คนปกติหลั่งอินซูลินตอนไหน
การหลั่งอินซูลินเกิดขึ้นเมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลจากอาหาร เช่น คาร์โบไฮเดรต เซลล์เบต้าในตับอ่อนจะหลั่งอินซูลินออกมาเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้ร่างกายสามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานหรือเก็บสะสมไว้ในกล้ามเนื้อและตับ
เมื่อไหร่ร่างกายจะหลั่งอินซูลิน?
อินซูลิน คือ ฮอร์โมนสำคัญที่ร่างกายสร้างขึ้นจากตับอ่อน ทำหน้าที่คล้าย “กุญแจ” ที่ไขประตูเซลล์ให้เปิดรับ “น้ำตาลกลูโคส” ในกระแสเลือดเข้าไป เปรียบเสมือนการเติมพลังงานให้เซลล์ต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่การหลั่งอินซูลินไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลา ร่างกายของคนปกติจะหลั่งอินซูลินเป็นระยะๆ โดยมีปัจจัยสำคัญคือ “ปริมาณน้ำตาลในเลือด”
กระบวนการหลั่งอินซูลินสามารถแบ่งเป็น 2 ช่วงหลักๆ:
1. ช่วงหลังมื้ออาหาร:
- เมื่อเรารับประทานอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว ขนมปัง ร่างกายจะย่อยสลายคาร์โบไฮเดรตเป็นน้ำตาลกลูโคส
- น้ำตาลกลูโคสจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
- ตับอ่อนจะรับรู้ถึงระดับน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นนี้ จึงหลั่งอินซูลินออกมาในปริมาณมาก เพื่อนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ต่างๆ ไปใช้เป็นพลังงาน
- อินซูลินยังช่วยเปลี่ยนน้ำตาลส่วนเกินให้เป็นไกลโคเจน เก็บสะสมไว้ที่ตับและกล้ามเนื้อ เพื่อใช้เป็นพลังงานสำรองในภายหลัง
2. ช่วงระหว่างมื้ออาหารและขณะนอนหลับ:
- แม้ไม่ได้รับประทานอาหาร แต่ตับอ่อนก็ยังคงหลั่งอินซูลินออกมาในปริมาณเล็กน้อยอย่างต่อเนื่อง
- เรียกว่า “Basal Insulin Secretion” ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป
- ในขณะเดียวกัน ตับจะค่อยๆ ปลดปล่อยน้ำตาลที่สะสมไว้ กลับเข้าสู่กระแสเลือด เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานใช้อย่างต่อเนื่อง
สรุปง่ายๆ คือ คนปกติจะหลั่งอินซูลินมากขึ้นเมื่อรับประทานอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง และจะหลั่งอินซูลินในปริมาณเล็กน้อยอย่างต่อเนื่องแม้ไม่ได้รับประทานอาหาร เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลความรู้ทั่วไปเท่านั้น ไม่สามารถทดแทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์
#การหลั่งอินซูลิน #ระดับน้ำตาล #ร่างกายคน