ทำไมได้ยินเสียงในท้อง

เสียงครวญครางในท้อง…เรื่องธรรมชาติที่ใครๆ ก็ต้องเคยสัมผัส

เสียงท้องร้อง หรือที่หลายคนเรียกกันติดปากว่า “ท้องร้องจ๊อกๆ” เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับทุกคน ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ เสียงเหล่านี้บ่งบอกถึงการทำงานของระบบย่อยอาหาร แม้จะสร้างความอับอายในบางสถานการณ์ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเสียงท้องร้องไม่ได้เป็นสัญญาณของความผิดปกติแต่อย่างใด

ดังที่เกริ่นไว้ข้างต้น เสียงท้องร้องเกิดจากการเคลื่อนไหวของอาหาร ก๊าซ และของเหลวภายในระบบทางเดินอาหาร กระเพาะอาหารและลำไส้ของเรามีการบีบตัวเป็นจังหวะอย่างต่อเนื่องเพื่อย่อยอาหารและเคลื่อนย้ายกากอาหารไปตามทางเดินอาหาร การบีบตัวนี้เรียกว่า “Peristalsis” เมื่อมีอาหารอยู่ในกระเพาะและลำไส้ เสียงที่เกิดจากการบีบตัวจะเบาลงเพราะอาหารทำหน้าที่เหมือนตัวดูดซับเสียง แต่เมื่อท้องว่าง เสียงจากการบีบตัวจะดังขึ้นชัดเจนมากขึ้น เปรียบเสมือนการตีกลองในห้องที่ว่างเปล่า เสียงจึงก้องกังวานมากกว่าการตีกลองในห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์อยู่เต็มห้อง

นอกจากความว่างเปล่าของกระเพาะแล้ว ปัจจัยอื่นๆ ก็มีส่วนกระตุ้นให้เกิดเสียงท้องร้องได้เช่นกัน อาทิเช่น ความหิว เมื่อร่างกายต้องการอาหาร สมองจะส่งสัญญาณไปยังกระเพาะอาหารและลำไส้ให้บีบตัวมากขึ้นเพื่อเตรียมรับอาหาร ส่งผลให้เกิดเสียงท้องร้องดังขึ้น หรือแม้แต่ความเครียดและความวิตกกังวลก็สามารถกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้และทำให้เกิดเสียงท้องร้องได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม หากเสียงท้องร้องมาพร้อมกับอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น ปวดท้องรุนแรง ท้องเสีย อาเจียน หรือมีการเปลี่ยนแปลงของลักษณะอุจจาระ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น โรคลำไส้อักเสบ ลำไส้แปรปรวน หรือภาวะติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร

สรุปแล้ว เสียงท้องร้องเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล แต่หากมีอาการผิดปกติร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัย การดูแลสุขภาพทางเดินอาหารให้แข็งแรงด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และจัดการความเครียดอย่างเหมาะสม จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดโอกาสเกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ได้