ปวดท้องตลอดเวลาเป็นโรคอะไร
ข้อมูลแนะนำ:
ปวดท้องเรื้อรังต่อเนื่องหรือไม่หายขาด อาจบ่งชี้ถึงภาวะสุขภาพที่ควรใส่ใจ นอกเหนือจากลำไส้แปรปรวน ลองสังเกตอาการร่วม เช่น น้ำหนักลดผิดปกติ อ่อนเพลีย หรือการขับถ่ายเปลี่ยนเเปลง หากพบความผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างเหมาะสม
ปวดท้องเรื้อรัง…สัญญาณเตือนที่คุณไม่ควรมองข้าม
ปวดท้องเป็นอาการที่พบได้ทั่วไป หลายคนอาจเคยประสบกับอาการปวดท้องแบบเฉียบพลันซึ่งหายไปได้เอง แต่หากอาการปวดท้องเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลานาน หรือเรียกว่า “ปวดท้องเรื้อรัง” นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ ซึ่งไม่ควรละเลยและจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ความเข้าใจผิดอย่างหนึ่งคือการเชื่อมโยงอาการปวดท้องเรื้อรังกับเพียงแค่ “ลำไส้แปรปรวน” (Irritable Bowel Syndrome หรือ IBS) แม้ว่า IBS จะเป็นสาเหตุที่พบบ่อย แต่ปวดท้องเรื้อรังยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ อีกมากมาย ที่ร้ายแรงกว่าที่คาดคิด การวินิจฉัยที่ไม่ถูกต้องหรือการรักษาที่ล่าช้าอาจส่งผลให้ภาวะสุขภาพที่รุนแรงยิ่งขึ้น
สาเหตุที่น่ากังวลของอาการปวดท้องเรื้อรัง นอกเหนือจาก IBS ได้แก่:
- โรคกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กอักเสบ: การอักเสบเรื้อรังของเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรงร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ท้องเสียหรือท้องผูกสลับกัน
- โรค Crohn’s disease และ Ulcerative colitis: โรคอักเสบในลำไส้เรื้อรังชนิดรุนแรง มักทำให้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ท้องเสีย น้ำหนักลด และอาจมีเลือดปนในอุจจาระ
- โรคถุงน้ำดีอักเสบ: การอักเสบของถุงน้ำดีอาจทำให้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง มักปวดบริเวณชายโครงขวาบน อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และไข้
- โรคตับอักเสบ: การอักเสบของตับอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ส่วนใหญ่มักปวดบริเวณชายโครงขวาบน ร่วมกับอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม และอุจจาระสีจาง
- โรคไตอักเสบ: อาการปวดท้องอาจเกิดร่วมกับอาการปวดหลัง ปัสสาวะผิดปกติ เช่น ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบขัด หรือปัสสาวะมีเลือดปน
- โรคของอวัยวะสืบพันธุ์: ในผู้หญิง อาการปวดท้องเรื้อรังอาจเกี่ยวข้องกับโรคต่างๆ เช่น โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือโรคระบบสืบพันธุ์อื่นๆ ในผู้ชาย อาจเกี่ยวข้องกับโรคต่อมลูกหมากอักเสบ
- มะเร็งในระบบทางเดินอาหาร: แม้จะเป็นสาเหตุที่พบได้น้อย แต่ก็ไม่ควรละเลย อาการปวดท้องเรื้อรังร่วมกับน้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ควรได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด
ควรไปพบแพทย์เมื่อใด?
หากคุณประสบกับอาการปวดท้องเรื้อรัง ควรไปพบแพทย์โดยเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการร่วมอื่นๆ เช่น:
- น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
- อ่อนเพลียอย่างมาก
- มีเลือดปนในอุจจาระหรืออาเจียน
- มีไข้สูง
- การเปลี่ยนแปลงของการขับถ่ายอย่างผิดปกติ
แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และอาจสั่งตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือด การตรวจอุจจาระ การตรวจเอกซเรย์ หรือการตรวจอื่นๆ เพื่อหาสาเหตุของอาการปวดท้องและให้การรักษาที่เหมาะสม
อย่าปล่อยให้ปวดท้องเรื้อรังเป็นปัญหาที่เรื้อรังต่อไป การเข้ารับการตรวจรักษาอย่างทันท่วงที จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต และนำไปสู่การรักษาที่ได้ผลดี ส่งผลให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
#ปวดท้องเรื้อรัง#อาการปวด#โรคกระเพาะข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต