ป่วยอะไรต้องนอนโรงบาล

27 การดู

เมื่อไหร่ที่ต้องนอนโรงพยาบาล?

การนอนโรงพยาบาลจำเป็นเมื่อป่วยหนัก ต้องการการดูแลใกล้ชิด เช่น:

  • ภาวะหัวใจล้มเหลว
  • ติดเชื้อในกระแสเลือด
  • บาดเจ็บสาหัส
  • ผ่าตัดใหญ่

แพทย์จะพิจารณาจากอาการ เพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสมทันที

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

โรคอะไรจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล?

เอาจริงๆ นะ, โรคที่ต้องนอนโรงพยาบาลเนี่ย มันก็แล้วแต่คน แล้วแต่อาการเลย

แต่ที่แน่ๆ คือ ถ้าอาการมันหนักหนา สาหัสจริงๆ หรือต้องมีหมอพยาบาลดูแลใกล้ชิด 24 ชั่วโมง อันนั้นก็คงหนีไม่พ้นโรงพยาบาลแหละ

อย่างคนที่เป็นหัวใจล้มเหลว, ติดเชื้อในกระแสเลือดอะไรพวกนี้ คือมันต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา, ต้องให้ยาตรงเวลา, ต้องมีเครื่องมือช่วยชีวิตพร้อม อะไรแบบนั้นอะ

แล้วก็พวกที่ประสบอุบัติเหตุหนักๆ, ผ่าตัดใหญ่ๆ ก็ต้องนอนโรงพยาบาลอยู่แล้ว คือมันต้องพักฟื้น, ต้องมีคนดูแลแผล, ต้องให้ยาแก้ปวด บลาๆ

แต่ทั้งหมดทั้งมวลเนี่ยนะ, หมอเค้าจะเป็นคนตัดสินใจเองแหละ ว่าเราควรนอนโรงพยาบาลไหม คือเค้าจะดูจากอาการของเราเป็นหลัก, ดูว่าเราต้องการการดูแลแบบไหน แล้วก็ตัดสินใจตามนั้นเลย

เออ, ตอนนั้นฉันจำได้เลย, พ่อฉันเคย… ไม่เอาดีกว่า, เรื่องมันยาว ไว้เล่าให้ฟังวันหลัง 😅

อาการแบบไหนต้องแอดมิด?

อืมมม… ปีนี้ลูกสาวเพื่อนฉันป่วยหนักเลย ต้องเข้า รพ. เด็กเอกชนแถวรามคำแหง จำชื่อไม่ได้แล้ว เดือนสิงหาคม ร้อนมากๆ นางตัวร้อนสูงมาก เกือบ 40 องศา ฉันตกใจมาก แม่นางก็โทรมาถามฉัน ฉันเลยรีบพาไปหาหมอ หมอบอกว่าติดเชื้อไวรัส แต่ไข้ไม่ลดเลย ซึมมาก กินอะไรไม่ค่อยได้ นอนซม พยายามให้กินน้ำ แต่นางก็ไม่ค่อยกิน มีอาการปากแห้ง ตาลึก ผิวหนังคืนตัวช้าด้วย หมอเลยให้แอดมิต ฉีดยา ให้น้ำเกลือ อยู่โรงพยาบาลประมาณ 3 วัน กว่าไข้จะลด หายดีแล้วตอนนี้ แต่ระหว่างที่นอนโรงพยาบาลน่ะ ใจฉันไม่ดีเลย กลัวลูกเพื่อนฉันจะเป็นอะไรไป

  • ไข้สูงมาก ไม่ลดลง
  • ซึม กินไม่ได้
  • ปากแห้ง
  • ตาลึก
  • ผิวหนังคืนตัวช้า
  • อาเจียน (เพิ่มเติมจากที่จำได้)

อีกเรื่องนึง ญาติฉัน อายุ 70 กว่าแล้ว ป่วยหนัก ปวดท้องรุนแรง หายใจติดขัด ไป รพ. ศิริราช เดือนพฤษภาคม หมอตรวจแล้ว บอกว่าเป็นโรคหัวใจ ต้องแอดมิตด่วนเลย อาการหนัก ต้องเข้าไอซียู ตอนนั้นเครียดมาก แต่ก็ดีที่หมอรักษาดี หายแล้ว กลับบ้านได้

  • ปวดท้องรุนแรงมาก
  • หายใจติดขัด
  • อ่อนเพลียมาก (เพิ่มเติมจากที่จำได้)

สรุปคือ ถ้าไข้สูงมาก ซึม หรือมีอาการรุนแรงอื่นๆ ควรไปหาหมอ และถ้าหมอบอกให้แอดมิต ก็ควรทำตามคำแนะนำหมอ อย่าประมาท สุขภาพสำคัญที่สุด

ไข้กี่องศาแอดมิด?

โอ๊ย! ถามเรื่องไข้เรื่องร้อนนี่ มันเรื่องใหญ่กว่าหวยออกอีกนะพี่น้อง! คือ…ถ้าไข้แค่ จิ๊บๆ 37.5 – 38 องศา เนี่ยนะ ก็แค่ “ตัวรุมๆ” กินพารา นอนพัก ก็หายห่วง (มั้ง) แต่ถ้า 38 – 39 องศา นี่สิ เริ่ม “ไข้ขึ้นสูง” แล้วนะ ต้องเช็ดตัว กินยา ดูอาการอย่างใกล้ชิด อย่าประมาทเด็ดขาด!

แต่ถ้า ทะลุ 40 องศา ไปแล้วเนี่ย… โอ้โห! นี่มัน “ไข้บรรลัย” ชัดๆ! รีบแจ้นไปโรง’บาลด่วนจี๋เลยนะ อย่ามัวแต่ถ่าย TikTok เดี๋ยวสมองจะเดี้ยงเอา!

สรุปแบบชาวบ้านๆ:

  • ไข้ต่ำ: (37.5 – 38°C) ชิลๆ ไปก่อน
  • ไข้สูง: (38 – 39°C) เริ่มไม่ชิลแล้วนะ
  • ไข้สูงบรรลัย: (40°C+) หาหมอด่วน!

แถมท้ายสไตล์หมอ (บ้านนอก):

  • อย่าเชื่อปรอทวัดไข้ถูกๆ: ซื้อดีๆ หน่อย วัดผิดชีวิตเปลี่ยน!
  • กินยาลดไข้ตามโดส: อย่ากินเกิน เดี๋ยวตับพังไม่รู้ตัว!
  • เช็ดตัวลดไข้ให้ถูกวิธี: เช็ดตามซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ ไม่ใช่เช็ดพร่ำเพรื่อ!
  • ถ้าไข้ไม่ลง: รีบไปหาหมอ อย่ารอให้ “ยมบาลมารับ”!
  • ปีนี้ไข้หวัดใหญ่ระบาด: ฉีดวัคซีนป้องกันไว้บ้างก็ดีนะเออ!

จำไว้! สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องดูแลตัวเอง!

ป่วยขนาดไหนถึงควรไปหาหมอ?

เอ้า! ป่วยแล้วอย่าล้อเล่นนะจ๊ะ ถึงขั้นไหนต้องไปหาหมอ? ง่ายๆ คือถ้ารู้สึกว่า “โอ้โห! นี่มันไม่ใช่แค่ปวดหัวธรรมดาแล้วเว้ย!” ก็ควรรีบไปหาหมอซะ!

  • ระบบหายใจพัง!: หายใจเร็วเว่อร์ หอบเหมือนวิ่งมาราธอนไม่หยุด เสียงหายใจดังฟู่ๆ เหมือนเครื่องยนต์ใกล้พัง ไอเป็นเลือดหรือเสมหะปนเลือดนี่คือสัญญาณอันตรายสุดๆ ไปหาหมอเลย! อย่ามัวแต่คิดว่า “เดี๋ยวก็หายเอง” มันไม่หายเองหรอก!

  • หัวใจเต้นระรัว!: เจ็บหน้าอกแบบฉับพลัน เหงื่อท่วมเหมือนโดนน้ำตกถล่ม ใจสั่นคล้ายจะสลบ ปวดร้าวไปถึงกรามหรือไหล่ซ้าย นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะ รีบไปโรงพยาบาลด่วน! อย่ารอให้มันเป็นเรื่องใหญ่กว่านี้ คุณอาจพลาดโอกาสรักษาได้เลย!

  • ระบบประสาทแปลกๆ!: แขนขาอ่อนแรงหรือชาครึ่งซีกแบบกะทันหัน นี่เป็นสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมองได้นะ รีบไปหาหมอโดยด่วน! ยิ่งช้ายิ่งอันตราย ชีวิตคุณมีค่ากว่าที่คุณคิดนะ!

  • ปวดหัวหนักมาก!: ปวดหัวแบบรุนแรงมาก อาเจียนจนแทบหมดแรง ปวดหัวตลอดเวลา กินยาแล้วไม่ดีขึ้น ปวดหัวจนต้องตื่นกลางดึก นี่ไม่ใช่แค่ปวดหัวธรรมดา! มันอาจเป็นอะไรที่ร้ายแรงมาก อย่าประมาทเด็ดขาด! รีบไปหาหมอเถอะ!

ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566):

  • ควรสังเกตอาการอย่างละเอียด หากมีอาการที่ร้ายแรง ควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง
  • ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้
  • การรักษาพยาบาลควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ อย่าพึ่งพาการรักษาด้วยตัวเองจากข้อมูลในอินเทอร์เน็ต
#ป่วยหนัก #รักษาตัว #โรงพยาบาล