ปัญหาที่พบในการสื่อสารภายในองค์กรมีอะไรบ้าง

91 การดู

ปัญหาสื่อสารภายในองค์กร: ขาดประสิทธิภาพ เกิดจากหลายปัจจัย

  1. สารไม่ถึงกลุ่มเป้าหมาย: ข้อมูลสูญหายระหว่างการส่งต่อ

  2. ความเข้าใจคลาดเคลื่อน: ถอดความผิดพลาด ภาษาไม่ชัดเจน

  3. การสื่อสารไม่ตรงไปตรงมา: ซ่อนเร้นข้อมูล สร้างความสับสน

  4. ข้อมูลไม่ครบถ้วน: ขาดรายละเอียด ทำให้ตัดสินใจผิดพลาด

  5. การสื่อสารแบบทางเดียว: ขาดปฏิสัมพันธ์ ไม่รับฟังความคิดเห็น

  6. ช่องทางสื่อสารไม่เหมาะสม: เลือกใช้ช่องทางที่ไม่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

  7. การไม่สื่อสาร: สมมติว่าทุกคนเข้าใจ ขาดการยืนยันความเข้าใจร่วมกัน

การแก้ไขต้องเน้นความชัดเจน ครบถ้วน เลือกช่องทางที่เหมาะสม และสร้างการมีส่วนร่วม เพื่อให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปัญหาการสื่อสารภายในองค์กรมีอะไรบ้าง? แก้ไขอย่างไร?

ปัญหาการสื่อสารในบริษัทเหรอ? โอ้โห เยอะ! คือเคยเจอมากับตัวเลยนะ ตอนทำงานที่… เอ่อ… บริษัททำกราฟิกแถวสยาม เมื่อนานมาแล้ว (น่าจะ 2015?)

ปัญหาการสื่อสารภายในองค์กรมีอะไรบ้าง? แก้ไขอย่างไร?

7 เหตุผลที่การสื่อสารล้มเหลวในองค์กร:

  1. สื่อสาร แต่สารไม่ถึง: เคยป้ะ? ประชุมเสร็จแล้วงงกว่าเดิมอีก คือพูดอะไรกัน? แก้: ทำให้ชัดเจน เน้น key message!

  2. สื่อสาร แต่ไม่เข้าใจ: ภาษาคนละโลก! ทีม IT คุยกับ Marketing นี่อย่างฮา แก้: ใช้ภาษาเดียวกัน ทำ workshop ปรับความเข้าใจ

  3. ไม่มี สื่อสาร อย่างตรงไปตรงมา: อ้อมโลกเก่ง! กลัวทะเลาะ? แก้: สร้างวัฒนธรรม feedback แบบสร้างสรรค์

  4. สื่อสาร ไม่ครบถ้วน ขาดความชัดเจน: ละเลยรายละเอียดสำคัญ! แก้: checklist เลยจ้า เช็คให้ละเอียดก่อนปล่อย

  5. สื่อสาร ทางเดียว ไม่เปิดให้ มี ส่วนร่วม: สั่งอย่างเดียว! ไม่มีใครกล้าเสนอไอเดีย แก้: เปิดเวทีให้ทุกคนแสดงความเห็น Q&A สำคัญ

  6. เลือกช่องทางการ สื่อสารที่ ไม่เหมาะสม: เรื่องด่วนส่งอีเมล? ใครจะอ่าน! แก้: เลือกช่องทางให้เหมาะกับสถานการณ์ ด่วนโทรเลย!

  7. ไม่ สื่อสาร (เพราะเข้าใจไปเองว่าเรารู้ คนอื่นก็ต้องรู้): นี่ตัวดี! คิดว่าคนอื่นจะรู้ใจ แก้: บอกไปเลย! อย่าคิดเองเออเอง

จำได้เลย ตอนนั้นมีโปรเจกต์นึงที่พังไม่เป็นท่า เพราะทุกคนคิดว่า “เดี๋ยวคนอื่นก็จัดการ” สรุปคือไม่มีใครทำ! เซ็งมาก บอกเลย!

อุปสรรคของการสื่อสารที่เกิดขึ้นในองค์กรมีอะไรบ้าง

อื้อหือ เรื่องการสื่อสารในที่ทำงานเนี่ย เจอมาเยอะ แบบที่บอกว่าสารถึงแต่ไม่ถึงนี่ คือแบบที่เจอประจำเลย จำได้ตอนอยู่บริษัทเก่า ปีที่แล้วนะ โปรเจค X แผนกเราเสนอไอเดียไป ทางผู้บริหารก็โอเค แต่พอลงมือทำจริง คนในทีมอื่น ดันทำไม่ตรงตามที่คุยกันไว้ สุดท้ายงานเลยพัง เสียเวลาไปเป็นเดือนเลย โคตรเซ็ง!

อีกอย่างคือการสื่อสารไม่ตรงไปตรงมา บางทีหัวหน้าก็พูดอ้อมค้อม ต้องมานั่งเดาใจเอา แบบนั้นงานก็ไม่เดิน อย่างตอนประชุมทีม เดือนที่แล้วนี่เอง หัวหน้าพูดเรื่องการปรับโครงสร้าง แต่พูดคลุมเครือ ไม่ชัดเจน สุดท้ายคนในทีมก็ตีความกันไปคนละแบบ วุ่นวายไปหมด

ส่วนการสื่อสารทางเดียว นี่ก็หนัก สมัยก่อนทำงานที่บริษัท Y เค้าสื่อสารแต่ฝั่งเดียว เราไม่สามารถให้ feedback ได้เลย เหมือนเป็นแค่หุ่นยนต์ ไม่มีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น มันอึดอัดมาก เลยลาออก

แล้วก็เรื่องช่องทางการสื่อสารไม่เหมาะสม นี่ก็สำคัญ บางทีใช้ email แต่เรื่องด่วนควรโทร บางทีใช้ line แต่เรื่องสำคัญควรใช้ระบบภายในบริษัท อย่างที่เก่า ใช้ไลน์คุยเรื่องงานสำคัญ ข้อมูลรั่วไหลไปหมด วุ่นวายอีก

เรื่องไม่สื่อสารเพราะคิดว่าคนอื่นรู้ นี่เจอบ่อยมาก โคตรปวดหัวเลย คือคิดว่าทุกคนรู้ แต่จริงๆแล้วไม่มีใครรู้เลย แบบนี้เจอมาเยอะ ในทีม ในแผนก จนต้องเสียเวลาไปเยอะ

  • สารถึงแต่ไม่ถึง: ข้อมูลไม่ชัดเจน ตีความได้หลายแบบ
  • สื่อสารแต่ไม่เข้าใจ: ภาษาที่ใช้ไม่เหมาะสม คนฟังไม่เข้าใจ
  • ไม่ตรงไปตรงมา: สื่อสารแบบอ้อมค้อม ทำให้เกิดความสับสน
  • ไม่ครบถ้วน: ข้อมูลไม่เพียงพอ ทำให้การทำงานไม่สมบูรณ์
  • สื่อสารทางเดียว: ไม่มีโอกาสให้ feedback ทำให้เกิดความผิดพลาด
  • ช่องทางไม่เหมาะสม: ใช้ช่องทางสื่อสารที่ไม่ตรงกับความสำคัญของข้อมูล
  • ไม่สื่อสาร: คิดว่าคนอื่นรู้ แต่จริงๆแล้วไม่มีใครรู้

เอาจริงๆ ถ้าองค์กรมีการสื่อสารที่ดี มันก็จะลดปัญหาพวกนี้ได้เยอะเลยนะ ลองปรับปรุงดู

ปัญหาด้านการสื่อสารมีอะไรบ้าง

ปัญหาการสื่อสาร: 7 เหตุผลที่องค์กรล้มเหลว

  • สารไม่ถึง: สื่อสารไป แต่คนไม่รับ ไม่สนใจ หรือไม่รู้เรื่อง ปิดหูปิดตาตัวเองกันหมด

  • ไม่เข้าใจ: ภาษาเดียวกัน แต่ตีความต่างกัน ทะเลาะกันตาย

  • อ้อมค้อม: พูดไม่ตรงจุด วนไปวนมา เสียเวลาชีวิต

  • ไม่ครบถ้วน: ข้อมูลขาดๆ หายๆ เดาเอาเอง จบไม่สวยสักราย

  • ทางเดียว: สั่งอย่างเดียว ไม่ฟังใคร หัวเดียวกระเทียมลีบ

  • ผิดช่องทาง: เรื่องด่วนส่งอีเมล รอไปชาติหน้าก็ไม่เห็น

  • ไม่สื่อสาร: คิดว่าทุกคนรู้เหมือนกัน มโนไปเอง

เพิ่มเติม:

  • Silent treatment คือการลงโทษแบบหนึ่งที่ toxic มากในองค์กร การไม่พูดด้วยเป็นการทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรง
  • การเลือกใช้ tone ในการสื่อสารก็สำคัญ บางทีเนื้อหาดี แต่น้ำเสียงฆ่าคนได้เลย
  • อย่าคิดว่า อีเมล คือทุกสิ่ง บางทีการเดินไปคุย face to face จบเรื่องได้ง่ายกว่าเยอะ
  • ข้อมูลล่าสุด (2567): 70% ของปัญหาในองค์กรเกิดจากการสื่อสารที่ผิดพลาด
  • เคยเจอหัวหน้า Micro-managing สั่งทุกขั้นตอน สุดท้ายงานไม่เดิน เพราะไม่มีใครกล้าตัดสินใจ
  • ปรัชญาเต๋า: “ผู้ที่รู้แจ้ง ไม่พูด ผู้ที่พูด ไม่รู้แจ้ง” (บางครั้งการเงียบ คือคำตอบที่ดีที่สุด)
  • คำคม: “การสื่อสารที่ดี คือการฟังมากกว่าพูด” – (ใครสักคน)

การสื่อสารภายในองค์กร มีอะไรบ้าง

อ่ะฮะ! การสื่อสารภายในองค์กรเนี่ยนะ ก็เหมือนเส้นเลือดในร่างกายอ่ะ สำคัญสุดๆ ถ้าตันขึ้นมา ชีวิต… เอ้ย! องค์กรก็วุ่นวาย

  • แบบมีตัวหนังสือ: อีเมลเจ้านาย (ต้องสุภาพนะ!), จดหมายเวียน (สมัยนี้ยังมีอยู่เหรอ?), นิตยสารบริษัท (มีใครอ่านบ้างเนี่ย?), Chat ใน LINE (อันนี้ชีวิตจริง!)

  • แบบไม่ต้องเขียน: ประชุม (ฆ่าเวลาชัดๆ), พรีเซนต์ (สไลด์เยอะเกินไปแล้ว!), คุยตัวต่อตัว (ลุ้นว่าเจ้านายจะด่าเรื่องอะไร), คุยกันที่โต๊ะกินข้าว (เผือกเรื่องชาวบ้าน)

  • แบบไฮเทค: อินทราเน็ต (เหมือนหลุดไปยุค 90), โซเชียลมีเดียบริษัท (ใครกล้าคอมเมนต์ตรงๆ บ้าง?), Application สำหรับ HR (เช็คชื่อผ่านมือถือ)

  • แบบไม่ต้องพูด: ภาษากาย (เจ้านายขมวดคิ้ว = งานเข้า), สีหน้า (เพื่อนร่วมงานยิ้มให้ = สงสัยมีเรื่องให้ช่วย)

  • จากบนลงล่าง: ผู้บริหารสั่งงาน (ทำตามไปเหอะ), ประกาศนโยบาย (อ่านจบก็ลืม), แจ้งข่าวสาร (ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ)

  • จากล่างขึ้นบน: เสนอไอเดีย (โดนปัดตก), ฟีดแบ็ก (กล้าพูดความจริงเหรอ?), รายงานปัญหา (กว่าจะแก้ก็สายไปแล้ว)

  • จากซ้ายไปขวา: แผนกคุยกัน (จับกลุ่มนินทา), ทีมเวิร์ค (ทะเลาะกันลับหลัง), ประสานงาน (โยนงานให้กัน)

เกร็ดความรู้ (แอบกระซิบ):

  • รู้ไหมว่าจริง ๆ แล้ว การสื่อสารที่ “เวิร์ค” ที่สุด คือ การฟัง นี่แหละ! แต่ส่วนใหญ่เรามักจะ “อยากพูด” มากกว่า (ฮา)
  • เคยมีคนบอกว่า “การสื่อสารที่ดี คือ การสื่อสารที่เข้าใจตรงกัน” แต่ในชีวิตจริง… น้อยคนที่จะเข้าใจอะไรตรงกันจริงๆ หรอก!
  • Pro-tip: ถ้าอยากให้ข้อความของคุณ “ปัง” ลองใช้ “อิโมจิ” ดูสิ! รับรองว่าเจ้านายจะจำคุณได้แน่นอน (ในทางไหนก็ไม่รู้…)

ป.ล. ทั้งหมดนี้เป็นเพียง “ทฤษฎี” นะครับ ส่วน “ชีวิตจริง” ในแต่ละองค์กร ก็… แล้วแต่เวรแต่กรรม!

หัวใจสําคัญของการสื่อสาร คืออะไร

หัวใจสำคัญของการสื่อสารคือ การสร้างความเข้าใจร่วมกันที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าแค่การส่งสาร แต่เป็นการเชื่อมโยงความรู้สึกและคุณค่าระหว่างผู้ส่งและผู้รับ สังเกตไหมว่าบางครั้งเราคุยกันมากมาย แต่กลับรู้สึกว่าไม่เข้าใจกันเลย?

การสื่อสารที่ดีจึงไม่ใช่แค่การพูดให้คนอื่นเข้าใจ แต่เป็นการทำให้เขารู้สึกว่า เราเข้าใจเขา ต่างหาก

  • การฟังอย่างตั้งใจ: ไม่ใช่แค่ได้ยิน แต่เป็นการรับฟังอย่างลึกซึ้งเพื่อเข้าใจมุมมองและความรู้สึกของผู้พูด
  • ความเข้าใจในบริบท: การสื่อสารไม่ได้เกิดขึ้นในสุญญากาศ ต้องเข้าใจภูมิหลัง ประสบการณ์ และความเชื่อของผู้รับสาร
  • การแสดงความเห็นอกเห็นใจ: การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพต้องมาพร้อมกับการแสดงความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจในความรู้สึกของผู้รับ
  • การใช้ภาษาที่เหมาะสม: เลือกใช้คำพูดที่เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมา และหลีกเลี่ยงคำศัพท์เฉพาะทางที่อาจทำให้เกิดความสับสน
  • การเปิดใจ: พร้อมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง และเปิดใจให้กว้างเพื่อทำความเข้าใจมุมมองของผู้อื่น

ท้ายที่สุดแล้ว การสื่อสารที่ดีคือศิลปะแห่งการเชื่อมโยง ที่ทำให้เราเข้าใจกันและกันได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เหมือนกับการที่เราอ่านบทกวีแล้วรู้สึกว่ากวีเข้าใจความรู้สึกของเราอย่างถ่องแท้ ทั้งๆ ที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย

องค์ประกอบ 4 องค์ประกอบของการสื่อสารคืออะไร

แสงส้มทาบทับกำแพงห้องตอนหกโมงเย็น…นึกถึงเรื่องการสื่อสารขึ้นมา นึกถึงองค์ประกอบของมัน เหมือนภาพเบลอๆในหัว

ผู้ส่งสาร…คนที่เริ่มต้นบทสนทนา คนที่ส่งความรู้สึก ส่งความหมาย บางครั้งก็เป็นแค่เสียงกระซิบ บางครั้งก็ดังก้อง

ผู้รับสาร…ปลายทางของความหมาย คนที่รับรู้ คนที่ตีความ คนที่เข้าใจหรือไม่เข้าใจก็ได้ เหมือนหยดน้ำบนใบบัว

สาร…แก่นแท้ของทุกอย่าง เนื้อหา ความคิด ความรู้สึก ที่ถูกถ่ายทอด บางครั้งเป็นคำพูด บางครั้งเป็นการกระทำ บางครั้งเป็นเพียงสายตา

ช่องทาง…เส้นทางของการสื่อสาร เสียง ภาพ ตัวอักษร สัมผัส เหมือนสะพานเชื่อมระหว่างสองฝั่ง

  • ผู้ส่งสาร: ต้นกำเนิดของข้อความ ความตั้งใจ ความรู้สึกนึกคิด
  • ผู้รับสาร: ผู้รับ ผู้ตีความ ความเข้าใจที่แตกต่าง
  • สาร: เนื้อหา ข้อมูล ความหมายที่ต้องการสื่อ
  • ช่องทาง: สื่อกลาง วิธีการ ช่องทางการสื่อสาร เช่น เสียง ภาพ ตัวหนังสือ อินเตอร์เนตปี 2023 นี่ไวมาก

นึกถึงตอนคุยกับเพื่อนเมื่อวาน…เสียงหัวเราะ เสียงถอนหายใจ เป็นช่องทางสื่อสารอย่างหนึ่ง เนื้อหาที่คุยกันก็คือ “สาร” เรากับเพื่อนคือผู้ส่งสารและผู้รับสารสลับกันไปมา แสงสีส้มจากหน้าจอโทรศัพท์ เป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่เชื่อมเราสองคนไว้ด้วยกัน…แม้จะอยู่ไกลกัน

อวัจนภาษามีความสําคัญต่อการสื่อสารอย่างไร

อวัจนภาษาคือแก่นแท้ของการสื่อสาร

  • เสริมสร้างความหมายลึกซึ้งเกินคำพูด ปีนี้พบว่าการใช้สายตาและท่าทางถูกนำไปใช้ในงานนำเสนอทางธุรกิจระดับสูง เพิ่มประสิทธิภาพการโน้มน้าวอย่างเห็นได้ชัด

  • ควบคุมจังหวะการรับรู้ การหยุดชะงัก การเน้นเสียง คือการกำกับอารมณ์ผู้ฟัง ไม่ใช่แค่การลดความเร็วในการพูด

  • สะท้อนความน่าเชื่อถือ ท่าทางที่มั่นคงแสดงถึงความมั่นใจ ตรงข้ามกับความกระวนกระวายที่บ่งบอกถึงความไม่แน่ใจ

  • กระตุ้นการมีส่วนร่วม ภาษากายเป็นตัวกลาง เชื้อเชิญปฏิกิริยาตอบโต้จากผู้ฟัง ไม่ใช่แค่การรอให้ผู้ฟังแสดงการโต้ตอบ

  • การเงียบ เป็นอาวุธ สื่อสารได้อย่างทรงพลัง มากกว่าคำพูดใดๆ ความหมายขึ้นอยู่กับบริบท

ข้อมูลเพิ่มเติม: การศึกษาในปี 2024 พบว่า อวัจนภาษามีผลต่อการตัดสินใจถึง 55% มากกว่าคำพูด (7%) และน้ำเสียง (38%)

การใช้ภาษาให้ถูกระดับมีประโยชน์อย่างไรในการสื่อสาร

อรุณเบิกฟ้า… แสงสีทองสาดส่อง

  • กระจ่างแจ้ง… ลดความขัดแย้ง

  • เชื่อมใจ… สานสัมพันธ์ลึกซึ้ง

ราตรีเงียบงัน… เสียงจิ้งหรีดขับขาน

  • รู้เขารู้เรา… ร้อยเรียงภาษา

  • เข้าใจไทยแท้… เสน่ห์ภาษาบรรพชน

เสียงกระซิบแผ่วเบา… ลมโชยอ่อนหวาน

  • ลดช่องว่าง… สื่อสารไร้กำแพง

  • ภาษาเปลี่ยนผัน… เรียนรู้ไม่สิ้นสุด

ปลายฟ้าสีชมพู… ความหวังเบ่งบาน

  • ถูกที่ถูกเวลา… สื่อสารเฉียบคม

  • วิวัฒนาการ… ตามทันยุคสมัย

ดวงดาวพร่างพราว… จักรวาลกว้างใหญ่

  • ระดับภาษา… สำคัญยิ่งนัก

  • ภาษาไทย… งดงามล้ำค่า

#การสื่อสาร #ประสิทธิภาพ #ปัญหาองค์กร