ระดับน้ําตาลในเลือดเท่าไหร่ถึงควรฉีดอินซูลิน

17 การดู

ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 250 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ควรรีบตรวจสอบอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อาการคลื่นไส้ อาเจียน หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน อย่าเพิ่งฉีดอินซูลินเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ การตัดสินใจฉีดอินซูลินควรพิจารณาจากหลายปัจจัย รวมถึงประวัติสุขภาพและคำแนะนำจากแพทย์ผู้ดูแล

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง: เมื่อไหร่ที่ควรพิจารณาอินซูลิน? ข้อควรระวังที่ไม่ควรมองข้าม

ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไปเป็นภาวะที่น่ากังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน หรือผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน หลายคนอาจสงสัยว่าเมื่อไหร่ที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงถึงจุดที่ต้องพิจารณาฉีดอินซูลิน บทความนี้จะให้ข้อมูลที่สำคัญ พร้อมข้อควรระวังที่ควรตระหนัก เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีของคุณ

ระดับน้ำตาลในเลือด 250 มิลลิกรัม/เดซิลิตร: สัญญาณเตือนที่ต้องใส่ใจ

หากคุณตรวจพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 250 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ถือเป็นสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าร่างกายกำลังเผชิญกับภาวะน้ำตาลในเลือดสูง สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกคือการสังเกตอาการอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นร่วมด้วย เช่น:

  • อาการคลื่นไส้ อาเจียน: อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น ภาวะเลือดเป็นกรดจากคีโตน (Diabetic Ketoacidosis หรือ DKA) ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน
  • ปัสสาวะบ่อย: ร่างกายพยายามขับน้ำตาลส่วนเกินออกทางปัสสาวะ
  • กระหายน้ํามาก: เนื่องจากการสูญเสียน้ำจากการปัสสาวะบ่อย
  • อ่อนเพลียมาก: ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • หายใจเร็วและลึก: ร่างกายพยายามปรับสมดุลความเป็นกรดในเลือด

อย่าเพิ่งรีบร้อนฉีดอินซูลินเอง:

ถึงแม้ว่าระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงจะกระตุ้นให้หลายคนคิดถึงการฉีดอินซูลินเพื่อลดระดับน้ำตาลอย่างรวดเร็ว แต่การตัดสินใจฉีดอินซูลินเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง การฉีดอินซูลินในปริมาณที่ไม่เหมาะสม อาจนำไปสู่ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

สิ่งที่ควรทำเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกิน 250 มิลลิกรัม/เดซิลิตร:

  1. ปรึกษาแพทย์: ติดต่อแพทย์ผู้ดูแลของคุณ หรือไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรืออาการผิดปกติอื่นๆ
  2. จดบันทึก: บันทึกระดับน้ำตาลในเลือด อาการที่เกิดขึ้น และสิ่งที่คุณรับประทานหรือทำก่อนหน้านี้ ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อแพทย์ในการวินิจฉัยและวางแผนการรักษา
  3. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด: แพทย์จะพิจารณาจากประวัติสุขภาพของคุณ โรคประจำตัว ยาที่รับประทาน และผลการตรวจร่างกาย เพื่อตัดสินใจว่าจะต้องฉีดอินซูลินหรือไม่ และในปริมาณเท่าใด

ปัจจัยที่แพทย์ใช้ในการพิจารณาการฉีดอินซูลิน:

  • ชนิดของเบาหวาน: ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 มักจำเป็นต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ ในขณะที่ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 อาจสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการรับประทานยา
  • ประวัติการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: หากคุณมีประวัติระดับน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรัง หรือมีภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน แพทย์อาจพิจารณาฉีดอินซูลินเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดีขึ้น
  • โรคประจำตัวอื่นๆ: โรคประจำตัวบางชนิดอาจส่งผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และอาจทำให้แพทย์ต้องปรับแผนการรักษา
  • ยาที่รับประทาน: ยาบางชนิดอาจมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด และอาจทำให้แพทย์ต้องปรับขนาดยาหรือเปลี่ยนชนิดของยา

สรุป:

ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเกิน 250 มิลลิกรัม/เดซิลิตร เป็นสัญญาณเตือนที่ต้องใส่ใจ แต่ไม่ควรตัดสินใจฉีดอินซูลินเอง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสถานการณ์และรับคำแนะนำที่เหมาะสม การดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ