ทํา LEEP เลือดออกกี่วัน

11 การดู

หลังการผ่าตัด LEEP อาการปวดมักน้อยและหายได้ภายใน 24 ชั่วโมง อาจมีตกขาวสีน้ำตาลเข้มปนเลือดเล็กน้อยเป็นเวลาไม่เกิน 7 วัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ หากมีเลือดออกมากหรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ควรติดต่อแพทย์โดยทันที การดูแลรักษาความสะอาดบริเวณแผลสำคัญต่อการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เลือดออกหลังทำ LEEP: สิ่งที่คุณควรรู้

LEEP (Loop Electrosurgical Excision Procedure) เป็นหัตถการที่ใช้รักษาความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูก แม้ว่าจะเป็นหัตถการที่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูง แต่ก็อาจทำให้เกิดความกังวลใจได้ โดยเฉพาะเรื่องเลือดออกหลังการผ่าตัด บทความนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาและลักษณะของเลือดออกหลังทำ LEEP รวมถึงคำแนะนำในการดูแลตัวเองเพื่อการฟื้นตัวที่ราบรื่น

โดยทั่วไป หลังทำ LEEP คุณอาจมีตกขาวปนเลือดเล็กน้อย สีของตกขาวอาจเป็นสีน้ำตาลเข้มคล้ายเลือดเก่า ระยะเวลาของเลือดออกมักไม่เกิน 7 วัน บางรายอาจมีเลือดออกเพียง 2-3 วัน ส่วนบางรายอาจมีตกขาวปนเลือดนานถึง 2 สัปดาห์ ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ อย่างไรก็ตาม ปริมาณเลือดไม่ควรมากเท่าประจำเดือน และอาการควรค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ

สิ่งสำคัญคือต้องแยกแยะระหว่างเลือดออกปกติและเลือดออกที่ผิดปกติ เลือดออกที่ผิดปกติหลังทำ LEEP อาจรวมถึง:

  • เลือดออกมากจนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกชั่วโมง
  • เลือดออกเป็นก้อนขนาดใหญ่
  • เลือดออกนานกว่า 2 สัปดาห์
  • มีไข้สูง หนาวสั่น
  • ปวดท้องรุนแรง
  • มีกลิ่นเหม็นผิดปกติจากช่องคลอด

หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรติดต่อแพทย์ทันทีเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม

การดูแลตัวเองหลังทำ LEEP มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการฟื้นตัวและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน คำแนะนำในการดูแลตัวเอง ได้แก่:

  • งดการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 4 สัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์
  • งดการใช้อุปกรณ์สอดใส่ในช่องคลอด เช่น ผ้าอนามัยแบบสอด
  • หลีกเลี่ยงการยกของหนักและการออกกำลังกายที่หักโหม
  • รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศภายนอกด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อนๆ
  • สังเกตอาการผิดปกติต่างๆ เช่น เลือดออกมากผิดปกติ ปวดท้องรุนแรง มีไข้ และรีบแจ้งแพทย์ทันทีหากพบความผิดปกติ

แม้ว่าเลือดออกหลังทำ LEEP เป็นเรื่องปกติ แต่การเข้าใจถึงลักษณะของเลือดออกที่ปกติและผิดปกติ รวมถึงการปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด จะช่วยให้คุณฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์หากคุณมีข้อสงสัยหรือกังวลใจใดๆ แพทย์จะเป็นผู้ให้คำแนะนำและการดูแลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ