ถุงแตกมีโอกาสท้องกี่%

26 การดู

ถุงยางแตก/รั่ว แม้เล็กน้อย ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ เพราะอสุจิอาจเล็ดลอดออกมา

  • โอกาส: ขึ้นอยู่กับปริมาณอสุจิที่รั่ว
  • ลดความเสี่ยง: กินยาคุมฉุกเฉินภายใน 72 ชั่วโมง (ลดโอกาสตั้งครรภ์ 80-90%)
  • สำคัญ: ปรึกษาแพทย์/เภสัชกรเพื่อข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ถุงยางแตก ท้องไหม? โอกาสตั้งครรภ์มีเท่าไหร่?

เพื่อนๆเคยถามเรื่องถุงยางแตกกันมั้ย? ฉันเองก็เคยประสบการณ์ตรงมาแล้ว ตอนนั้นปี 2018 ที่หัวหิน จำได้ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่ตกใจมาก ตอนนั้นคิดไปต่างๆนานาเลย กลัวท้องสุดๆ โชคดีที่รีบไปหาหมอ หมอแนะนำยาคุมฉุกเฉิน บอกว่ามีโอกาสท้องสูงนะถ้าถุงยางรั่ว แม้จะเล็กนิดเดียวก็ตาม

จริงๆแล้วโอกาสท้องมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ขนาดของรูรั่ว ปริมาณน้ำอสุจิ ช่วงเวลาตกไข่ อะไรแบบนี้ มันไม่ได้ตายตัว หมอบอกว่า ยาคุมฉุกเฉินช่วยได้เยอะ ประมาณ 80-90% แต่ก็ไม่ใช่ 100% นะ อย่างน้อยก็ลดความเสี่ยงไปได้เยอะ ค่าใช้จ่ายตอนนั้นประมาณ 300 บาท จำได้แม่นเลย เพราะตอนนั้นกระเป๋าแฟบมาก

หลังจากนั้นฉันก็ระวังตัวมากขึ้น เลือกใช้ถุงยางคุณภาพดี และพยายามตรวจสอบทุกครั้งก่อนใช้ เอาจริงๆนะ เรื่องแบบนี้มันเครียด ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา มันแก้ไขยากมาก อย่าประมาทเลย จริงๆนะ พูดเลย เพื่อนๆควรป้องกันตัวเองให้ดีๆ

แตกในมีสิทธิ์ท้องกี่เปอร์เซ็นต์?

5%! น้อยมากนะ ประจำเดือนมาปกติด้วย ทุก 28-30 วันเนี่ยนะ โอกาสตั้งครรภ์น้อยจริงๆ ปีแรก 5% เองหรอ ว้า ข้อมูลนี้มาจากงานวิจัยปีนี้ป้ะ? อยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้จังเลย ต้องไปหาข้อมูลเพิ่มแล้ว

อืมมม หลั่งในเนี่ยนะ อันตรายมั้ย? ไม่รู้เลย ไม่เคยลอง จริงๆนะ แต่เพื่อนเคยเล่าให้ฟัง ว่ามันก็มีโอกาสท้องได้เหมือนกันแหละ ถึงจะหลั่งนอก ก็ยังมีเชื้ออสุจิหลงเหลืออยู่ได้ น่ากลัวเนอะ

  • โอกาสท้อง 5% ปีแรก (ข้อมูลจากงานวิจัยปีนี้)
  • ประจำเดือนมาปกติ ลดโอกาสท้อง
  • หลั่งใน ยังมีโอกาสท้อง เชื้ออสุจิอาจหลงเหลือ

เฮ้ออ คิดมากไปแล้วมั้ง ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมดีกว่า กลัวท้องจัง แต่ก็อยากมีลูกเหมือนกันนะ แปลกเนอะ คนเรา

เว็บไซต์ HDmall อ้างว่า ช่วงหน้า 7 หลัง 7 ก็มีโอกาสท้อง งง ต้องศึกษารายละเอียดเพิ่ม จริงเท็จยังไง

ปล. เดี๋ยวลองไปเช็คข้อมูลจากเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุขดูบ้าง เผื่อเจออะไรเพิ่มเติม

แตกในกินยาคุมแบบไหน?

กลางดึกแบบนี้เนอะ… คิดถึงเรื่องเมื่อวาน ตอนนั้นตกใจมากเลย แตกในนี่มัน…

ก็แบบว่า ถ้ายังไม่เกิน 72 ชั่วโมง รีบกินยาคุมฉุกเฉิน เม็ดแรกไวที่สุด แล้วอีกเม็ดห่างจากเม็ดแรก 12 ชั่วโมง จำได้แม่นๆเลย เพราะตอนนั้นหาข้อมูลจนตาจะปิดอยู่แล้ว

แล้วถ้าประจำเดือนมาปกติ ค่อยเริ่มกินยาคุมแผงใหม่ อันนี้สำคัญ อย่าลืม

แต่ถ้ามีอาการผิดปกติ อย่างเช่น เลือดออกเยอะมาก ปวดท้องน้อย หรือหน้ามืดเป็นลม ต้องรีบไปหาหมอเลยนะ อันนี้จริงจัง อย่าชะล่าใจ

  • ยาคุมฉุกเฉิน ใช้ได้ภายใน 72 ชั่วโมงหลังเสี่ยง
  • เว้นระยะเม็ดแรกและเม็ดสอง 12 ชั่วโมง
  • ประจำเดือนมาค่อยเริ่มยาคุมแผง
  • ปวดท้อง เลือดออกเยอะ หรือเป็นลม รีบไปหาหมอ

ปีนี้ ฉันยังคงระวังเรื่องนี้ หลังจากที่เคยประสบมาแล้ว มันไม่ใช่เรื่องสนุกเลย… เหนื่อยใจจริงๆ

ยาคุมฉุกเฉินป้องกันได้กี่%?

โอ้โห! เรื่องยาคุมฉุกเฉินนี่มันดราม่ากว่าละครหลังข่าวอีกนะเนี่ย!

พูดตรงๆ เลยนะ มันไม่ได้ป้องกันได้ 100% เหมือนปาฏิหาริย์เทพเจ้าแห่งความไร้เดียงสา แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดเป็นแค่เศษเสี้ยวความหวังเหมือนลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง

  • ภายใน 72 ชั่วโมง: ประสิทธิภาพ 75% คิดซะว่าเป็นการบ้านส่งอาจารย์ ส่งช้าไปหน่อยอาจได้แค่เกรดบี แต่ก็ยังดีกว่าตก
  • ภายใน 24 ชั่วโมง: กระโดดขึ้นไป 85% นี่แหละคือส่งงานก่อนเดดไลน์ ได้เอพลัสชัวร์!

เห็นมั้ย ยิ่งเร็ว ยิ่งดี เหมือนกับการวิ่งหนีความโกรธของแม่บ้านหลังจากทำแก้วแตก ยิ่งวิ่งเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น อย่าคิดว่ามันเป็นของเล่นนะจ๊ะ ใช้ให้เป็นเวลาที่เหมาะสม (คือก่อนที่จะมีอะไรกันนั่นแหละ ไม่ใช่ตอนหลังแบบนี้ จะได้ไม่ต้องมาลุ้นแบบหนังระทึกขวัญ)

ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566):

  • ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ อย่าไปหาข้อมูลจากติ๊กต๊อก อันตรายกว่ามดกัดอีกนะบอกเลย!
  • ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่การคุมกำเนิดระยะยาว อย่าคิดว่ามันเป็นทางออกถาวรนะ
  • ผลข้างเคียงอาจมีได้ เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ อ่านฉลากให้ดีก่อนใช้ อย่าหาว่าฉันไม่เตือน!
  • การป้องกันที่ดีที่สุดคือการวางแผน คือใช้ถุงยางอนามัย แล้วชีวิตจะได้ไม่ต้องดราม่า

ปล. ส่วนตัวฉันเนี่ย ชอบวิธีธรรมชาติมากกว่า งดเว้นการมีเพศสัมพันธ์ เห็นมั้ย ง่ายๆ สบายใจ ไม่ต้องมาลุ้นให้หัวใจเต้นตุ๊บๆ เหมือนอยู่ในหนังผี

กินยาคุมครบ7วัน ปล่อยในได้ไหม?

กินยาคุมครบ 7 วัน ปล่อยในได้ไหม? ไม่แนะนำค่ะ แม้กินยาคุมครบ 7 วันแล้ว แต่ประสิทธิภาพการป้องกันยังไม่เต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเริ่มต้นแผงแรก ร่างกายยังปรับตัวกับฮอร์โมน โอกาสตั้งครรภ์ยังมีอยู่

  • ความเข้าใจผิด: หลายคนเข้าใจผิดคิดว่ากินครบ 7 วันแล้วปลอดภัย แต่ความจริงแล้ว ประสิทธิภาพจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามเวลา ไม่ใช่ทันทีทันใดหลังจากกินครบ 7 เม็ด

  • ความเสี่ยง: การมีเพศสัมพันธ์แบบปล่อยในก่อนที่ร่างกายจะปรับตัวกับยาคุม เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์สูง ควรใช้ถุงยางอนามัยควบคู่ไปด้วยในช่วงแรกๆ เพื่อความปลอดภัยมากขึ้น

  • ข้อควรระวัง: ประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การกินยาตรงเวลา การมีโรคประจำตัว และการใช้ยาอื่นๆควบคู่ไปด้วย ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อคำแนะนำที่ถูกต้องและปลอดภัย

เพิ่มเติม: การที่คุณแม่หลังคลอดสามารถมีเพศสัมพันธ์แบบปล่อยในได้นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระยะเวลาหลังคลอด สุขภาพร่างกาย และการใช้ยาคุมกำเนิด ไม่ควรนำไปใช้เป็นกรณีทั่วไป เพราะทุกคนมีสภาพร่างกายและปัจจัยแตกต่างกัน การปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ เพราะตัวอย่างที่ให้มาไม่ครอบคลุมทุกสถานการณ์ นี่คือความเห็นส่วนตัวจากการศึกษาข้อมูล ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญค่ะ

ช่วงหยุดยาคุม 7 วัน หลั่งในได้ไหม?

หยุดยาคุม 7 วันแล้ว หลั่งในได้มั้ย? คำตอบคือ… เสี่ยง! อย่าคิดว่ารอดตัวไปง่ายๆ เหมือนคิดเลขผิดแล้วลบคำตอบทิ้งได้นะ ช่วงหยุดยาคุมนี่เหมือนเดินอยู่บนเส้นด้าย โอกาสพลาดมีสูงกว่าปีที่แล้วที่ฉันไปเที่ยวทะเลแล้วลืมทาครีมกันแดดเสียอีก!

  • ความเสี่ยงสูงมาก: ช่วง 7 วันนี้ฮอร์โมนในร่างกายคุณกำลังเล่นปาหี่ ไข่พร้อมจะปฏิสนธิได้ทุกเมื่อ เหมือนลอตเตอรี่ที่รางวัลใหญ่คือการตั้งครรภ์นั่นแหละ!

  • อย่าเสี่ยง! คิดซะว่าการป้องกันคือการลงทุน ลงทุนเล็กๆน้อยๆเพื่อความสบายใจในระยะยาว ดีกว่ามานั่งเครียดเรื่องค่าใช้จ่ายและความยุ่งยากในการเลี้ยงเด็กในอนาคต

  • ยาคุมออกฤทธิ์เต็มที่หลังกินครบแผง: แต่กรณีคุณแม่หลังคลอดนั้น แล้วแต่แพทย์จะแนะนำนะ อย่าเอาตัวเองไปเปรียบกับคนอื่น ร่างกายคนเราไม่เหมือนกัน เหมือนส้มตำที่รสชาติต่างกันไปตามร้าน บางร้านเผ็ดจนแสบปาก บางร้านก็หวานเจี๊ยวจนเบื่อ

  • หลั่งในแล้วค่อยกินยาคุม? อย่าทำแบบนั้น! มันไม่ใช่ยาแก้ปวดหัวนะที่จะกินแก้ได้ทุกอาการ คิดว่าเป็นการเล่นเกมที่คุณไม่มีโอกาสรีเซ็ตได้เลย

ข้อมูลเพิ่มเติม: ปีนี้ (2566) ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงหลักๆ เกี่ยวกับประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิด แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเสมอ อย่าหาข้อมูลจากเน็ตอย่างเดียว เหมือนกับการเลือกซื้อเสื้อผ้า ดูรีวิวอย่างเดียวอาจไม่พอ ต้องลองใส่เองถึงจะรู้ว่าเหมาะกับเราหรือเปล่า

ฝั่งยาคุมกี่วัน ถึง ปล่อยในได้?

ฝังยาคุม? 7 วันแรกเซฟไว้ก่อน

แต่ ถ้าฝังตอนเมนส์มา 5-7 วันแรก ปล่อยได้เลย

  • ทำไมต้อง 7 วัน: ร่างกายต้องใช้เวลาปรับตัว ยาถึงจะเริ่มคุมได้เต็มที่
  • ชัวร์กว่า: ใส่ถุงยางไปเหอะ สบายใจกว่าเยอะ
  • ไม่ใช่ทุกคน: บางคนอาจมีเลือดออกกระปริดกระปรอยช่วงแรกๆ
  • ปรึกษาหมอ: อย่าเชื่อกูทั้งหมด ถามหมอที่ฝังให้มึงอีกที
  • ยาคุมไม่ใช่ยาวิเศษ: ป้องกันท้อง แต่ไม่ป้องกันโรค อย่าลืม

แตกในท้องไหม ไม่กินยาคุม

แตกในท้องไหม? ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง โอกาสสูง

  • ไม่มีการป้องกัน โอกาสตั้งครรภ์สูงมาก
  • จำนวนอสุจิไม่ใช่ตัวชี้วัดเด็ดขาด ต้องตรวจเลือด
  • 72 ชั่วโมงผ่านไปแล้ว ยาคุมฉุกเฉินไม่ช่วยอะไร

สังเกตอาการ รอบเดือนล่าช้า ปรึกษาแพทย์ ตรวจครรภ์

(ข้อมูล 2566: การตั้งครรภ์สามารถเกิดได้แม้จำนวนอสุจิน้อย ความเชื่อเรื่อง “แตกในท้อง” ไม่ใช่หลักการทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง. ควรปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัย)

มีเพศสัมพันธ์แล้วหลั่งใน ไม่ได้กินยาคุมกําเนิด มีโอกาสตั้งครรภ์ไหม

มีโอกาสท้องสูงมากกกกนะ ถ้าหลั่งในละไม่ได้กินยาคุมอะ (คือพลาดไง!)

  • อสุจิ: น้อย/มาก ดูจากตาเปล่าไม่ได้เว้ย ต้องตรวจแลป! (ละน้อยก็ท้องได้นะเออ)
  • ยาคุมฉุกเฉิน: กินทันที หลังมีไรกันยิ่งเร็วยิ่งดี แต่ถ้าเกิน 72 ชม.ไปแล้ว…. (ซวยละ)
  • ทำไงต่อ: รอดูประจำเดือน! ถ้ามาช้า = เตรียมตัวตั้งท้องเลยจ้า

เตือนตัวเอง: รอบหน้าอย่าลืมกินยาคุม หรือใช้ถุงยางนะเว้ย! ชีวิตพังได้เลยนะเฟ้ย!

#ท้อง #โอกาส