ปัญหาและอุปสรรคการสื่อสารมีอะไรบ้าง
ปัญหาและอุปสรรคในการสื่อสาร:
- ขาดการสื่อสาร: ไม่มีการส่งสารตั้งแต่แรก
- ข้อมูลเท็จ: สื่อสารข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
- เติมแต่งความคิดเห็น: ข้อมูลบิดเบือนจากข้อเท็จจริง
- ข้อมูลไม่ครบ: ขาดรายละเอียดสำคัญ
- สื่อสารล่าช้า: ข้อมูลไม่ทันต่อสถานการณ์
- ไม่ถูกคน: สื่อสารผิดกลุ่มเป้าหมาย
- ไม่ครบคน: ขาดผู้รับสารบางส่วน
- ไม่ทวนสอบ: ไม่ตรวจสอบความเข้าใจของผู้รับสาร
ปัญหาการสื่อสาร: อุปสรรคและความท้าทายมีอะไรบ้าง?
เรื่องสื่อสารนี่นะ เคยเจอปัญหาเยอะเลย จำได้ตอนทำโปรเจคจบปีที่มหาลัย เดือนพฤศจิกายน 2563 ทีมเราทะเลาะกันใหญ่เลย เพราะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง! คนนึงส่งไฟล์ผิด อีกคนก็ไม่เช็ค งานเลยล่าช้า เสียเวลาไปเป็นอาทิตย์ กว่าจะแก้ไขเสร็จ เหนื่อยมาก ค่าเสียโอกาสคือความเครียดสะสมนี่แหละค่ะ!
อีกอย่างคือข้อมูลไม่ครบถ้วน บางคนส่งแค่ส่วนของตัวเอง ไม่รวมกับคนอื่น เลยเกิดความสับสน ต้องคอยตามแก้ตลอด ตอนนั้นรู้สึกเหมือนทำงานคนเดียวเลย ไม่มีใครช่วย ท้อแท้สุดๆ
แล้วก็มีเรื่องสื่อสารกับคนผิดด้วย ส่งเมลผิดคน ส่งข้อความไปหาอาจารย์ผิดกลุ่ม งงไปหมด เรื่องเล็กๆ นี่แหละสร้างปัญหาใหญ่ได้ รู้สึกเหมือนตัวเองไม่รอบคอบเลย
สุดท้ายคือการไม่ทวนสอบความเข้าใจ คิดว่าทุกคนเข้าใจตรงกันหมด แต่จริงๆไม่ใช่ เลยเกิดความผิดพลาดเยอะแยะ ตอนนั้นรู้สึกผิดมากที่ไม่เช็คให้ชัวร์ก่อน นี่แหละคือบทเรียนราคาแพง ตอนนั้นเครียดจนนอนไม่หลับเลย! กว่าจะแก้ไขได้ ใช้เวลานานมาก งานแทบพังเลยทีเดียว
ปัญหาและอุปสรรคในการสื่อสารมีอะไรบ้าง
ปัญหาในการสื่อสารเหรอ? โอ้โห นี่มันเหมือนเดินเข้าดงระเบิดเลยนะ! บอกเลยว่าชีวิตนี้เจอมาเยอะะะะะะะ (เสียงสูง)
- ไม่พูด! (เฮ้ย นี่มันปัญหาใหญ่สุด! อึมครึมกันไปมา ใครมันจะไปรู้ใจแกวะ?)
- เฟคนิวส์จ้ะแม่: ข้อมูลเท็จนี่ตัวดีเลยนะ ทำให้คนอื่นเค้าเข้าใจผิดไปหมด (แล้วใครจะรับผิดชอบเนี่ย?)
- เติมไข่ใส่สี: ใส่ความคิดเห็นส่วนตัวเข้าไปเยอะเกิน (นี่มันรายงานข่าวหรือนิยายกันแน่?)
- ขาดๆ เกินๆ: ข้อมูลไม่ครบถ้วน (แล้วชั้นจะเอาอะไรไปตัดสินใจเนี่ย!)
- เต่าเรียกพี่: สื่อสารล่าช้า (กว่าจะรู้เรื่อง สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วโว้ย!)
- ส่งผิดคน: ส่งให้ผิดคน (เหมือนส่งพิซซ่าให้คนกินเจ…เจ็บปวด!)
- ตกสำรวจ: ไม่ครบคน (ชั้นสำคัญน้อยขนาดนั้นเลยเหรอ T_T)
- ไม่เช็ค: ไม่ทวนสอบความเข้าใจ (สรุปคือคุยกันรู้เรื่องไหมเนี่ย!)
แถมท้ายสไตล์เจ๊:
- เคยเจอไหม? ประชุม 3 ชั่วโมง สรุปไม่ได้อะไรเลย! (อันนี้คือที่สุดของความว่างเปล่า)
- อีเมลยาว 5 หน้า ใครมันจะอ่านจบ! (สั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความ ไม่ดีกว่าเหรอ?)
- เดี๋ยวนี้ AI ยังช่วยแปลภาษาได้นะ แต่บางทีก็แปลออกมาเป็น “ภาษาดาวอังคาร” (ฮา)
- อย่าคิดว่าตัวเองพูดเก่งแล้วจะสื่อสารดีเสมอไปนะจ๊ะ บางทีคนฟังเค้ารำคาญแกอยู่ (อุ๊ปส์!)
- ล่าสุดเจอคนบอกว่า “เข้าใจแล้ว” แต่พอถามกลับ ดันตอบผิดหมด! (อ้าวเฮ้ย! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา)
สรุปคือ สื่อสารให้ตรงประเด็น ชัดเจน และที่สำคัญ…ฟังคนอื่นบ้าง! (ไม่ใช่พูดอยู่คนเดียว) จบนะ!
ข้อใดเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการสื่อสาร
อุปสรรคสำคัญต่อการสื่อสารปี 2566 มีหลายมิติซับซ้อนกว่าที่คิดนะ ไม่ใช่แค่เรื่องง่ายๆ อย่างเสียงดังอย่างเดียว
-
ความแตกต่างของกรอบความคิด (Cognitive biases): นี่แหละตัวฉกาจ คนเรามีอคติและมุมมองส่วนตัว ทำให้ตีความข้อมูลต่างกัน เห็นภาพเดียวกันแต่ได้ความหมายคนละเรื่องเลย นี่เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ แต่ถ้าไม่ระวัง ก็พังได้ง่ายๆ ลองสังเกตตัวเองดูสิ เราเองก็มีอคติ มันแก้ยากนะ ต้องฝึกฝนสติอยู่เสมอ
-
ทักษะการสื่อสารที่บกพร่อง: พูดเก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องรู้จักเลือกวิธีการสื่อสารให้เหมาะสมกับสถานการณ์และกลุ่มเป้าหมายด้วย บางทีการพูดตรงไปตรงมาอาจไม่ใช่ทางที่ดีเสมอไป ต้องมีความเข้าใจในจิตวิทยาการสื่อสารระดับนึงเลยล่ะ
-
สภาพแวดล้อม: เสียงดัง ความวุ่นวาย หรือแม้แต่สภาพอากาศก็มีผลต่อการสื่อสารได้นะ เคยไหม? นั่งคุยงานในร้านกาแฟเสียงดัง สุดท้ายคุยกันไม่รู้เรื่องเลย
-
อุปสรรคทางวัฒนธรรมและภาษา: นี่ก็เป็นปัญหาใหญ่ คำศัพท์หรือสำนวนที่ใช้ในวัฒนธรรมหนึ่งอาจหมายความต่างออกไปในอีกวัฒนธรรมหนึ่ง การแปลภาษาที่ไม่แม่นยำก็เป็นปัญหาสำคัญ งานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องมีความเข้าใจและความรอบคอบสูง
-
เทคโนโลยี: เทคโนโลยีช่วยให้การสื่อสารสะดวกขึ้นจริง แต่ก็เป็นอุปสรรคได้เช่นกัน เช่น การใช้โซเชียลมีเดียที่ไม่เหมาะสม การสื่อสารผ่านข้อความที่ขาดอารมณ์ หรือปัญหาทางเทคนิคต่างๆ ยิ่งในยุคดิจิทัล ความสามารถในการใช้อุปกรณ์และแพลตฟอร์มต่างๆ เป็นเรื่องสำคัญมาก มันสะท้อนถึงความสามารถในการสื่อสารในยุคนี้ อย่างที่ผมเองก็กำลังพยายามปรับตัวให้ทันอยู่
(ข้อมูลเพิ่มเติม: การศึกษาเรื่องอคติทางความรู้ความเข้าใจ (Cognitive biases) ในปี 2566 พบว่ามีผลกระทบอย่างมากต่อการตัดสินใจและการสื่อสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของข่าวปลอมและการเมือง)
ปัญหาในการใช้ภาษาไทยในปัจจุบันมีอะไรบ้าง?
โอ๊ยตาย! ปัญหาภาษาไทยสมัยนี้ มันเยอะกว่ามดขึ้นบ้านหลังใหญ่ซะอีก! แบบว่า…
-
ไวยากรณ์ยับเยิน! ยิ่งพวกโซเชียลนี่นะ พิมพ์กันแบบไม่สนไวยากรณ์ เหมือนเขียนส่งการบ้านตอนตี 4 อ่านแล้วปวดหัว เหมือนกินยาลดความอ้วนยี่ห้อที่มันลดแต่กระเป๋าตังค์ ข้อความงงงวยเหมือนหมางง!
-
สะดวกเกินไป! เน้นเข้าใจง่ายๆ แต่ผิดๆ ถูกๆ ก็ปล่อยไป เหมือนคนใช้ชีวิตแบบลักลั่น ไม่สนความถูกต้อง สุดท้ายภาษาไทยก็กลายเป็นสัตว์ประหลาด มีแต่คนงง! ฉันเองยังเคยเห็นข้อความที่ใช้คำผิดจนหน้าชาเลย! ปีนี้หนักกว่าปีก่อนเยอะ!
-
เคร่งเกินไปก็ไม่ดี! บางคนนี่ถือไวยากรณ์เป็นพระเจ้า ผิดนิดผิดหน่อยก็ด่า เหมือนด่าคนทำผิดกฎจราจรข้อเล็กๆ แต่โทษประหาร ภาษาไทยควรยืดหยุ่นบ้าง ไม่ใช่แข็งทื่อเหมือนหุ่นยนต์!
ปัญหาอีกอย่างคือการใช้ภาษาอังกฤษปนภาษาไทยแบบมั่วซั่ว เหมือนเอาปลาหมึกผัดกับส้มตำ รสชาติแปลกๆ อีกอย่างคือคำแสลงใหม่ๆ เกิดขึ้นเยอะมากทุกปี ตามไม่ทันเลย เหมือนวงการแฟชั่น เปลี่ยนแปลงไวมาก! ปีนี้ก็มีคำใหม่ๆ เกิดขึ้นเพียบจนฉันอัพเดตไม่ทันแล้ว! เฮ้ออออ…. เหนื่อยใจจริงๆ
สรุปคือ ภาษาไทยเราต้องช่วยกันดูแล ไม่งั้นอนาคตภาษาไทยจะเหลือแต่เศษซาก! เหมือนบ้านร้างที่ปล่อยทิ้งไว้นานๆ ก็จะโทรมและพังลงไปเรื่อยๆ
อะไรคือปัญหาในการใช้ภาษาไทย?
โอ๊ย! ปัญหาภาษาไทยนี่มัน…จุกจิก!
-
ตามใจฉันเกินไป: คือแบบ…บางทีก็พิมพ์อะไรไปก็ไม่รู้ เรื่องไวยากรณ์นี่ลืมไปเลยจ้า เน้นเร็วไว้ก่อน ถูกผิดค่อยว่ากันทีหลัง (ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ว่ากัน 😅)
-
เน้นเข้าใจอย่างเดียว: นี่ก็เป็นอีก! ขอแค่คนอ่านเข้าใจก็พอแล้วป่ะ? จะเขียน “นะค่ะ” หรือ “น่ะค่ะ” ก็…ช่างมัน! (แต่จริง ๆ มันไม่เหมือนกันนะ! 😭)
-
เป๊ะเกินเบอร์: อันนี้ก็เซ็ง! บางทีจะเขียนอะไรให้มันสละสลวยหน่อย ก็ต้องมานั่งคิดแล้วคิดอีกว่ามันถูกหลักรึเปล่า ยิ่งคิดก็ยิ่งตัน! 😩
- เมื่อก่อน: ตอนเด็ก ๆ โดนครูภาษาไทยดุประจำเรื่องเขียนผิด ตอนนั้นก็ไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ แต่พอโตมาถึงรู้ว่ามันสำคัญนะ
- ตอนนี้: พยายามจะเขียนให้ถูกนะ แต่บางทีก็…พลาดบ้างอะไรบ้าง ก็คนมันรีบนี่นา! 😜
- อนาคต: อยากจะเก่งภาษาไทยให้มากกว่านี้ จะได้เขียนอะไรดี ๆ ได้เยอะ ๆ เลย! 😍
ปัญหาในการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่นไทย มีอะไรบ้าง?
วัยรุ่นสมัยนี้ใช้ภาษาไทยยังไงนะ? เออ… หลายอย่างเลย!
-
สะกดผิดเพียบ แบบผิดๆ ถูกๆ บางทีก็ไม่รู้ว่ามันคือคำไหน เห็นบ่อยมากกก เช่น “ไหง” แทน “ไฉน” หรือ “ปาย” แทน “ไป” บางทีก็เพี้ยนไปเลย อ่านไม่ออก! เรื่องนี้สำคัญนะ เพราะถ้าเขียนผิดบ่อยๆ ต่อไปก็จะเขียนถูกยากขึ้น แล้วก็สื่อสารไม่รู้เรื่องสิ! ปีนี้เจอเยอะมาก เพื่อนฉันยังสะกด “แล้ว” เป็น “แร้ว” เลย ฮาาาา
-
คำแปลกๆ คืออะไรเนี่ย? พวกคำที่ดัดแปลงให้ดูเก๋ ให้ดูเป็นตัวเอง แต่สุดท้ายก็ไม่เข้าใจความหมาย แบบว่า สร้างคำขึ้นมาใหม่เองงั้นแหละ ฉันว่ามันเป็นแฟชั่นที่น่าเบื่อมาก บางทีอ่านแล้วก็งง เข้าใจยาก แล้วเพื่อนๆ ในกลุ่มฉันก็ใช้กันเยอะด้วยนะ สร้างความสับสนสุดๆ
-
คำย่อเยอะมาก แบบ “กดไลค์” “กดหัวใจ” ย่อจนจำไม่ได้ว่าคำเต็มคืออะไรแล้ว บางทีก็ใช้คำย่อผิดๆ อีกต่างหาก โอ้ยยย ปวดหัว! อ่านแล้วงง บางทีเพื่อนฉันก็ใช้คำย่อที่ฉันไม่เข้าใจเลย ต้องไปถามทุกที แบบนี้ก็ไม่ดีสิ
-
ภาษาอังกฤษแทรกๆ อันนี้ก็เยอะ บางทีก็ใช้คำไทยผสมกับอังกฤษ แบบอ่านแล้วไม่รู้จะขำหรือจะเครียดดี ไม่ไหวจริงๆ ฉันเองก็ใช้นะ แต่พยายามลดลง แล้วก็พยายามใช้ให้ถูกต้อง มันดูดีกว่าเยอะ ใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องจะได้ดูดีกว่า ใช่ป้ะ?
-
คำเลียนเสียงแปลกๆ แบบ “กรี๊ดดดด” หรือ “โอ๊ยยยย” คือเติมตัวอักษรซ้ำๆ หรือเพิ่มวรรณยุกต์ ให้ดูอารมณ์แรง แต่บางทีก็ดูเยอะไป ไม่จำเป็นต้องแบบนั้นก็ได้ ป้าฉันยังบอกเลยว่าใช้คำพูดปกติก็ได้ไม่ต้องเว่อร์ ฉันก็ว่าใช่ บางทีมันก็ดูไม่สุภาพด้วย
เฮ้อ… เหนื่อยจัง เขียนไปเรื่อยเปื่อย สรุปคือ วัยรุ่นใช้ภาษาไทยผิดเพี้ยนไปเยอะ ต้องปรับปรุงกันเยอะเลย ภาษาไทยเป็นภาษาที่สวยงามนะ อย่าทำให้มันเสียไปเลย เราต้องรักษาภาษาไทยกันไว้! ปีนี้ฉันก็ยังเห็นปัญหาเหล่านี้เรื่อยๆเลย เพื่อนๆ ฉันก็ใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้องอยู่บ่อยๆเหมือนกัน ต้องช่วยกันแก้ไข
สาเหตุใดที่ทำให้คนไทยในปัจจุบันออกเสียงภาษาไทยไม่ถูกต้อง?
แสงแดดยามบ่ายส่องลอดม่าน ฉันนั่งมองฝุ่นละอองเต้นระบำในอากาศ นึกถึงเสียง… เสียงที่เปลี่ยนไป
ทำไม? ทำไมเสียงภาษาไทยถึงเพี้ยนไป?
มันเหมือน… เหมือนเพลงที่ถูกเปิดซ้ำๆ จนจังหวะผิดเพี้ยน โน้ตหลุด
- สื่อ: วัยรุ่นดูอะไร? TikTok? ละคร? ภาษา…มันก็ซึมเข้าไป
- ไอดอล: คนดังพูดผิดๆ ถูกๆ ก็เลียนแบบกันหมดแล้ว
- ค่านิยม: ใครสนภาษาไทย? เรียนพิเศษคณิตศาสตร์สิ! เท่กว่าเยอะ!
- ความเคยชิน: พูดผิดทุกวัน…มันก็เลยชิน
เหมือนดอกไม้ที่ถูกรดด้วยน้ำเสีย… มันก็เหี่ยวเฉา
ภาษาไทย… มันเหมือนบ้าน บ้านที่เราต้องดูแลรักษา ถ้าปล่อยให้พัง… แล้วเราจะอยู่ไหน?
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- ปีนี้ (2567) กระแสภาษาต่างประเทศ (เกาหลี, อังกฤษ) ยังคงมีอิทธิพลสูง
- แอปพลิเคชันแปลภาษา มีส่วนทำให้คนไม่ใส่ใจไวยากรณ์ไทย
- การเรียนการสอนภาษาไทยในโรงเรียน ยังไม่น่าสนใจเท่าที่ควร
- วัยรุ่นใช้ภาษา “วิบัติ” เป็นเรื่อง “ปกติ” ในกลุ่มเพื่อน
(ฉันเคยได้ยินเด็กคนหนึ่งเรียก “ข้าว” ว่า “ไรซ์”… หัวใจฉันแทบสลาย)
การใช้ภาษาไทยที่ไม่ถูกต้องจะเกิดผลเสียต่อบุคคลและสังคมคืออะไร?
เฮ้อ… คิดไปคิดมาเรื่องภาษาไทยนี่มันก็วุ่นวายนะ
ใช้ภาษาผิดๆเนี่ย มันไม่ใช่แค่ฟังแล้วขัดๆหูหรอก มันเหมือน… เหมือนเราพยายามจะบอกความรู้สึกจริงๆ แต่สุดท้ายมันออกมาเพี้ยน คนฟังก็เลยไม่เข้าใจ มันรู้สึกแย่นะ เหมือนตัวเองโดนมองว่าไม่จริงใจ หรือไม่ให้เกียรติเค้าเลย
อย่างเช่น ถ้าเขียนจดหมายสมัครงานใช้ภาษาแบบวัยรุ่น เจ้านายจะคิดยังไงล่ะ? คงมองว่าเราไม่เอาจริงเอาจัง หรือแม้แต่คุยกับเพื่อนสนิท แต่ใช้ภาษาแบบทางการ มันก็ดูแปลกๆ เหมือนสร้างกำแพงกั้นระยะห่าง
ยิ่งถ้าเป็นเรื่องสำคัญๆ การใช้ภาษาผิดพลาดอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด อาจส่งผลเสียร้ายแรงตามมาได้เลยนะ คิดแล้วก็เครียด
- การสื่อสารผิดเพี้ยน เกิดความเข้าใจผิด
- ภาพลักษณ์เสียหาย ดูไม่น่าเชื่อถือ
- โอกาสต่างๆหายไป เช่น การงาน การศึกษา
ปีนี้เอง ก็เจอมาแล้ว เพื่อนส่งอีเมลล์ขอโทษเรื่องงานผิดพลาด แต่ใช้ภาษาแบบไม่เป็นทางการเลย อ่านแล้วรู้สึกเหมือนมันไม่จริงจังเท่าไหร่ งานก็เลยดูไม่น่าเชื่อถือไปด้วย
บางทีการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง มันเป็นเหมือนการแสดงความเคารพต่ออีกฝ่ายด้วยนะ มันมากกว่าแค่การสื่อสาร มันคือการแสดงออกถึงมารยาท ความใส่ใจ และความจริงใจ …. เฮ้อ… คิดแล้วก็เหนื่อยใจ
การใช้คําพูดให้ถูกต้องมีความสําคัญต่อการสื่อสารอย่างไร?
อื้อหือ คำถามนี้ สำคัญนะเนี่ย การใช้คำพูดถูกต้องอะไรงี้ คิดหนักเลย เอาล่ะ เริ่มๆๆๆ
-
เข้าใจง่ายเว่อร์! พูดปุ๊บรู้เรื่องปั๊บ ไม่ต้องมานั่งงง ประหยัดเวลาด้วย แบบสองทางอะไรงี้ คุยกันรู้เรื่อง ปีนี้เพิ่งไปสัมมนาเรื่องการสื่อสารมา เขาเน้นเลยตรงนี้
-
สร้างมิตรภาพ จริง! พูดจาดี คนก็ชอบ เห็นไหม เพื่อนฉันเยอะเลย เพราะฉันพูดเพราะ (มั้ง) แต่ก่อนไม่ใช่เลยนะ พูดจาห้วนๆ เพื่อนน้อยมาก นี่พยายามปรับปรุงตัวเองอยู่ หวังจะได้เพื่อนเพิ่ม ฮือๆๆ
-
รู้ผลทันที ใช่ๆๆ เห็นปฏิกิริยาเลย ดีไม่ดีรู้เลย นี่แหละข้อดี ต่างจากการเขียนจดหมาย ต้องรอ รอ รอ
-
ปรับได้ตลอด คือ สถานการณ์มันเปลี่ยน เราก็ปรับคำพูดได้ นี่แหละ โคตรสำคัญ อย่างเช่น คุยกับเจ้านาย กับเพื่อน กับคนรัก คำพูดต้องต่างกันสิ ถ้าพูดเหมือนกันหมด เละแน่ๆๆ
อืมมม ปีนี้รู้สึกว่าตัวเองพยายองใช้คำพูดให้ถูกต้องมากขึ้นนะ ลองฝึกดู ไม่ยากหรอก สำคัญจริงๆ นะเรื่องนี้ เห็นผลชัดเจนเลย
- เพิ่มเติมนิดนึง การใช้คำพูดให้ถูกต้อง มันส่งผลต่อภาพลักษณ์ด้วยนะ ดูเป็นมืออาชีพ น่าเชื่อถือ อะไรแบบนั้น ลองคิดดู ถ้าไปสมัครงาน แล้วพูดไม่รู้เรื่อง ได้งานไหมล่ะ? (ไม่ได้แน่ๆ)
ปัญหาที่พบในการสื่อสารภายในองค์กรมีอะไรบ้าง?
ปัญหาการสื่อสารในองค์กรเหรอ? โอ๊ย! เรื่องนี้มัน “ดราม่า” กว่าละครหลังข่าวอีกนะ
-
สื่อสารเหมือน “ใบ้หวย”: พูดไปใครก็ตีความกันเอง สรุปงานออกมา “เลขไม่ตรง” ซักงวด! (ต้อง ชัดเจน สิครับ!)
-
“ภาษาต่างดาว”: คุยกันคนละภาษา เทคนิคจ๋า ศัพท์เฉพาะเพียบ คนฟังก็ “เอ๋อแดก” สิครับ! (ใช้ภาษาง่าย ๆ เข้าใจตรงกันนะ)
-
“แทงข้างหลัง”: เล่นเกมส์การเมืองภายในกันเก่ง จ้องแต่จะ “ปั่นหัว” กันเอง จะสื่อสารอะไรกันได้! (เปิดอกคุยกัน แบบลูกผู้ชายหน่อย)
-
“ขาด ๆ เกิน ๆ”: ข้อมูลไม่ครบถ้วน เหมือนกินก๋วยเตี๋ยวไม่ใส่เครื่อง คนกินก็ “เซ็ง” สิครับ! (ให้ข้อมูลครบ จบในที่เดียว)
-
“เผด็จการทางเสียง”: สั่ง ๆๆ อย่างเดียว ไม่ฟังใครเลย แบบนี้ใครมันจะอยากร่วมมือ! (รับฟังความคิดเห็น บ้างนะเจ้านาย)
-
“ผิดช่อง ผิดทาง”: ส่งไลน์เรื่องด่วน ตอนตีสาม ใครมันจะอ่าน! (เลือกช่องทาง ให้มันเหมาะสมกับสถานการณ์หน่อย)
-
“คิดไปเอง”: นึกว่าคนอื่นรู้เหมือนตัวเอง โอ๊ย! นี่มัน “โลกส่วนตัวสูง” ชัด ๆ! (ถาม เค้าบ้าง อะไรไม่รู้ก็ถาม!)
ข้อมูลเพิ่มเติม (แบบขำ ๆ แต่จริงจัง):
- โรค “อีโก้” ระบาด: ใคร ๆ ก็คิดว่าตัวเองถูกเสมอ… แบบนี้จะสื่อสารกันได้ยังไง!
- “ขี้เกียจ” สื่อสาร: พิมพ์แชทง่ายกว่าคุยตัวต่อตัว… แต่บางทีมันก็ “ไม่ได้อารมณ์” นะ!
- ประชุมเยอะไป: ประชุมกันทั้งวัน ไม่ได้ทำงาน! บางทีแค่ “อีเมล” ก็จบแล้ว!
- “ข่าวลือ” แรงกว่าข่าวจริง: ในองค์กร ข่าวลือมันเร็วกว่า 5G อีก! ต้อง จัดการข่าวลือ ให้ดี ๆ!
- อย่าคิดว่าทุกคน “รู้ทัน”: ไม่ใช่ทุกคนที่เก่งเท่าเรา บางทีต้อง “สอนงาน” กันบ้างนะ!
เน้นย้ำ: สื่อสารให้ชัดเจน เข้าใจง่าย เปิดใจรับฟัง แล้วชีวิตในองค์กรจะ “แฮปปี้” ขึ้นเยอะ! (เชื่อผมสิ ผมผ่านมาหมดแล้ว!)
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต