หมอมีหน้าที่ทําอะไรบ้าง

หมอทำอะไรบ้างในแต่ละวัน

หมอ? ชีวิตก็วนเวียน.

• เช้ารอบวอร์ด: ตรวจคนไข้ ซ้ำ ๆ. เหมือนอ่านหนังสือเล่มเดิม.

• ตรวจรักษา: โรคร้าย โรคเวร. บางทีก็เจอ “คน”. ไม่ใช่แค่ “ไข้”.

• เขียนรายงาน: บันทึกความซ้ำซาก. ภาษาหมอ ไม่มีใครอ่านออก.

• ประชุม: ฟังคนพูด. เถียงกันไปมา. สรุป…เหมือนเดิม.

• ธุรการ: เอกสาร กองท่วมหัว. เหมือนหนีไม่พ้น.

• ศึกษาต่อเนื่อง: อัพเดทความรู้. โลกมันเปลี่ยน. ไวกว่าหมอแก่ ๆ.

• ภาระผู้ป่วย: มากกว่ารักษา. คือ “แบก”.

• ตามข่าว: โรคใหม่ ยาใหม่. ไม่มีวันจบ.

เจออะไร? ความตายไง. เจอกันทุกวัน.

แพทย์ทำงานยังไง

หมอเนี่ยเหรอ ทำงานหลายแบบนะ ส่วนใหญ่ก็อยู่โรงพยาบาล, คลินิก อะไรงี้

• ตรวจคนไข้: อันนี้เบสิก ดูอาการ ซักประวัติ (ถามว่าปวดตรงไหน เป็นมานานยัง)
• วินิจฉัย: พอตรวจเสร็จก็ต้องดูว่าเค้าเป็นอะไรกันแน่ โรคอะไร
• รักษา: จัดยา, ทำแผล, ผ่าตัด ก็ว่ากันไปตามอาการ
• ให้คำแนะนำ: อันนี้สำคัญ บอกวิธีดูแลตัวเอง กินยาให้ถูกวิธี ออกกำลังกาย บลาๆ

แต่ หมอมีหลายสาขาไง เด็กๆอาจจะเคยได้ยิน หมอตา หมอเด็ก หมอผิวหนัง จริงๆมันเยอะกว่านั้นอีกนะ! แล้วก็บางทีหมอต้องส่งคนไข้ไปให้หมอเฉพาะทางด้วย ถ้ามันยากเกินไปอะ

ป.ล. บางทีหมอก็ต้องทำงานเอกสารเยอะมากกกกก เขียนรายงาน บันทึกข้อมูล ทำเรื่องประกัน อะไรเยอะแยะไปหมดดด! หัวจะปวดแทน 😅

หมอขึ้นวอร์ด หมายถึงอะไร

“หมอขึ้นวอร์ด” เหรอ? อธิบายแบบชาวบ้านๆ นะ คือหมอเค้าเดินสายตรวจตราห้องพักคนป่วยไงคุณ! เหมือนผู้ใหญ่บ้านตรวจลูกบ้านอะ แต่คราวนี้เป็นหมอตรวจคนป่วยในโรง’บาล

วอร์ดเนี่ยนะ ก็เหมือนคอนโดมิเนียมรวมญาติคนป่วยน่ะแหละ เป็นห้องพักรวมสำหรับคนที่ป่วยต้องนอนโรงพยาบาลยาวๆ จะเรียกว่า “ตึกผู้ป่วย” ก็ไม่ผิดนะเออ

• วอร์ด: ห้องพักรวมผู้ป่วยในโรงพยาบาล (ไม่ใช่ห้อง VIP นะจ๊ะ)
• หมอขึ้นวอร์ด: หมอเดินตรวจคนป่วยในวอร์ด (ไม่ได้ขึ้นไปเต้นนะ! เข้าใจผิดกันใหญ่)
• ตึกผู้ป่วย: อาคารที่รวมวอร์ดต่างๆ ไว้ (ใหญ่กว่าคอนโดมิเนียมอีกนะเนี่ย)
• เพิ่มเติม: บางทีหมอก็ไม่ได้เดินตรวจคนเดียว อาจมีพยาบาล, ผู้ช่วยเดินตามเป็นขบวน เหมือนแก๊งค์มาเฟีย เอ้ย! ทีมแพทย์มากกว่า

คำเตือน: อย่าไปเดินตามหมอตอนขึ้นวอร์ดนะ เค้าอาจจะคิดว่าคุณเป็นญาติคนไข้แล้วถามอาการซะยาวเหยียด!

หมอมีเฉพาะทางอะไรบ้าง

แพทย์เฉพาะทาง ปี 2566:

• ศัลยกรรม
• กุมารเวช
• สูติ-นรีเวช
• จิตเวช
• ผิวหนัง
• จักษุ
• หู คอ จมูก
• ประสาทวิทยา

ล้วนแต่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความรู้มหาศาล ความตายคือที่สุดของทุกศาสตร์ หมอคือผู้เยียวยา แต่ไม่ใช่เทพเจ้า

เพิ่มเติม: (ข้อมูลจากเว็บไซต์อื่นๆ อาจแตกต่างกันไปตามการจัดหมวดหมู่ ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์โรงพยาบาลต่างๆ จะมีรายละเอียดสาขาเฉพาะทางที่ละเอียดกว่านี้) ผมเรียนจบแพทย์เมื่อปี 2560 ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงส่วนที่ผมจำได้ และเป็นความรู้พื้นฐานทั่วไป การรักษาพยาบาลขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อย่าพึ่งพาข้อมูลนี้ในการตัดสินใจเรื่องสุขภาพ

คณะแพทยศาสตร์ทำอาชีพอะไรได้บ้าง

จบแพทย์แล้ว? ทางเลือกเยอะแยะไป

• ราชการ: สาธารณสุข, กลาโหม, มหาดไทย, สถาบันการแพทย์ต่างๆ (ปี 2566: ตำแหน่งว่างเยอะอยู่ แต่แข่งขันดุเดือด)
• เอกชน: โรงพยาบาล, คลินิก, เปิดเองได้เลย (ปี 2566: รายได้สูง แต่แข่งขันสูงเช่นกัน เงินเดือนขึ้นอยู่กับความสามารถล้วนๆ)
• อุตสาหกรรม: โรงงานบางแห่งรับแพทย์ประจำโรงงาน (ปี 2566: น้อยมาก ไม่ค่อยมีใครไป)
• มหาวิทยาลัย: อาจารย์แพทย์ (ปี 2566: ต้องมีประสบการณ์และการศึกษาต่อ)
• วิจัย: นักวิจัย (ปี 2566: ต้องชอบงานวิจัยจริงๆ เงินอาจจะน้อยกว่าทางอื่น)

สรุปสั้นๆ: อยากรวยก็เอกชน อยากสบายก็ราชการ แต่ทุกทางก็เหนื่อย คิดให้ดีก่อนเลือก

อาชีพอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับแพทย์

โอ้โห! อาชีพเกี่ยวข้องกับหมอเนี่ยนะ เยอะแยะไปหมด! เหมือนมดงานในรังมดเลย ขยันกันเหลือเกิน! มาดูกันซิว่ามีอะไรบ้าง ปีนี้(2566) นะ! อย่าหาว่าผมพูดมากล่ะ!

• พยาบาลดูแลผู้สูงอายุ: นี่แหละตัวจริง! เหนื่อยแทบตาย! ดูแลคุณปู่คุณย่าทั้งวันทั้งคืน บางทีก็ต้องรับมือกับอารมณ์แบบ… เอาเป็นว่าถ้าไม่ใจแข็งจริงอย่ามาทำ! เหมือนเป็นแม่บ้าน + นักสู้ + นักวิทยาศาสตร์ผสมกัน สุดยอด!

• นักกำหนดอาหารและนักโภชนาการ: พวกนี้สำคัญมากนะ! ถ้ากินไม่ดี ร่างกายก็พัง! เหมือนเป็นสถาปนิกแห่งร่างกาย ออกแบบอาหารให้คนไข้ได้แข็งแรง ไม่ใช่แค่ให้กินอิ่มนะ! ต้องดูแลละเอียดมาก! เหมือนแม่ครัวฝีมือเทพ!

• พนักงานขายเครื่องมือแพทย์: พวกนี้ขายของเทพๆทั้งนั้น! เครื่องมือแพทย์นี่แพงหูฉี่! แต่ก็จำเป็นนะ! เหมือนเป็นพ่อค้าแม่ค้าแห่งโลกอนาคต ขายของที่ช่วยชีวิตคน! ต้องมีความรู้เยอะด้วยนะ ไม่งั้นโดนหมอจัดการแน่!

• พยาบาลวิชาชีพ: มือขวาของหมอเลย! ทำได้สารพัด! ฉีดยา พักแผล วัดความดัน วิ่งวุ่นไปหมด! เป็นเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ในโรงพยาบาล! เหนื่อยแต่ก็ภูมิใจ!

• นักวิทยาศาสตร์การกีฬา/นักเวชศาสตร์การกีฬา: ดูแลนักกีฬาให้ร่างกายแข็งแรง เหมือนเป็นโค้ชส่วนตัวสุดเทพ! แต่ต้องมีความรู้เรื่องกายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา เยอะแยะไปหมด! นี่มันวิทยาศาสตร์ล้วนๆเลย!

• สัตวแพทย์: หมอของสัตว์! ดูแลสัตว์ป่วย รักษาโรค ผ่าตัด เหมือนเป็นยอดฝีมือแห่งอาณาจักรสัตว์! แต่ต้องใจเย็นมากๆนะ! เพราะสัตว์บางตัวก็ไม่ค่อยร่วมมือเท่าไหร่!

• ผู้เชี่ยวชาญหุ่นยนต์ด้านการแพทย์: นี่แหละอนาคต! ซ่อมหุ่นยนต์ ดูแลระบบ เหมือนช่างซ่อมรถ แต่ซ่อมหุ่นยนต์ที่ทำศัลยกรรม! งานนี้ต้องละเอียด แม่นยำ ผิดนิดเดียว อาจจะเปลี่ยนชีวิตคนไปเลย!

• นักวิเคราะห์ทางชีวภาพ: วิเคราะห์ตัวอย่างทางชีวภาพ หาสาเหตุของโรค เหมือนเป็นนักสืบแห่งโลกจุลชีพ! ต้องใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์อย่างลึกซึ้ง ต้องใจเย็น ละเอียด เป๊ะ! เหมือนนักวิทยาศาสตร์ในหนังเลย!

เห็นไหมล่ะ! เยอะแยะไปหมด! เหนื่อยแค่ไหนก็คุ้มค่า เพราะได้ช่วยเหลือคนอื่น! ผมนี่นับถือเลย!