมบูรณ์แข็งแรง ถ้าประโยคไม่สมบูรณ์ บ้านก็เอียง!
-
การประสมคำ (Morphology): เหมือนการนำอิฐมาเรียงต่อกันเป็นผนัง เราสามารถประสมคำต่างๆ เพื่อสร้างความหมายใหม่ๆ ได้ มันคือความสร้างสรรค์ในการสร้างบ้านของเราเลยล่ะ!
-
การตีความ (Semantics): คือการตกแต่งภายในบ้าน ให้ความหมายของบ้านชัดเจน คนเข้ามาอยู่อาศัยได้เข้าใจความหมายของบ้านหลังนี้ ไม่ใช่สร้างเสร็จแล้วไม่มีใครเข้าใจ!
ปีนี้ (2566) ผมยังคงยืนยันว่า ไวยากรณ์เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง! เหมือนกับการสร้างบ้านที่ต้องมีแบบแปลนที่แข็งแรง ไม่งั้นบ้านก็พัง! เอาแค่การเขียนอีเมลล์ยังต้องใช้เลย นี่ขนาดผมเก่งภาษาอังกฤษขนาดนี้ ยังต้องเช็คไวยากรณ์อยู่เลย! พูดเลย!
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต