ไข้เลือดออกระยะแรก รักษายังไง
ไข้เลือดออกระยะเริ่มต้น: เน้นลดไข้ด้วยพาราเซตามอล เช็ดตัวด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนเต็มที่ สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
อาการรุนแรงขึ้น รีบพบแพทย์ทันที อย่าชะล่าใจ การดูแลอย่างใกล้ชิดสำคัญที่สุด ป้องกันภาวะแทรกซ้อน รับประทานยาตามแพทย์สั่ง อย่าซื้อยามารับประทานเอง
การรักษาเน้นบรรเทาอาการ ไม่ใช่รักษาโรคโดยตรง หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้องรุนแรง อาเจียน หรือมีเลือดออก ให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที
ไข้เลือดออกระยะแรก: วิธีรักษาเบื้องต้นและแนวทางดูแลตนเองอย่างไร? (58 ตัวอักษร)
ไข้เลือดออกระยะแรกเหรอ? เอาจริงดิ, เจอมาแล้วเข็ดเลย! ตอนนั้น, ประมาณช่วงสงกรานต์ปี 62 ที่เชียงใหม่, ไข้ขึ้นสูงปรี๊ด!
(แวบแรกนึกว่าแดดเผา) ตอนแรกก็กินแต่พาราฯ เช็ดตัวเอา, แบบที่เค้าบอกกันน่ะแหละ, แต่คือมันไม่ลงไง! ซ้ำร้าย, เริ่มมีจุดแดงๆ ขึ้นตามตัวอีก (โอ้! ไม่นะ) เลยรีบแจ้นไปหาหมอเลยจ้า.
สรุปคือ, ถ้าไข้ไม่ลง, มีจุดแดง, อย่าชะล่าใจ! รีบไปหาหมอเถอะ, เค้าจะได้ตรวจเลือดชัวร์ๆ แล้วให้คำแนะนำที่ถูกต้องกับเราได้ อย่าเชื่อในเน็ตมากนักเลย เชื่อหมอดีกว่าเนอะ
แล้วก็ดื่มน้ำเยอะๆ, พักผ่อนสำคัญมากกก! ร่างกายมันต้องสู้กับไวรัสอ่ะ, ต้องให้มันมีแรง! จำได้ว่าตอนนั้น, หมอให้เกลือแร่มาจิบด้วยนะ, ช่วยได้เยอะเลย.
ไข้เลือดออกไม่ต้องนอนรพได้ไหม
ไข้เลือดออกอะ ไม่ต้องนอน รพ. ไหมเนี่ย? หืมมม.. คิดหนัก!
-
อาการเบาๆ ไข้ไม่สูงมาก ปวดตัวนิดหน่อย กินยาเองได้ พักผ่อนเยอะๆ แบบนี้ อาจไม่ต้อง แต่! ต้องเช็คหมอเรื่อยๆนะ ปีนี้เจอเพื่อนเป็นหนักเลย เข้า รพ. เกือบไม่รอด กลัวจัง
-
แต่ถ้าไข้ขึ้นพรวด สูงปรี๊ด อ้วกแตก ถ่ายดำ อันนี้ วิ่งเข้า รพ. เลย อย่าช้า! เพื่อนอีกคน อาการเริ่มเบาๆ แต่ดื้อ ไม่ไปหาหมอ สุดท้ายหนักกว่าเดิม นอน รพ. นานกว่า เสียดายเวลา
อื้อหือ ปีนี้ไข้เลือดออกระบาดหนัก เพื่อนฉันที่ทำงาน ก็เป็น แต่เค้าก็แค่พักที่บ้าน กินยาตามหมอสั่ง ก็หายนะ แต่ก็ต้องระวังตัวมากเป็นพิเศษ ดูอาการตัวเองให้ดีๆ นะ อย่าประมาท!
ฉันเองก็เคยเป็น ตอนเด็กๆ จำได้ว่า ไข้ขึ้นสูงมาก แม่พาไป รพ. เลย ฉีดยา นู่นนี่นั่น หลายเข็ม เจ็บมาก นอน รพ. สักสองสามวันมั้ง ไม่แน่ใจ นานแล้ว ลืมๆ แต่จำได้ว่า กลัวมาก เลยต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เรื่องการดูแลสุขภาพ
- สรุปง่ายๆ ถ้าอาการไม่รุนแรง ดูแลตัวเองได้ ก็ไม่ต้องนอน รพ. แต่ต้องตามหมอนะ อย่าดื้อ ถ้าหนัก รีบไป รพ. เลย! ชีวิตสำคัญกว่า!
ปีนี้เจอแต่ข่าวไข้เลือดออก น่ากลัวจริงๆ ต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ ล้างมือบ่อยๆ กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เฮ้อออ เหนื่อยใจ
ไข้เลือดออกเป็นแล้วหายเองได้ไหม
- ไข้เลือดออกหายเองได้มั้ย? เออ ส่วนใหญ่ก็หายเองแหละ ถ้าเป็นไม่หนักมากนะ
- พักผ่อนสำคัญมากๆๆๆๆๆ เน้นเลย นอนเยอะๆ กินน้ำเยอะๆ (แต่น้ำหวานเยอะไปก็ไม่ดีอีก)
- ยาๆๆๆ พยายามเลี่ยงๆ พวกแก้ปวดอักเสบนะ ไม่ช่วยอะไรเลย แถมอาจจะแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ เคยอ่านเจอในเว็บหมอมา
- ยาปฏิชีวนะนี่ตัดทิ้งไปเลย ไวรัสไม่ได้แก้ด้วยยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย งงมากทำไมบางคนยังกินอยู่?
- สำคัญ: ถ้าไข้สูงไม่ลง กินอะไรไม่ได้เลย รีบไปหาหมอเถอะ อย่าคิดเองเออเอง เดี๋ยวจะงานเข้า
- ปีนี้ 2567 ไข้เลือดออกระบาดหนักมากกกกก เพื่อนที่ออฟฟิศก็เป็นไปหลายคนแล้ว น่ากลัวจริง
- เกล็ดเลือดต่ำ: นี่แหละตัวปัญหาของไข้เลือดออก ถ้าต่ำมาก เลือดออกง่าย อันตรายถึงชีวิตเลย ต้องระวังมากๆๆๆ
- ยุงลาย: ตัวดีเลย พาหะนำโรค ต้องกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงให้หมด อย่าให้มีน้ำขัง
- อาการ: ไข้สูง ปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว มีผื่นแดงๆ บางคนมีเลือดออกตามไรฟันด้วยนะ (สยอง)
- การป้องกัน: ทายากันยุง ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว (แต่เมืองไทยมันร้อน!) ติดมุ้งลวด
- วัคซีน: ตอนนี้มีวัคซีนไข้เลือดออกแล้วนะ แต่ไม่รู้ฉีดดีมั้ยอ่ะ หมอบอกว่าต้องปรึกษาหมอก่อน (ก็แหงสิ)
- น้ำเกลือ: ถ้ากินอะไรไม่ได้ หมอจะให้น้ำเกลือ ช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ
- สมุนไพร: บางคนกินฟ้าทะลายโจร (แต่ต้องระวัง!) บางคนกินน้ำมะพร้าว (ช่วยได้จริงมั้ย?) ไม่รู้เหมือนกัน
- กินอะไรดี: กินอาหารอ่อนๆ ย่อยง่ายๆ พวกข้าวต้ม โจ๊ก อะไรแบบนี้
- ออกกำลังกาย: ช่วงที่เป็นไข้เลือดออก อย่าออกกำลังกายหนักๆ นะ พักผ่อนให้เต็มที่ก่อน
- ตรวจเลือด: ถ้าสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก ให้ไปตรวจเลือด จะได้รู้ว่าเป็นจริงรึเปล่า
- อันตราย: ถ้าไม่รักษา อาจจะช็อก เลือดออกในสมอง อันตรายถึงชีวิตได้
ข้อมูลเพิ่มเติม (แบบยุ่งๆนะ):
โอ๊ย พิมพ์เยอะไปมั้ยเนี่ย? ช่างมันละกัน เผื่อมีประโยชน์กับคนอื่นบ้าง
อาการของไข้เลือดออก ระยะที่ 1 คืออะไร
ไข้สูงปรี๊ด 39-40 องศา กินเวลา 2-7 วัน ปวดหัวแตก ปวดเบ้าตา ปวดไปทั้งตัว นี่แหละ ระยะแรกไข้เลือดออก
- ไข้สูงเฉียบพลัน (39-40°C)
- ปวดหัวอย่างรุนแรง
- ปวดเบ้าตา
- ปวดกล้ามเนื้อ ข้อ กระดูก
ปีนี้เจอเคสแบบนี้หลายรายแล้ว ส่วนใหญ่เด็ก ระวังไว้ อย่าประมาท
อาการเริ่มแรกของไข้เลือดออกเป็นอย่างไร
ไข้สูงปรี๊ดดดดด เกิน 38 องศา! เหมือนไฟสุมทรวง 2-7 วัน โอ้ย…
คลื่นไส้จะอ้วก เบื่ออาหาร เซ็งไปหมด หน้าแดงก่ำ
- จ้ำเลือด จุดแดงๆ ขึ้นตามตัว น่ากลัววว
- เลือดกำเดาไหลไม่หยุด เลือดออกตามไรฟันอีก โอ๊ยยยยย
ปวดท้องงงงงงงง อย่างรุนแรง กดชายโครงขวา เจ็บจี๊ดดดดดด
-
ไข้สูงเฉียบพลัน: เกิน 38 องศาเซลเซียส (100.4 องศาฟาเรนไฮต์)
-
ระยะเวลา: 2-7 วัน
-
คลื่นไส้/อาเจียน: รู้สึกอยากอาเจียน หรืออาเจียนออกมา
-
เบื่ออาหาร: ไม่อยากกินอะไรเลย
-
หน้าแดง: ผิวหน้าแดงก่ำ
-
จ้ำเลือด/จุดเลือดออก: จุดเล็กๆ สีแดงตามผิวหนัง
-
เลือดออก: เลือดกำเดาไหล, เลือดออกตามไรฟัน, เลือดปนในปัสสาวะ/อุจจาระ
-
ปวดท้อง: ปวดรุนแรง, กดเจ็บชายโครงด้านขวา
-
ข้อมูลปีล่าสุด (2024): อาการเหล่านี้ยังคงเป็นอาการเริ่มต้นที่พบบ่อยของไข้เลือดออก
-
หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที!
-
อย่าซื้อยามารับประทานเอง เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงได้!
-
ไข้เลือดออก อันตรายถึงชีวิตได้!
-
ยุงลาย ตัวร้าย ทำลายชีวิต!
ไข้เลือดออก รักษาตัวที่บ้านได้ไหม
ไข้เลือดออก รักษาที่บ้านได้ แต่ต้องระวัง
- ติดต่อแพทย์ อย่าพึ่งรักษาเอง อาการรุนแรง ต้องเข้าโรงพยาบาล
- พักผ่อน ดื่มน้ำมากๆ สำคัญที่สุด ป้องกันภาวะขาดน้ำ
- ยาพาราเซตามอล ลดไข้ อย่าใช้ยาแอสไพริน เสี่ยงอันตราย
- สังเกตอาการ เลือดออกผิดปกติ ปวดท้องมาก หายใจลำบาก รีบไปโรงพยาบาลทันที
- ปีนี้ (2566) พบผู้ป่วยไข้เลือดออกเพิ่มขึ้น ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค
ข้อมูลเพิ่มเติม: การดูแลผู้ป่วยไข้เลือดออกที่บ้านจำเป็นต้องมีการเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด หากพบอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ การรักษาที่บ้านเป็นเพียงการบรรเทาอาการ ไม่ใช่การรักษาโรคโดยตรง
ไข้เลือดออกจำเป็นต้องหาหมอไหม
ไข้เลือดออก จำเป็นต้องหาหมอไหม? อืม… ก็ต้องดูอาการ
-
ระยะแรกๆ (3-7 วัน) ถ้าแค่ไข้สูง อาจยังพอประคองอาการที่บ้านได้ แต่ต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด เพราะสถานการณ์มันเปลี่ยนไวมาก อย่าลืมจิบน้ำบ่อยๆ ลดไข้ด้วย
-
แต่ถ้าเริ่มมีอาการเลือดออก (เช่น เลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายดำ) หรือปวดท้องรุนแรง อันนี้ต้องรีบไปโรงพยาบาลเลยนะ อย่าชะล่าใจ เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิต
-
แล้วถ้าไข้ลดพรวดพราด ก็ไม่ใช่ว่าจะดีใจได้เลยนะ ต้องระวังภาวะช็อก เพราะความดันอาจจะลดลงอย่างรวดเร็ว
ส่วนตัวคิดว่า การปรึกษาหมอตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด เพราะหมอจะประเมินความเสี่ยงและให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับแต่ละคนได้ดีกว่า บางทีการที่เราคิดว่า “ไม่เป็นไร” อาจจะทำให้สถานการณ์แย่ลงก็ได้นะ
ข้อมูลเพิ่มเติม (เหมือนแอบกระซิบ)
- เกล็ดเลือดต่ำ: ไข้เลือดออกมักทำให้เกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เลือดออกง่าย
- ภาวะแทรกซ้อน: นอกจากภาวะช็อกแล้ว ยังมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่ต้องระวัง เช่น ตับอักเสบ สมองอักเสบ
- การป้องกัน: ป้องกันไม่ให้โดนยุงกัดเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไข้เลือดออก
- วัคซีน: ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก แต่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด
เรื่องของโรคภัยไข้เจ็บ มันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ นั่นแหละ
ทำยังไงให้ไข้เลือดออกหายเร็ว
ไข้เลือดออกหายเร็ว? ไม่มีวิธี “หายเร็ว” หรอกมั้ง ต้องรอร่างกายสู้เองอะ… 2-7 วัน? นานนะ!
-
ยา: ไม่มี…เซ็ง! รักษาตามอาการไปก่อนละกัน ทำไมไม่มี!
-
น้ำ: น้ำผลไม้/เกลือแร่…ขาดน้ำอันตรายสุดๆ ชัวร์
-
ลดไข้: เช็ดตัวบ่อยๆ น้ำอุ่น…ห้ามเย็นนะ!
-
อาหาร: อ่อนๆ…โจ๊ก? ข้าวต้ม?
คิดๆ ดู ไข้เลือดออกนี่มันน่ากลัวจริงๆ นะ ปีนี้ (2567) แถวบ้านยุงเยอะมากกกก! สงสัยต้องหาตะไคร้มาปลูกไล่ยุงซะแล้วมั้งเนี่ย เดี๋ยวนี้ยุงลายมันดุนะ กัดทีเป็นตุ่มใหญ่เลย!
ไข้เลือดออกรักษาที่บ้านได้ไหม
ไข้เลือดออก รักษาบ้าน?
เช็ดตัวลดแม่งไป อย่าให้เกิน 37.5 จิบน้ำเกลือแร่ ถ้าแดกอะไรไม่ได้เลยนะ
- เช็ดตัว: ลดไข้ ด่วนๆ เลยนะ
- น้ำ: จิบ ORS (Oral Rehydration Salts) ไม่ใช่โซดา
- ระวัง: เลือดออก ซึม ปวดท้องหนัก รีบไปหาหมอ
ข้อเท็จจริงที่ควรรู้
- ไข้เลือดออกระบาดหนักสุดช่วงฤดูฝน (มิถุนายน-กันยายน)
- ยุงลายตัวเมีย กัดตอนกลางวัน พาหะตัวร้าย
- วัคซีนมีนะ แต่ปรึกษาหมอก่อนฉีด
สำคัญ: นี่ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ พบแพทย์เท่านั้นที่ตอบได้ชัวร์
ไข้เลือดออกเป็นแล้วหายเองได้ไหม
ไข้เลือดออกจะหายเองได้มั้ย? ถามแบบนี้ก็เหมือนถามว่า “ช้างกินหญ้าอิ่มไหม?” มันก็…อาจจะนะ! แต่เสี่ยงเกินไป! อย่าคิดว่าร่างกายเราเป็น Iron Man นะจ๊ะ
- หายเองได้จริง แต่ช้าและเสี่ยง! เหมือนวิ่งมาราธอนแต่ไม่เติมน้ำ ถึงเส้นชัยได้ก็เหนื่อยแดดิ้น อาจมีอาการแทรกซ้อนตามมาทีหลังได้อีก!
- พักผ่อนเยอะๆ ใช่! แต่ไม่ใช่แค่ “นอนเฉยๆ” นะ ต้องนอนแบบคุณหนูไฮโซ นอนห้องแอร์เย็นฉ่ำ ไม่ใช่ไปนอนตากแดดกลางทุ่งนา!
- ยาแก้อักเสบ ยาปฏิชีวนะ ใช้ไม่ได้ผลกับไวรัสเดงกี่นะรู้มั้ย! เหมือนเอาปืนยิงปลิง เสียกระสุนเปล่าๆ แต่ถ้ามีไข้สูงมากจนอันตราย หมอเขาจะจัดการให้เอง! อย่าไปงมเห็ดในป่าเองนะ อันตราย!
ปีนี้(2566) ยังมีคนเป็นไข้เลือดออกเยอะอยู่ ไปหาหมอดีกว่าเนอะ อย่าประมาท! นี่ฉันเตือนแล้วนะ! ถ้าเป็นแล้วไม่รักษา ระวังจะกลายเป็น “ไข้เลือดออกระยะสุดท้าย” อันนี้ไม่ใช่คำขู่ แต่เป็นความจริง!
ปล. ประสบการณ์ส่วนตัวของเพื่อนฉัน ปีนี้เพื่อนฉันคนนึงเป็นไข้เลือดออก เกือบไปแล้ว แต่โชคดีที่ไปหาหมอเร็ว เลยรอดมาได้ อย่าเอาตัวเองไปเสี่ยงแบบนั้น!
เมื่อลูกเป็นไข้เลือดออก ควรทําอย่างไร
กลางดึกแบบนี้… คิดถึงลูกจัง ตอนไข้เลือดออกนี่… ใจหายใจคว่ำเลย
น้ำเกลือแร่ นม น้ำผลไม้… จำได้แม่น ต้องให้ลูกดื่มเยอะๆ ตอนนั้นแทบไม่ได้กินข้าวเลย แค่เห็นอะไรเข้าไปก็อาเจียนหมด เหลือแต่ของเหลว เหนื่อยใจจริงๆ
อาหารต้องอ่อนๆ ย่อยง่าย จำได้ว่า ปีนี้ ให้ลูกกินโจ๊ก กับข้าวต้ม ตลอด สีดำ สีแดง ต้องงด กลัวสับสนเวลาอาเจียน ว่าเป็นเลือดหรือเปล่า
- เน้นให้ดื่มน้ำมากๆ น้ำเกลือแร่สำคัญมาก
- อาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม
- ห้ามน้ำแดง น้ำแตงโม ช็อกโกแลต ฯลฯ
ตอนนั้นเครียดมาก นอนไม่หลับเลย แต่ก็ต้องเข้มแข็งเพื่อลูก ผ่านมาได้ก็โล่งใจ แต่ก็ยังนึกถึงช่วงเวลานั้นอยู่เสมอ เป็นประสบการณ์ที่จำฝังใจ หวังว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต