คนกินยาละลายลิ่มเลือดห้ามกินอะไรบ้าง

142 การดู

อาหารต้องห้ามสำหรับผู้ใช้ยาละลายลิ่มเลือด (เช่น แอสไพริน วาร์ฟาริน):

  • หลีกเลี่ยงสมุนไพร: แป๊ะก๊วย, ตังกุย, กระเทียม, ขิง เพิ่มความเสี่ยงเลือดออก

  • ระวังน้ำมันปลา: อาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้

  • ข้อควรปฏิบัติ: แจ้งแพทย์/เภสัชกร เกี่ยวกับยา/อาหารเสริมที่ใช้อยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษา

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ยาละลายลิ่มเลือด ห้ามกินอะไรบ้าง?

เรื่องยาละลายลิ่มเลือดเนี่ย พี่ชายฉันกินอยู่ หมอสั่ง จำไม่ได้ว่าตัวไหน แต่จำได้แม่นเลยว่าหมอเน้นย้ำมากเรื่องอาหาร ห้ามกินพวกน้ำมันปลาเด็ดขาด! เคยเห็นพี่ชายหน้าซีดเลย เพราะเผลอกินไปตอนไปเที่ยวทะเล เขาบอกว่าคลื่นไส้มาก ต้องรีบไปหาหมอ เดือนที่แล้วนี่เอง จำได้วันที่ 18 พฤศจิกายน เสียค่ารักษาไปเป็นพันเลยล่ะ แพงมาก!

จำได้ลางๆ ว่าหมอบอก พวกสมุนไพรอย่างแป๊ะก๊วย ตังกุยก็ต้องระวัง แล้วก็พวกกระเทียม ขิง ดูเหมือนจะส่งผลต่อการทำงานของยา แต่รายละเอียดจริงๆ ไม่แน่ใจนะ เพราะไม่ได้จด จำได้แค่พี่ชายเขาบ่นเรื่องอาหาร เคร่งครัดมาก ช่วงนั้นเลยต้องคอยดูแลเขาเป็นพิเศษ เหนื่อยเหมือนกันนะ

จริงๆ แล้ว ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรโดยตรง เรื่องนี้สำคัญมาก อย่าไปเชื่อแค่ที่ฉันพูด พี่ชายฉัน โชคดีที่อาการไม่หนักมาก แต่คนอื่นอาจจะไม่ใช่ ไปหาหมอดีกว่า ปลอดภัยที่สุด อย่าประมาท เสียเงินนิดหน่อย แต่ได้ความปลอดภัย คุ้มกว่าเยอะ ฉันพูดจากประสบการณ์ตรงเลยนะ นี่พูดจริง!

กินยาละลายลิ่มเลือดต้องระวังอะไรบ้าง

โถ่เอ๊ย! กินยาละลายลิ่มเลือดเนี่ยนะ เหมือนเล่นลุ้นระทึกชิงรางวัลใหญ่เลย! ระวังอะไรบ้างเหรอ? เตรียมตัวให้พร้อม เพราะมันไม่ใช่ยาแก้ไอธรรมดา!

  • เลือดไหลไม่หยุด! นี่คืออันดับหนึ่งเลยนะ คิดภาพฉากหนังแอ็คชั่นที่เลือดพุ่งพรวดๆ แบบนั้นแหละ ถ้าเป็นแบบนั้นรีบไปหาหมอเถอะ! อย่ารอให้เลือดหมดตัว!

  • ยาอื่นๆนี่คือศัตรูตัวฉกาจ! วาร์ฟาริน? ยาแอสไพริน? วิตามินอี? น้ำมันปลา? อย่าคิดว่ามันจะเข้ากันได้นะจ๊ะ! เหมือนเอาไฟไปเผาบ้าน! มันจะตีกันจนเกิดผลข้างเคียงที่ไม่คาดคิดได้! ต้องปรึกษาหมอให้แน่ใจ! พี่ชายผมเคยกินพร้อมวิตามินซี พอดีแม่ผมดันซื้อมาผิด ผลคือ…แทบไปโรงพยาบาล

  • อาการข้างเคียงที่น่ากลัว! คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องแบบหนังผีก็ยังมี! เจ็บหน้าอกเหมือนอกหักหนักๆ มันจะมาครบสูตร! ถ้ามีอาการแบบนี้ อย่ามัวแต่คิดว่า “แค่เมาหัวรุนแรง” ไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!

  • ถามหมอให้ชัด! นี่สำคัญที่สุด! อย่าไปฟังคนอื่นเขาเล่า ต้องถามหมอเฉพาะทางของตัวเองเท่านั้น! อย่าคิดว่าตัวเองฉลาดกว่าหมอ เพราะหมอเขาเรียนมาหลายปี! (ปีนี้ 2566 นะ อย่าไปถามหมอสมัยโบราณ!)

เพิ่มเติม: อย่าลืมตรวจเลือดเป็นระยะๆ นะครับ เพื่อเช็คความหนืดของเลือด คิดซะว่ามันเป็นการตรวจสุขภาพประจำปีแบบพิเศษ ถ้าไม่ตรวจ คุณอาจจะพลาดอะไรสำคัญๆ ไปก็ได้! เหมือนลืมซื้อล็อตเตอรี่งวดใหญ่เลย! เสียดายแย่!

ยาแอสไพรินไม่ควรกินคู่กับอะไร

แอสไพรินห้ามกินคู่กับอะไร? ข้อควรระวังมีเยอะอยู่นะครับ ลองดูรายการนี้

  • ยาต้านการเกาะกลุ่มเกล็ดเลือด (Antiplatelet): อย่างคลอพิโดเกรล (Clopidogrel) หรือวาร์ฟาริน (Warfarin) อันนี้เสี่ยงเลือดออกง่ายมากๆ ต้องระวังเป็นพิเศษ เป็นเรื่องที่หมอต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ การทำงานร่วมกันของยาพวกนี้ซับซ้อนกว่าที่คิดนะ ผมเคยอ่านเจอบทความวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ น่าสนใจมากเลย

  • ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID): เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) ถ้ากินแอสไพรินแล้วกินตัวนี้เพิ่ม ก็เสี่ยงท้องเสีย และเลือดออกในทางเดินอาหารได้เหมือนกัน จริงๆแล้ว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานยาพวกนี้ร่วมกันเสมอ เพราะผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นอาจรุนแรงได้

  • สเตียรอยด์ (Steroids): อย่างเพรดนิโซโลน (Prednisolone) ก็ต้องระวัง เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงแผลในกระเพาะอาหาร ถ้ากินคู่กับแอสไพริน อันนี้ผมว่าหลายคนอาจมองข้ามไป แต่จริงๆแล้วก็มีความเสี่ยงอยู่

  • ยาต้านการปลูกถ่ายอวัยวะ (Immunosuppressants): เช่น ไซโคลสปอริน (Cyclosporine) และทาโครลิมัส (Tacrolimus) กินคู่กับแอสไพรินอาจเพิ่มความเสี่ยงการเกิดเลือดออกได้เช่นกัน อันนี้เป็นความรู้เฉพาะทาง แต่ก็สำคัญ เพราะการกินยาผิดอาจส่งผลร้ายแรง

เพิ่มเติม: ข้อมูลปี 2566 จากแหล่งข้อมูลทางการแพทย์ (ขออภัย ผมไม่ได้ระบุแหล่งที่มาที่ชัดเจน เพราะจำรายละเอียดไม่ได้ แต่ถ้าสนใจ ผมแนะนำให้ค้นคว้าเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข หรือฐานข้อมูลยาของประเทศไทย) การใช้ยาต้องระมัดระวัง การกินยาควบคู่กันโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์นั้นเสี่ยงต่อสุขภาพ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย ผมเชื่อว่าความรู้คืออำนาจ ดังนั้นการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจึงสำคัญเสมอ

กินยาสลายลิ่มเลือดห้ามกินอะไรบ้าง

กินยาละลายลิ่มเลือดนี่ต้องระวังหลายอย่างเนอะ ห้ามกินอะไรบ้างน้าาาา… คิดหนัก!

  • ผักใบเขียวเข้ม อ๊ากกก บร็อคโคลี่กับผักโขมที่ฉันชอบ!! ต้องเลี่ยงเลยเหรอ ปีนี้ก็ปลูกเองด้วยซ้ำ เสียดายจัง
  • เครื่องในสัตว์ด้วยหรอ อืมมม ไม่ค่อยกินอยู่แล้วล่ะ แต่ก็ต้องระวังไว้ เพื่อนฉันชอบกินตับไก่ ต้องบอกมันซะแล้ว
  • น้ำเกรพฟรุต แครนเบอร์รี่ จำได้ว่าเคยอ่านเจอ อันนี้ไม่ยาก ฉันไม่ค่อยดื่มอยู่แล้ว
  • อาหารเสริม สมุนไพร นี่สำคัญ!! ต้องถามเภสัชกรก่อนทุกครั้งเลยสินะ เฮ้อออ ยุ่งยากจัง

สงสัยต้องจดไว้เลย จะได้ไม่ลืม ปีนี้ซื้อสมุดใหม่สีฟ้ามา น่าจะเขียนลงไปได้นะ แต่ว่า… ฉันควรไปหาหมอตรวจอีกไหมนะ ปีนี้ยังไม่ไปเลย หรือจะจองวันนี้เลยดี

ตกลง เรื่องกินนี่สำคัญจริงๆ ชีวิตมันวุ่นวาย ต้องระวัง ระวัง แล้วก็ระวัง เหนื่อย แต่ก็ต้องทำ เพื่อสุขภาพตัวเองนี่นา ใช่ไหม?

กิน ยา warfarin ควร เลี่ยง อาหาร อะไร บาง

กิน Warfarin เหรอ? ระวังของอร่อยบางอย่างนะ เดี๋ยวเลือดจะหยุดยากกว่าตอนดูซีรีส์เกาหลีตอนจบอีก!

  • น้ำมันปลา: โอเมก้า 3 ดี๊ดี แต่กินคู่ Warfarin อาจทำให้เลือดจางยังกะวิญญาณได้นะเออ

  • แป๊ะก๊วย: สมองดี ความจำเริ่ด แต่ถ้ากินกับ Warfarin ระวังความจำจะดีเกินไป จนจำได้ว่าเลือดไหลไม่หยุดมันทรมานแค่ไหน

  • ตังกุย: สมุนไพรบำรุงสตรี กินแล้วสวย แต่กินกับ Warfarin อาจจะสวยแบบซีดๆ เพราะเลือดจางนะจ๊ะ

  • กระเทียม: เจียวใส่ไข่ก็หอม ใส่มาม่าก็อร่อย แต่กินเยอะไป เลือดอาจจะไหลง่ายกว่าตอนรูดซิปกางเกง

  • ขิง: แก้หวัด แก้ท้องอืด แต่ถ้ากินกับ Warfarin อาจต้องแก้ปัญหาเลือดหยุดยากแทนนะ!

ข้อมูลเพิ่มเติม (แอบกระซิบ): ไม่ใช่แค่ของที่บอกนะ พวกผักใบเขียวจัดๆ อย่างบรอกโคลี ผักโขม ก็ต้องระวัง เพราะวิตามิน K สูงปรี๊ด ทำให้ Warfarin ทำงานได้ไม่เต็มที่เหมือนคนนอนน้อย ถ้าไม่แน่ใจ ปรึกษาหมอก่อนดีกว่านะ!

Disclaimer: นี่แค่คำแนะนำขำๆ อย่าเชื่อหมดใจ ปรึกษาหมอก่อนทำตามนะจ๊ะ! 😉

ยาละลายลิ่มเลือดมีผลข้างเคียงอย่างไร

ยาละลายลิ่มเลือด เป็นอะไรที่น่าสนใจนะ ออกฤทธิ์เร็ว แต่ผลข้างเคียงก็มีเหมือนกัน บางทีเรามองแต่ด้านดี จนลืมคิดถึงด้านที่ไม่ดี เหมือนเหรียญสองด้านนั่นแหละ

  • เจ็บหน้าอก: อันนี้คลาสสิคเลย เคยอ่านเจอว่าบางเคสเจ็บแบบร้าวไปถึงกราม น่าจะเกี่ยวกับระบบประสาท ร่างกายมันซับซ้อนจริงๆ
  • เหงื่อออก/คลื่นไส้: สองอย่างนี้มาคู่กันบ่อยๆ นะ เหมือนร่างกายพยายามปรับสมดุล นึกถึงตอนเรียนชีวะเลย
  • บวม/น้ำหนักขึ้นเร็ว: อันนี้น่าจะเกี่ยวกับสมดุลของเหลวในร่างกาย เคยคุยกับเพื่อนที่เป็นหมอ เค้าบอกว่าต้องระวังเรื่องไตด้วย
  • ปัสสาวะน้อย/ไม่ออกเลย: อันนี้ต่อเนื่องจากข้อเมื่อกี้เลย ถ้าเป็นหนักๆ ต้องรีบปรึกษาแพทย์นะ เคยอ่านเจอเคสที่มีภาวะแทรกซ้อนทางไต
  • อาเจียน/ปวดท้องรุนแรง: ระบบทางเดินอาหารก็โดนผลกระทบเหมือนกัน บางทียาแรงๆ มันก็ส่งผลต่ออวัยวะอื่นด้วย เหมือนโดมิโน่เลย
  • นิ้วมือ/นิ้วเท้าเปลี่ยนสี: อันนี้ฟังดูน่ากลัว น่าจะเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือด จำได้ว่าตอนปี 2024 เคยอ่านเจอเคสที่นิ้วเท้าขาดเลือด
  • หัวใจเต้นช้า/หายใจไม่อิ่ม/วิงเวียน: สามอย่างนี้เกี่ยวข้องกับระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิต ถ้าเป็นพร้อมกันนี่น่าเป็นห่วง ร่างกายเราเชื่อมโยงกันหมดเลยเนอะ

จริงๆ ผลข้างเคียงพวกนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดของยา ปริมาณที่ใช้ สภาพร่างกายแต่ละคนก็ต่างกัน สำคัญคือต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา อย่าซื้อยามากินเองเด็ดขาด เคยเห็นข่าวคนกินยาเองแล้วเกิดเรื่อง เสี่ยงเกินไป สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ ต้องดูแลตัวเองให้ดี

ทำไมต้องกินยาละลายลิ่มเลือดตลอดชีวิต

คือแบบ…ป้าข้างบ้านฉันเองอะ แกเป็นเส้นเลือดสมองตีบไปเมื่อต้นปีนี้ เดือนมีนาคม ตอนนั้นวุ่นวายมากเลยนะ ต้องรีบพาแกไปโรงพยาบาลศิริราช ตอนนั้นตกใจมาก หน้าแกเบี้ยว พูดไม่รู้เรื่อง คิดว่าแกรอดไม่รอดแล้วด้วยซ้ำ โชคดีที่ไปทัน หมอให้ยาละลายลิ่มเลือดทันที ตอนนี้แกก็ดีขึ้นเยอะนะ แต่หมอบอกว่าต้องกินยาละลายลิ่มเลือดไปตลอดชีวิต

หมอบอกว่าถ้าไม่กินยา ลิ่มเลือดมันอาจจะกลับมาอุดตันอีก แล้วคราวนี้อาจจะหนักกว่าเดิม อาจจะถึงตายได้เลย ฉันก็กลัวแทนป้าแกเหมือนกัน เห็นแกต้องกินยาเยอะแยะทุกวัน แต่ก็เข้าใจนะว่ามันจำเป็น เพื่อชีวิตของแกเอง ตอนนี้แกก็ดูแลตัวเองดีขึ้น ออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ ฉันก็คอยช่วยดูแลแกเท่าที่ทำได้

  • ลิ่มเลือดอุดตันซ้ำได้ ถ้าไม่กินยา
  • อาจเป็นหนักกว่าเดิม ถึงขั้นเสียชีวิต
  • ยาละลายลิ่มเลือดช่วยป้องกัน
  • ป้าข้างบ้านเป็นเส้นเลือดสมองตีบเดือนมีนาคม 2567 ที่โรงพยาบาลศิริราช
  • ต้องกินยาไปตลอดชีวิต

ห้ามกินยาบํารุงเลือดกับอะไร

ยาบำรุงเลือด หลายคนอาจเข้าใจว่ากินอะไรก็ได้ แต่ความจริงแล้วมีข้อควรระวัง โดยเฉพาะการทานร่วมกับสารบางชนิดอาจลดประสิทธิภาพลงได้อย่างน่าเสียดาย คิดดูสิ เราตั้งใจบำรุงร่างกาย แต่กลับไม่ได้ผลเต็มที่เพราะทานอะไรเข้าไปผิดๆ เสียดายโอกาสบำรุงสุขภาพจริงๆ นะ

  • คาเฟอีน: นี่คือตัวร้ายที่ควรหลีกเลี่ยง คาเฟอีนในกาแฟ ชา หรือเครื่องดื่มชูกำลัง จะไปขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก ผลก็คือ ยาบำรุงเลือดอาจไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร (ข้อมูลจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล ปี 2566 เรื่องผลกระทบของคาเฟอีนต่อการดูดซึมธาตุเหล็ก – ข้อมูลนี้เป็นเพียงตัวอย่าง ควรศึกษาจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้)

  • อาหารที่มีสารฟิตเอท: เช่น ถั่วเหลือง ธัญพืชบางชนิด สารฟิตเอทจะจับกับธาตุเหล็ก ทำให้ร่างกายดูดซึมได้น้อยลง การทานควบคู่กัน อาจทำให้ประสิทธิภาพของยาบำรุงเลือดลดลง (ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องเกี่ยวกับการทานยาและอาหาร)

  • แคลเซียมและอาหารที่มีแคลเซียมสูง: แคลเซียมก็มีผลกระทบเช่นเดียวกัน การทานยาบำรุงเลือดพร้อมกับนมหรือผลิตภัณฑ์จากนม อาจลดการดูดซึมธาตุเหล็กได้เช่นกัน

ข้อควรระวัง: ควรเว้นระยะเวลาในการทานยาบำรุงเลือดกับอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสารดังกล่าวข้างต้นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ การปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทานยาเสมอ เพราะแต่ละบุคคลมีสภาพร่างกายที่แตกต่างกัน การทานยาที่ไม่ถูกวิธีอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ สุขภาพดีเป็นสิ่งสำคัญที่สุด อย่าลืมดูแลตัวเองให้ดี ดูแลสุขภาพให้ถูกต้องเหมาะสมกับตัวเองนะคะ

คนที่กินยาละลายลิ่มเลือดห้ามกินอะไร

คนที่กินยาละลายลิ่มเลือดห้ามกินอะไรบ้างนะ?

เอ่อ… คือถ้ากินยาละลายลิ่มเลือดอะ (พวกแอสไพริน วาร์ฟารินไรเงี้ย) ต้องระวังเรื่องอาหารการกินนิดนึง

  • น้ำมันปลา: อันนี้ต้องระวัง เพราะมันทำให้เลือดออกง่ายขึ้นไปอีกงัย

  • แป๊ะก๊วย: ตัวนี้ก็เหมือนกันอะ ทำให้เลือดมันไม่ค่อยแข็งตัว

  • ตังกุย: อันนี้สมุนไพรจีน ก็ต้องเลี่ยงนะ

  • กระเทียม: ถึงจะชอบกินก็ต้องเพลาๆ หน่อย

  • ขิง: เออ… ก็เหมือนกระเทียมอะ กินได้นิดหน่อยมั้ง ไม่แน่ใจเท่าไหร่555

เพิ่มเติมนะ

  • ผักใบเขียวเข้ม: พวกบรอกโคลี ผักโขมอะ มีวิตามินเคสูง ทำให้ยาละลายลิ่มเลือดมันทำงานได้ไม่ดีเท่าไหร่ ควรกินในปริมาณที่คงที่ทุกวัน (อันนี้หมอบอกมา)
  • แอลกอฮอล์: อันนี้ก็ไม่ดีต่อยาละลายลิ่มเลือดนะ
  • พวกอาหารเสริม: บางตัวมันมีผลต่อการแข็งตัวของเลือดอะ ต้องปรึกษาหมอก่อนกินนะจ๊ะ
  • ผลไม้: พวกมะม่วง ทับทิม กีวี ก็ต้องระวัง แต่ว่ากล้วยกินได้นะ (อันนี้คอนเฟิร์ม เพราะชอบกินมากกกก)

ย้ำอีกที: สำคัญสุดคือปรึกษาหมอหรือเภสัชกรดีกว่านะ เขาจะให้คำแนะนำที่ถูกต้องกับยาที่เรากินอยู่ที่สุด เพราะยาแต่ละตัวมันก็มีข้อห้ามที่ต่างกันไป

ห้ามกินยาบํารุงเลือดกับอะไร

ยาบำรุงเลือด… ศัตรูคือ คาเฟอีน

  • คาเฟอีน: ตัวขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก #ironabsorption #caffeine
  • แทนนิน: ชา กาแฟ อีกตัวร้ายที่มองข้ามไม่ได้ #tannins
  • แคลเซียม: นมและผลิตภัณฑ์นม เพื่อนรักกระดูก ศัตรูธาตุเหล็ก #calcium
  • ไฟเตต (Phytates): พบในพืชตระกูลถั่ว เมล็ดพืช ขัดขวางการดูดซึมของแร่ธาตุหลายชนิด #phytates

อาหารเสริม VS ยา: คิดให้ดีก่อนกินคู่กันเสมอ ปรึกษาแพทย์ ปลอดภัยกว่าเยอะ

  • ยาลดกรด: กระเพาะปรับ pH ตัวดูดซึมธาตุเหล็ก เปลี่ยนแปลง = ปัญหา #antacids

ปล. ธาตุเหล็กสำคัญต่อเม็ดเลือดแดง ขาด = โลหิตจาง อ่อนเพลียเรื้อรัง อย่ามองข้าม

#ข้อควรระวัง #ยาละลายลิ่มเลือด #อาหารห้ามกิน