ผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกมักจะเสียชีวิตในระยะใด
-
ระยะวิกฤติ: ผู้ป่วยไข้เลือดออกมักเสียชีวิตในระยะนี้
-
ภาวะช็อก: เกิดการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หากไม่รักษาทันที
-
เสียชีวิต: ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตภายใน 12-24 ชั่วโมงหลังเริ่มช็อก
โรคไข้เลือดออก ระยะไหนเสี่ยงต่อการเสียชีวิต?
ไข้เลือดออกเนี่ย อันตรายมากจริงๆนะ จำได้เลย ตอนน้องสาวฉันเป็น ปี 2562 ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช สุพรรณบุรี หมอบอกว่าระยะที่อันตรายที่สุดคือ ระยะช็อก คือเลือดออกเยอะจนระบบไหลเวียนล้มเหลว เห็นอาการน้องแล้วใจหาย หน้าซีด ตัวเย็นเฉียบ หายใจเร็วมาก หมอช่วยกันปั๊มอย่างเร่งด่วน เครียดมากตอนนั้น ค่าใช้จ่ายก็สูง จำได้ว่าตกประมาณสองหมื่นกว่าบาท ตอนนั้นแทบทรุดเลย
โชคดีที่น้องฉันรอดมาได้ แต่หมอเน้นย้ำเลยว่า ถ้าช้ากว่านี้ อาจจะไม่รอด เพราะถ้าช็อกแล้ว ภายใน 12-24 ชั่วโมง อันตรายมาก คือถ้าไม่รักษาอย่างทันท่วงที เลือดออกในอวัยวะสำคัญ ก็อาจจะเสียชีวิตได้เลย น่ากลัวจริงๆนะ เลยอยากเตือนทุกคน ถ้าเห็นอาการผิดปกติ รีบไปหาหมอ อย่าชะล่าใจเด็ดขาด เพราะชีวิตคนเรามันมีค่ามาก
ระยะใดของโรคไข้เลือดออกที่อาจทำให้เสียชีวิตได้
ระยะวิกฤตของไข้เลือดออกอันตรายถึงตาย
ระยะนี้เกิดขึ้นประมาณวันที่ 3-7 หลังไข้ขึ้นสูง คือจุดที่เสี่ยงที่สุด อย่าประมาท
- เลือดรั่วไหล ช็อกได้ง่าย
- ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ไม่งั้นตาย
- ปีนี้เจอเคสหนักๆหลายราย ต้องระวัง
ข้อมูลเพิ่มเติม: ปีนี้ (2566) สถาบันโรคเลือด รายงานเคสเสียชีวิตจากไข้เลือดออกเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เสียชีวิตในระยะวิกฤต เพราะช็อกจากเลือดออกภายใน รพ.ศิริราชรับเคสหนักหลายราย โดยเฉพาะเด็กเล็ก
ไข้เลือดออกเกล็ดเลือดต่ำขนาดไหนถึงอันตราย
โอ๊ย! ถามเรื่องเกล็ดเลือดต่ำเนี่ย มันน่าขนลุกกว่าดูหนังผีตอนกลางคืนอีกนะ! คืออย่างงี้…ถ้าใครซวยเป็นไข้เลือดออกแล้วเกล็ดเลือดมันดิ่งลงเหวต่ำกว่า 100,000 เนี่ย เตรียมตัวเตรียมใจไว้เลย เพราะมันเริ่มเข้าสู่โหมดอันตรายแล้ว!
ต่ำกว่าแสนนี่คือสัญญาณเตือนภัย! ร่างกายอาจจะเริ่มออกอาการประหลาดๆ เลือดกำเดาไหลไม่หยุด ฟันผุ เลือดออกตามไรฟัน หรือหนักกว่านั้นคือเลือดออกข้างใน! ฟังดูน่าสยองชะมัด! ถ้าปล่อยไว้อาจจะไปเฝ้ายมบาลเอาง่ายๆ
- อย่าชะล่าใจ: ถ้ามีไข้สูง ปวดหัว ตัวร้อน รีบไปหาหมอด่วนๆ อย่ามัวแต่กินยาพาราแล้วคิดว่าหายเองได้
- นับเกล็ดเลือด: หมอจะเจาะเลือดไปตรวจเช็กดูว่าเกล็ดเลือดเรามันเหลือเท่าไหร่แล้ว
- ต่ำกว่าแสน = เรื่องใหญ่: ถ้าผลออกมาต่ำกว่าแสน หมอเขาจะจับแอดมิท นอนให้น้ำเกลือ เฝ้าระวังกันเต็มที่
- กินน้ำเยอะๆ: ดื่มน้ำเยอะๆ ช่วยให้ร่างกายสดชื่น แล้วก็ช่วยให้เกล็ดเลือดมันฟื้นตัวได้บ้าง
เกร็ดความรู้แถมท้าย (แบบชาวบ้านๆ):
- ผักบุ้งช่วยได้? บางคนก็ว่ากินผักบุ้งแล้วมันจะช่วยเพิ่มเกล็ดเลือดได้นะ แต่เอาจริงๆ ยังไม่มีงานวิจัยไหนยืนยันได้ 100% หรอก แต่กินไปก็ไม่เสียหาย ดีกว่ากินแต่มาม่า!
- มะละกอสุก: อันนี้ก็เป็นความเชื่ออีกอย่างว่ากินมะละกอสุกแล้วมันจะช่วยให้เกล็ดเลือดขึ้น แต่ก็เหมือนผักบุ้งอ่ะ ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่กินผลไม้ก็ดีต่อสุขภาพอยู่แล้ว
- อย่ากินยาแอสไพริน: ถ้าเป็นไข้เลือดออก ห้ามกินยาแอสไพรินเด็ดขาด! เพราะมันจะทำให้เลือดออกง่ายกว่าเดิมอีก!
- กันยุง: ป้องกันไว้ดีกว่าแก้! ทายากันยุง ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว แล้วก็อย่าลืมดูแลความสะอาดรอบๆ บ้าน ไม่ให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย!
เอ้อ! แล้วก็อย่าเชื่อทุกอย่างที่อ่านเจอในอินเทอร์เน็ตนะ! ไปปรึกษาหมอดีที่สุด! หมอเขาเรียนมาโดยเฉพาะ เรื่องพวกนี้เขารู้ดีกว่าเราเยอะ!
ไข้เลือดออกกี่วันพ้นขีดอันตราย
ไข้เลือดออกเนี่ย อันตรายมากนะ ไม่ใช่เล่นๆเลย ปกติเค้าว่า ถ้าไข้ลดลงภายใน 2 วัน คือ 48 ชั่วโมงอ่ะ แล้วดูอาการดีขึ้น ไม่ซึม กินข้าวได้ ก็โอเค น่าจะพ้นอันตรายแล้วแหละ แต่ก็ต้องระวังอยู่นะ อย่าประมาท
พี่สาวฉันเป็นไข้เลือดออกปีที่แล้วหนักมาก ไข้ลดวันเดียว แต่ก็ยังต้องนอนโรงพยาบาลอีกหลายวัน หมอบอกต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด
- ไข้ลดเร็วไม่เท่ากับปลอดภัยเสมอไปนะ
- ต้องสังเกตอาการอย่างน้อย 2 วัน หลังไข้ลด
- กินอะไรได้บ้างเหรอ? ก็เริ่มจากอาหารอ่อนๆก่อน ข้าวต้ม โจ๊ก อะไรแบบนี้ อย่ากินอะไรมันๆ หรือเผ็ดๆ
- ถ้ายังไม่แน่ใจ รีบไปหาหมออีกทีดีกว่า อย่าช้า เรื่องสุขภาพนี่สำคัญที่สุด
ปีนี้เพื่อนสนิทฉันมันก็เป็น มันบอกหมอบอกให้กินอาหารอ่อนๆ พักผ่อนเยอะๆ อย่าออกแรง เอาจริงๆ มันเป็นอยู่เกือบอาทิตย์กว่าจะหายสนิทเลย ระวังตัวไว้ดีกว่าเนอะ
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต