ถ้าไม่ทากันแดดจะเป็นอะไรไหม

อยู่บ้านก็ต้องทากันแดด? ความจริงที่คุณอาจคาดไม่ถึงเกี่ยวกับรังสี UVA

หลายคนเข้าใจว่าการทากันแดดนั้นจำเป็นเฉพาะเมื่อออกไปเผชิญกับแสงแดดจัดๆ เท่านั้น แต่ความจริงแล้ว แม้แต่การอยู่ภายในบ้านก็ยังมีความเสี่ยงต่ออันตรายจากรังสี UV โดยเฉพาะรังสี UVA ซึ่งสามารถทะลุผ่านกระจกเข้ามาได้อย่างง่ายดาย ทำให้ความเชื่อที่ว่า “อยู่บ้านแล้วไม่ต้องทากันแดด” นั้นเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอย่างมาก

รังสี UVA เป็นรังสีที่มีความยาวคลื่นยาวกว่า UVB จึงสามารถทะลุผ่านชั้นบรรยากาศ และแม้แต่กระจกหน้าต่างเข้ามาได้ ส่งผลให้ผิวหนังของเราได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่อง แม้ในวันที่ท้องฟ้ามืดครึ้มหรือแม้กระทั่งอยู่ในห้องแอร์ การสัมผัสรังสี UVA ในระยะยาวจะทำให้เกิดปัญหาผิวพรรณต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น:

• ริ้วรอยก่อนวัย: รังสี UVA จะทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย และดูแก่กว่าวัย โดยเฉพาะบริเวณที่ได้รับแสงแดดสะท้อน เช่น ใบหน้า ลำคอ และมือ

• ฝ้า กระ จุดด่างดำ: การสะสมของเม็ดสีเมลานินที่เกิดจากการถูกทำลายโดยรังสี UVA จะก่อให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำบนใบหน้า ทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน และไม่สดใส

• ผิวแห้งกร้าน: รังสี UVA ทำให้ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้น ส่งผลให้ผิวแห้ง กร้าน และขาดความยืดหยุ่น

• ความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง: แม้ว่ารังสี UVA จะไม่ทำให้เกิดการไหม้แดดได้ง่ายเหมือน UVB แต่ก็มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งผิวหนังในระยะยาวเช่นกัน

ดังนั้น การทาครีมกันแดดจึงไม่ใช่แค่การป้องกันตัวเองจากแสงแดดในวันที่ออกไปข้างนอกเท่านั้น แต่เป็นการปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากรังสี UVA อย่างต่อเนื่อง ตลอดทั้งวัน แม้ในขณะที่เราอยู่ภายในบ้านก็ตาม การเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF ที่เหมาะสม และมีค่า PA+++ ขึ้นไป จะช่วยป้องกันรังสี UVA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การสร้างนิสัยที่ดีต่อผิวด้วยการทาครีมกันแดดทุกวัน ไม่ว่าจะอยู่ภายในหรือภายนอกอาคาร จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อช่วยให้ผิวพรรณของคุณดูอ่อนเยาว์ สดใส และสุขภาพดี อยู่เสมอ อย่าละเลยการปกป้องผิวของคุณ แม้ในวันที่คุณคิดว่าปลอดภัยจากแสงแดดแล้วก็ตาม