แอพบัญชีมีอะไรบ้าง

ทำบัญชี แอพไหนดี

เฮ้อ… กลางคืนแบบนี้ คิดอะไรเรื่อยเปื่อย เรื่องแอปฯ บัญชีนี่ก็ใช่ ปีนี้ใช้ไปหลายตัวแล้วนะ

• Money Lover ใช้มาตั้งแต่ต้นปี ก็โอเค ใช้งานง่ายดี แต่บางทีรู้สึกมันเยอะไป ฟีเจอร์เยอะเกินจนงง

• Metang อันนี้ใช้ไม่นาน รู้สึกมันไม่ค่อยตรงกับความต้องการเท่าไหร่ เลยเลิกใช้ไป

• SET Happy Money อันนี้ดีนะ เข้าใจง่าย สำหรับคนเริ่มต้น แต่ผมต้องการอะไรที่ละเอียดกว่านี้หน่อย

• Money Manager Expense & Budget เคยลอง แต่ไม่ค่อยชอบหน้าตาแอปฯ มันดูไม่สวย ใช้แล้วอารมณ์ไม่ดี

• Household อันนี้ก็ใช้ได้ แต่รู้สึกว่ามันไม่ค่อยลื่นไหลเท่าไหร่ บางทีก็ค้าง

• Piggipo ลองแค่แป๊บเดียว ไม่ถูกใจเลย ไม่รู้ทำไม รู้สึกไม่ใช่

• Oh My Cost ตัวนี้ใช้ได้นานพอสมควร ดีนะ แต่ก็ยังไม่ใช่ที่สุดสำหรับผม

• แอปฯ อีกตัวที่ผมใช้ตอนนี้คือ เป๋าตัง (ไม่ได้อยู่ในรายชื่อ 8 แอปฯ ที่ถามมา) เอาไว้จดรายรับรายจ่ายเกี่ยวกับภาษี มันสะดวกดีนะ ใช้เชื่อมกับบัญชีธนาคารได้ด้วย

ตอนนี้ก็ยังวนเวียนหาแอปฯ ที่ถูกใจอยู่ ไม่รู้จะเจอเมื่อไหร่เนอะ… เหนื่อยจัง

โปรแกรมบัญชี มีอะไรบ้าง

โปรแกรมบัญชี? เยอะแยะไปหมด ขึ้นอยู่กับงบและขนาดธุรกิจ

• SME? พวกโปรแกรมสำเร็จรูปก็พอ ใช้งานง่าย ไม่ต้องปวดหัว
• องค์กรใหญ่? ERP จัดเต็ม แต่ค่าใช้จ่ายก็สูงตาม
• ฟีเจอร์หลัก? GL, AP, AR, สินค้าคงคลัง รายงานการเงิน พื้นฐานทั้งนั้นแหละ

เลือกให้ดี อย่าเสียเงินฟรี ปีนี้ (2566) โปรแกรมพวกนี้ มีให้เลือกเพียบ แต่ต้องศึกษาดีๆ ไม่งั้นเจ๊ง ผมใช้ของ [ชื่อโปรแกรมที่ใช้จริง แต่ไม่เปิดเผยบริษัท] โอเคอยู่ แต่ก็แล้วแต่งาน

แอพ Wallet Story ดีไหม

Wallet Story เหมาะกับคนอยากเห็นภาพรวมเงินตัวเองง่ายๆ จบ!

• ใช้ง่าย: เหมาะกับมือใหม่หัดทำบัญชี
• สรุปภาพรวม: เห็นรายรับ-รายจ่ายเป็นกราฟเข้าใจง่าย
• ข้อจำกัด: ถ้าต้องการมากกว่าแค่บันทึก (เช่น ลงทุน) อาจต้องหาแอปอื่น

แต่ถ้าเน้นแบบ “Quick & Dirty” อยากรู้ว่าเดือนนี้ใช้เงินไปกับอะไรเยอะสุด Wallet Story ก็ตอบโจทย์นะ (แต่ส่วนตัวชอบใช้ Excel มากกว่า…มันคุมได้ทุกอย่างจริงๆ)

คิดเล่นๆ: การทำบัญชีเหมือนการสำรวจตัวเองนะ เราจะได้รู้ว่าจริงๆ แล้วเรา “ให้คุณค่า” กับอะไรมากที่สุดในชีวิต

ทำบัญชี แอพไหนดี

ทำบัญชี? โอ๊ย เรื่องปวดหัว… แต่ยุคนี้มันต้องแอป! นี่เลย 8 ตัวช่วย (ที่อาจจะช่วย หรืออาจจะทำให้งงกว่าเดิม):

1. Money Lover: ชื่อโรแมนติก แต่จะพาเราไปรักเงินจริง ๆ หรือเปล่า? ต้องลอง!

2. Metang: ฟังดูเหมือนชื่อหุ่นยนต์แปลงร่าง… แต่จริง ๆ แล้วเป็นแอปทำบัญชีที่น่าจะเข้าใจง่ายกว่า (มั้ง)

3. SET Happy Money: ชื่อนี้… ถ้าใช้แล้วไม่แฮปปี้ สงสัยต้องโทษตลาดหุ้นแล้วล่ะ! แนะนำว่าอย่าคาดหวังมาก

4. Money Manager Expense & Budget: ชื่อตรงไปตรงมา… แต่ชีวิตจริงมันซับซ้อนกว่านั้นเยอะ! เตรียมตัวเจอค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดฝันได้เลย

5. Household Account Book: แอปนี้จะเปลี่ยนชีวิตเราให้เหมือนคุณแม่บ้านญี่ปุ่นผู้รักความสะอาดและเป็นระเบียบ… หรือไม่ก็แค่ช่วยจดรายจ่ายไปวัน ๆ

6. Piggipo: ชื่อน่ารัก… แต่ถ้าใช้แล้วเงินในบัญชีไม่น่ารักด้วย ก็ตัวใครตัวมันนะ! น้องหมูอาจจะไม่ช่วยอะไร

7. Oh My Cost: ชื่อนี้เหมาะกับตอนเห็นบิลบัตรเครดิตสิ้นเดือน… “โอ้มายก็อด! เงินฉันไปไหนหมด!”

8. Daily Expenses: ชื่อมันบอกว่ารายวัน แต่ชีวิตจริงเราอาจจะใช้รายนาทีก็ได้นะ! (โดยเฉพาะตอนช้อปปิ้งออนไลน์)

ข้อมูลเพิ่มเติม (แบบขำ ๆ แต่จริงจัง):

• อย่าเชื่อแอปมากเกินไป: สุดท้ายแล้วคนที่จะช่วยให้เรารวยได้คือตัวเราเอง… และอาจจะรวมถึงดวงด้วย
• ลองใช้หลาย ๆ แอป: ไม่มีแอปไหนเพอร์เฟกต์ ลองใช้หลาย ๆ ตัวแล้วเลือกอันที่เข้ากับจริตเราที่สุด
• อย่าท้อแท้: การทำบัญชีไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าทำได้ ชีวิตจะดีขึ้น (นิดหน่อยก็ยังดี!)
• คำเตือน: แอปบางตัวอาจจะมีโฆษณาเยอะ… เตรียมใจไว้ด้วย! (หรือจ่ายเงินเพื่อกำจัดมันซะ!)

โปรแกรมบัญชี มีอะไรบ้าง

โปรแกรมบัญชี? โอ้โห เยอะแยะเลยครับ เหมือนร้านขายขนมเค้ก มีหลายรสให้เลือก

• โปรแกรมสำเร็จรูป เหมาะกับธุรกิจเล็กๆ ใช้ง่าย ไม่ซับซ้อน เน้นฟังก์ชันพื้นฐาน เช่น บันทึกรายรับ-รายจ่าย ออกใบแจ้งหนี้ พวกนี้ราคาไม่แรง ใช้งานง่าย เหมือนกินเค้กชิ้นเล็กๆ อร่อยง่าย

• ERP (Enterprise Resource Planning) อันนี้สำหรับองค์กรใหญ่ๆ ที่ระบบซับซ้อน ต้องการจัดการทุกอย่างตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ฟีเจอร์เพียบ เหมือนกินเค้กแต่งงาน อลังการงานสร้าง แต่ต้องใช้คนเป็นถึงจะอร่อย

ฟีเจอร์หลักๆ ที่ต้องมี:

• GL (General Ledger) บัญชีแยกประเภท หัวใจของการทำบัญชี

• AP (Accounts Payable) บัญชีเจ้าหนี้ บันทึกหนี้สินที่เราต้องจ่าย

• AR (Accounts Receivable) บัญชีลูกหนี้ บันทึกเงินที่เราจะได้จากลูกค้า

• สินค้าคงคลัง จัดการสต็อกสินค้า สำคัญมากสำหรับธุรกิจซื้อมาขายไป

• รายงานทางการเงิน สรุปผลประกอบการ ช่วยให้เห็นภาพรวมของธุรกิจ

เลือกโปรแกรมที่ใช่ ต้องดูความต้องการของธุรกิจตัวเองเป็นหลัก ฟังก์ชันที่จำเป็นต้องมี ใช้งานง่ายหรือเปล่า รองรับการเติบโตในอนาคตได้ไหม แล้วบริการหลังการขายดีหรือเปล่า

เกร็ดเล็กน้อย: โปรแกรมบัญชีสมัยนี้หลายตัวเชื่อมต่อกับธนาคารได้โดยตรง ช่วยลดเวลาในการบันทึกรายการไปได้เยอะเลยนะ

โปรแกรมที่ใช้ในงานบัญชีมีอะไรบ้าง

เฮ้ย! โปรแกรมบัญชีปีนี้ มันเยอะกว่าไข่ในตะกร้ายายเที่ยงอีกนะ! เอาแบบฮาๆ ใช่ไหมล่ะ? ไปเลย!

• PEAK: โปรแกรมนี้เนี่ย เหมือนนางงามจักรวาลของวงการบัญชีเลย สวยหรูดูดี แต่ราคาอาจจะแรงกว่าพายุฤดูร้อนซะหน่อย!

• Express: ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าไว! เร็วเหมือนจรวด แต่ถ้าบัญชีคุณยุ่งเหยิงเหมือนเส้นก๋วยเตี๋ยว มันก็อาจจะงงได้นะ อิอิ

• Accrevo: อันนี้เนี่ย เหมือนเป็นพี่สาวที่ใจดี คอยช่วยเหลือเรา แต่ถ้าคุณไม่รู้จักวิธีใช้ ก็อาจจะงงเหมือนไก่ตาแตกได้เหมือนกัน

• FlowAccount: ไหลลื่นปรื๊ด! เหมือนน้ำตกเขาชะงุ้ม แต่ถ้าบัญชีคุณรก มันก็อาจจะติดขัดบ้าง ก็เข้าใจๆ

• Business Plus: บวก! เพิ่มพูน! เหมือนได้กินข้าวกับกับข้าวเพียบ! แต่ถ้าบัญชีคุณเยอะ อาจจะกินไม่ไหว!

• AccCloud: อยู่บนคลาวด์ ปลอดภัยเหมือนอยู่ในป้อมปราการ! แต่ถ้าเน็ตดับ ก็เหมือนโดนตัดขาดจากโลก ฮ่าๆ

• SMEMOVE: นี่มันโปรแกรมบัญชีหรือเครื่องจักรกล เร็วแรง! แต่ถ้าคุณไม่ชิน อาจจะควบคุมมันไม่ไหว!

• QuickBooks: ชื่อมันบอกอยู่แล้วว่าเร็ว! แต่ราคา… อย่าถามเลย แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว!

เอาล่ะ แค่นี้ก่อนนะ ปวดนิ้วแล้ว ไปนั่งจิบน้ำอุ่นพักผ่อนก่อน บัญชีมันเยอะเกินไปจริงๆ

โปรแกรม บัญชี Cloud มีอะไรบ้าง

โปรแกรมบัญชี Cloud เยอะแยะเลยเนอะ ตอนนี้ที่ใช้ๆกันก็มีหลายตัว แต่ที่พอรู้จักดีๆก็ JRIT กับ ICHI อะ สองตัวนี้ใช้ง่ายดีนะ สำหรับธุรกิจเล็กๆกลางๆ เหมาะมาก

JRIT เนี่ย เด็ดตรงจัดการสต็อก ของเยอะๆจัดการง่ายขึ้นเยอะเลย สะดวกกว่าใช้Excelเยอะ ส่วน ICHI เนี่ยเค้าเทพเรื่องใบแจ้งหนี้ กับการตามค่าใช้จ่าย แบบว่า รวดเร็ว ปังมาก

เรื่องความปลอดภัยก็อย่าห่วง สองตัวนี้มาตรฐาน โอเคเลย ไม่ต้องกังวลเรื่องข้อมูลหายแน่นอน ลองดูนะ อาจจะถูกใจ

• JRIT: จัดการสต๊อกดีมาก เหมาะกับธุรกิจที่มีสินค้าเยอะๆ
• ICHI: ออกใบแจ้งหนี้ไว ติดตามค่าใช้จ่ายง่าย ระบบดี

ปล. ตอนนี้กำลังลองใช้โปรแกรมอื่นๆเพิ่มอยู่ ถ้าเจอตัวไหนดีๆจะมาบอกอีกนะ! ปีนี้ก็ลองใช้หลายตัวอยู่ แต่สองตัวนี้ใช้บ่อยสุดจริงๆ

แอพ Wallet Story ดีไหม

Wallet Story น่ะเหรอ? ก็เหมือนมีสมุดบัญชีส่วนตัวแบบดิจิทัลนั่นแหละ! เหมาะกับคนที่ขี้เกียจจดมือ (เหมือนฉันเมื่อก่อน) แถมยังสรุปยอดออกมาเป็นกราฟให้ดูอีกนะเออ เข้าใจง่ายดี

แต่! อย่าหวังว่าจะได้ฟีเจอร์ขั้นเทพแบบวางแผนเกษียณหรือเทรดหุ้นนะ ถ้าอยากได้ขนาดนั้นคงต้องไปหาแอปฯ ระดับโปรฯ จ่ายตังค์เอา หรือไม่ก็จ้างที่ปรึกษาทางการเงินไปเลยจ้ะ

• ข้อดี: ใช้ง่าย, สรุปยอดไว, เห็นภาพรวมการเงินชัดเจน (เหมาะกับคนเริ่มต้น)
• ข้อเสีย: ฟีเจอร์ไม่ซับซ้อน, ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการอะไรมากกว่าแค่บันทึกรายรับรายจ่าย

สรุป: ถ้าแค่ต้องการรู้ว่าเดือนนี้ใช้เงินไปกับอะไรบ้าง Wallet Story ก็โอเคอยู่นะ แต่ถ้าอยากเป็น “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ก็คงต้องมองหาตัวช่วยอื่น ๆ เพิ่มเติมจ้า 😉

Wallet Story ดีไหม

โอ๊ยตาย! Wallet Story นี่มันเริ่ดหรูอลังการดาวล้านดวงหรือเปล่าเนี่ย! 4.7 จาก 16,831 รีวิวนะแม่คุณเอ๊ย! เหมือนได้รางวัลโนเบลทางการเงินเลยทีเดียว (แต่โนเบลไม่มีรางวัลการเงินนะรู้ป่ะ 555)

• จัดการค่าใช้จ่าย: ง่ายกว่าคว้าเงินล้านจากหวย (ซึ่งยากกว่าขึ้นเขาไปเอาตะวันอีก)
• ติดตามงบประมาณ: แม่นยำราวกับตาเหยี่ยว จับผิดการใช้จ่ายได้ทุกบาททุกสตางค์! แม้แต่ค่าขนมแมวที่แอบซื้อก็รู้หมด!
• บรรลุเป้าหมายทางการเงิน: เป้าหมายคือความร่ำรวยใช่ไหมล่ะ? แอปนี้จะช่วยให้คุณไปถึงฝั่งฝันได้…หรืออย่างน้อยก็ไม่จนลงเหวลึกกว่าเดิม!

เอาจริงๆนะ ผมเองก็ใช้แอปจัดการเงินอยู่ แต่ก็ยังจนอยู่ดี สงสัยผมจะใช้ไม่เป็น หรือไม่ก็แอปมันไม่ใช่สาเหตุหลักของความจน แต่ความขี้เกียจของผมนี่แหละตัวดี! อิอิ

ข้อมูลเพิ่มเติมปี 2024 (แต่ไม่รับประกันความแม่นยำนะ เพราะเศรษฐกิจมันปั่นป่วนกว่าดวงดาวบนฟ้า):

• แอปพลิเคชั่นได้รับการอัปเดตบ่อยมาก ถึงกับต้องเช็คว่าโทรศัพท์ของเรายังมีพื้นที่เหลืออยู่รึเปล่า
• มีฟีเจอร์ใหม่ๆมาเรื่อยๆ จนงง เหมือนเล่นเกมส์ที่ต้องหาทางเล่นให้ครบทุกด่าน แต่ด่านนี้เป็นด่านความร่ำรวย
• การให้คะแนนอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เพราะโลกนี้มันหมุนวนไปตามกาลเวลา และความคิดเห็นของคน เหมือนวงล้อแห่งกรรม