สิวสเตียรอยด์ทำยังไงถึงจะหาย
สิวสเตียรอยด์ หายได้! วิธีการคือ ลด/หยุดใช้สเตียรอยด์อย่างค่อยเป็นค่อยไป ใช้ยาเฉพาะที่ เช่น คลอนัคซิล หรืออีริโทรมัยซิน ช่วยลดการอักเสบ กรณีรุนแรง อาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น โดซิไซคลิน หรือมินโนไซคลิน ดูแลผิวด้วยความอ่อนโยน งดผลิตภัณฑ์ระคายเคือง สำคัญที่สุด คือ ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อรับการรักษาและติดตามผลอย่างใกล้ชิด อย่าพึ่งรักษาเอง แพทย์จะประเมินสภาพผิวและให้คำแนะนำที่เหมาะสมที่สุด
รักษาสิวสเตียรอยด์อย่างไรให้หายขาด? วิธีดูแลผิวและรักษาที่บ้านทำได้อย่างไร?
เออ…เรื่องสิวสเตียรอยด์เนี่ยนะ, ฉันเคยเจอคนใกล้ตัวเป็นอยู่พักนึงเลย ตอนนั้นเค้าเครียดมากกกก เพราะหน้าเห่อแดง แบบว่า…เห็นแล้วสงสารอ่ะ เข้าใจเลยว่ามันทรมานจิตใจขนาดไหน
วิธีรักษาน่ะเหรอ? เท่าที่จำได้ (นานแล้วนะ) คือต้องค่อยๆ ลดสเตียรอยด์ลงอ่ะ ห้ามหักดิบ! แล้วก็ต้องไปหาหมอผิวหนังนะ สำคัญมาก! หมอเค้าจะให้ยามาทา, พวกยาฆ่าเชื้ออะไรทำนองนั้นแหละ
แล้วก็…ต้องดูแลผิวหน้าแบบอ่อนโยนสุดๆ ห้ามสครับ ห้ามขัด ห้ามอะไรทั้งนั้น! ล้างหน้าก็ต้องเบาๆ ใช้น้ำเปล่าก็ดีนะ ช่วงนั้น. จำได้ว่าเพื่อนฉันใช้น้ำเกลือเช็ดหน้าด้วยซ้ำ
ส่วนตัว…ฉันว่าเรื่องนี้ต้องใจเย็นๆ อ่ะ มันต้องใช้เวลาจริงๆ กว่าผิวจะกลับมาเป็นปกติ แล้วก็อย่าไปเชื่อพวกครีมที่โฆษณาเกินจริงนะ อันตราย!
แล้ว…เออ ใช่! อย่าไปแกะสิวเด็ดขาด! ยิ่งแกะยิ่งอักเสบ จำไว้เลย!
ทํายังไงให้รอยดําหายเร็ว
รอยดำจางช้า ใจเย็นๆ
-
อาหาร: วิตามินซี คอลลาเจน (ปี 2566 ข้อมูลจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยมหิดล)
-
มือ: อย่าแตะหน้าบ่อย ไม่แกะสิว
-
เลเซอร์: Fraxel, Picosecond (เลือกคลินิกดีๆ)
-
Microneedling: กระตุ้นคอลลาเจน (หาหมอเฉพาะทาง)
-
วิตามิน: เสริมสร้างผิว (ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง)
-
ยาทา: สารประกอบซิลิโคน (เลือกสูตรเฉพาะ)
-
ครีม: ไนอาซินาไมด์ วิตามินซี (หาที่เหมาะกับผิว)
-
ป้องกัน: ครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไป ทุกวัน
-
ความอดทน: รอยดำหายช้า ขึ้นอยู่กับผิวแต่ละคน
-
แพทย์: ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ จำเป็น
ปล. ผิวสวย ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปถ้ารู้จักวิธี อย่าหวังผลเร็วเกินไป
ทำยังไงให้จุดด่างดำหาย
เอ๊า! จุดด่างดำมาเยือน จะปล่อยให้มันอยู่เฉยๆได้ไงวะ! นี่เลย วิธีจัดการให้มันหายไปแบบแสบๆ คันๆ รับรองเห็นผล! (แต่ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปนะจ๊ะ อย่ามาฟ้องฉันล่ะ!)
-
เลเซอร์จี้จุดดำ! แรง! เหมือนเอาปืนยิงจุดดำเลยล่ะ แต่ต้องไปหาหมอที่ไว้ใจได้นะ อย่าไปเจอหมอเถื่อนล่ะ เดือดร้อนแน่ๆ! ปีนี้ราคาเริ่มต้นประมาณ 5,000-ขึ้นไป แล้วแต่คลินิก
-
ทรีตเมนต์หน้า! คล้ายๆสปาหน้า แต่เน้นจัดการจุดดำโดยเฉพาะ คิดซะว่าเอาจุดดำไปทำสปา ราคาขึ้นอยู่กับสถานที่และโปรโมชั่น แต่ส่วนมากก็หลักพัน
-
ผลัดเซลล์ผิว! เหมือนลอกคราบงู แต่ไม่ถึงกับน่ากลัวขนาดนั้น ผิวใหม่จะมาแทนที่ ราคา? แล้วแต่ผลิตภัณฑ์ บางตัวหลักร้อยก็เอาอยู่
-
กรอผิว! อันนี้แรงกว่าผลัดเซลล์นะ เหมือนเอาเครื่องขัดถูมาขัดหน้าเลย ต้องระวังหน้าพังนะ ปีนี้ราคาอยู่ที่หลักพันถึงหมื่นบาท
-
สกินแคร์เทพ! ต้องเลือกดีๆนะ อย่าไปหลงเชื่อโฆษณาเว่อร์ๆ ลองหาข้อมูลดีๆ ดูรีวิวเยอะๆ ราคา? แล้วแต่ยี่ห้อ ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น!
-
ครีมกันแดด! สำคัญที่สุด! เหมือนร่มเวลาแดดแรงๆ ป้องกันจุดดำใหม่ไม่ให้มาเยือน ราคา? หลักร้อยก็มี คุณภาพก็ตามราคา
-
นอนหลับพักผ่อน! ไม่ได้ช่วยโดยตรง แต่ช่วยให้ผิวแข็งแรง นอนน้อย หน้าโทรม จุดดำก็ยิ่งชัด ไม่มีราคาค่าใช้จ่าย แต่มีค่าเวลา
-
ดื่มน้ำเยอะๆ! เหมือนรดน้ำต้นไม้ ให้ผิวชุ่มชื้น จุดดำก็จะจางลง ไม่มีราคาค่าใช้จ่ายเหมือนกัน
หมายเหตุ: นี่แค่ความคิดเห็นส่วนตัวจากประสบการณ์ตรงของเพื่อนสนิทนะ ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ อย่ามาโทษฉันถ้าไม่ได้ผล ไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีกว่านะจ๊ะ! ราคาอาจเปลี่ยนแปลงตามปีและสถานที่ โปรดตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ
รอยสิวรักษากี่เดือน
3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของรอยสิว และวิธีการรักษา
- รอยแดงจางเองได้ภายในเดือนเดียว ถ้าดูแลดี
- รอยดำอาจใช้เวลานานกว่า หลายเดือนขึ้นไป
- เลเซอร์ช่วยได้ แต่ก็แพง
- ครีมบำรุงช่วยได้บ้าง แต่ต้องเลือกดีๆ อย่าไปเชื่อโฆษณาเว่อร์ๆ
ส่วนตัวใช้ครีมวิตซีตัวนึง ของแบรนด์ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว เห็นผลชัดเจน แต่ไม่ใช่ทุกคนนะ ผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ทำไมรอยดำไม่หายสักที
โอ๊ย! รอยดำนี่มันน่าเบื่อสุดๆ เข้าใจเลยว่าทำไมไม่หายสักที คือ…จริงๆ แล้วมันมีหลายปัจจัยนะที่ทำให้รอยดำมันฝังแน่นอยู่บนหน้าผากเรานานขนาดนี้ (เกือบปีแล้วมั้ง!?)
- ประเภทของรอย: รอยดำมันเกิดจากเม็ดสีเมลานินที่ผิวสร้างขึ้นมาเยอะเกินไปไง เวลาสิวมันอักเสบมากๆ ผิวตรงนั้นก็จะผลิตเมลานินออกมาเยอะเป็นพิเศษ ทำให้เกิดรอยดำคล้ำๆ ที่เห็นนั่นแหละ รักษายากกว่ารอยแดงเยอะเลย
- ความลึกของรอย: ถ้ารอยมันตื้นๆ ก็อาจจะจางหายไปเองได้ในไม่กี่เดือน (อย่างที่เขาว่า 4-6 เดือนน่ะ) แต่ถ้ามันฝังลึกถึงชั้นผิวที่ลึกลงไปอีก อันนี้ก็ต้องใช้เวลา (และอาจจะต้องพึ่งหัตถการ) มากขึ้น
- การดูแลผิว: ถ้าเราไม่ทาครีมกันแดดทุกวัน รอยดำมันก็จะยิ่งเข้มขึ้นไปอีก เพราะแสงแดดมันกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินไง หรือถ้าเราไปแกะ เกา สิว รอยดำมันก็จะยิ่งอักเสบและหายช้าลง
- สภาพผิวของแต่ละคน: ผิวแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนผิวขาว รอยดำก็อาจจะเห็นชัดกว่าคนผิวคล้ำ แต่ผิวคล้ำอาจจะหายช้ากว่าก็ได้ (อันนี้ไม่แน่ใจนะ แค่คิดว่าน่าจะเป็นแบบนั้น)
เมื่อก่อนเราเคยลองแต่พวกสกินแคร์ทั่วไปที่เคลมว่าช่วยลดรอยดำ แต่ผลลัพธ์มันก็ไม่ได้ดีเท่าที่หวัง จนหลังๆ เริ่มศึกษาข้อมูลมากขึ้น แล้วก็ไปปรึกษาเภสัชกรที่ร้านขายยาแถวบ้าน (ชื่อร้าน…เอ่อ จำไม่ได้แล้ว แต่ใกล้ๆ เซเว่นหน้าปากซอย) เขาแนะนำให้ลองใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของ อาร์บูติน (Arbutin) กับ วิตามินซี (Vitamin C) คือสองตัวนี้มันช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน แล้วก็ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
แต่ที่สำคัญที่สุดเลยคือ ครีมกันแดด! ต้องทาทุกวันจริงๆ นะ ไม่งั้นที่ทำมาทั้งหมดก็คือศูนย์เปล่า เราใช้ของ ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF50+ PA++++ คือมันกันแดดดีมาก แล้วก็ไม่เหนียวเหนอะหนะด้วย
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต