อาการของเส้นประสาทถูกเบียดกดมีอะไรบ้าง

10 การดู

อาการเส้นประสาทถูกกดเบียดแสดงออกแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ได้รับผลกระทบ อาจพบอาการชาเฉพาะที่ร่วมกับปวดแสบร้อน หรือมีอาการอ่อนแรง กล้ามเนื้อลีบเฉพาะส่วนนั้น บางรายอาจมีอาการรู้สึกเสียวซ่า หรือเหมือนมีเข็มทิ่มแทง การวินิจฉัยจำเป็นต้องอาศัยการตรวจร่างกายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เมื่อเส้นประสาทร้องขอความช่วยเหลือ: รู้เท่าทันอาการเส้นประสาทถูกกดเบียด

อาการชาปลายนิ้วที่ไม่หายสักที ความอ่อนแรงที่แปลกประหลาด หรืออาการปวดแสบร้อนที่ทนไม่ไหว นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนจากเส้นประสาทที่กำลังถูกกดเบียด ความผิดปกตินี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับผู้สูงอายุเท่านั้น แต่สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย และยิ่งปล่อยไว้นาน อาการก็อาจรุนแรงขึ้น ถึงขั้นทำให้สูญเสียการทำงานของกล้ามเนื้อได้ ดังนั้น การเรียนรู้ที่จะสังเกตอาการเบื้องต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

อาการของเส้นประสาทถูกกดเบียดนั้นมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เส้นประสาทได้รับผลกระทบ และความรุนแรงของการกดเบียด อาการเหล่านี้ไม่ได้ปรากฏพร้อมกันเสมอไป บางครั้งอาจแสดงออกเพียงอาการเดียว หรือบางครั้งอาจเป็นการรวมกันของหลายอาการ ซึ่งทำให้การวินิจฉัยตนเองเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างเด็ดขาด จำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้การรักษาที่ถูกต้อง

ต่อไปนี้เป็นอาการสำคัญๆ ที่บ่งชี้ว่าเส้นประสาทของคุณอาจกำลังถูกกดเบียด:

  • อาการชาหรือรู้สึกเสียวซ่า: อาการนี้มักเป็นอาการแรกๆ ที่ปรากฏ อาจรู้สึกเหมือนเข็มทิ่มแทง หรือรู้สึกชาเฉพาะที่ เช่น ชาที่ปลายนิ้ว ชาที่ฝ่ามือ หรือชาที่บริเวณขา อาการนี้จะรุนแรงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป และอาจกระจายไปยังบริเวณใกล้เคียง

  • ปวดแสบร้อน: ความรู้สึกปวดอาจมีตั้งแต่ปวดตุบๆ จนถึงปวดแสบร้อนอย่างรุนแรง ความรุนแรงของอาการปวดจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและระดับความรุนแรงของการกดเบียด

  • ความอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ: การกดเบียดอาจทำให้กล้ามเนื้อในบริเวณที่ได้รับผลกระทบอ่อนแรงลง ส่งผลให้การเคลื่อนไหวทำได้ลำบากขึ้น เช่น ยกของหนักไม่ได้ เดินไม่สะดวก หรือจับสิ่งของไม่ถนัด

  • กล้ามเนื้อลีบ: หากเส้นประสาทถูกกดเบียดเป็นเวลานาน อาจทำให้กล้ามเนื้อลีบ ฝ่อ และสูญเสียการทำงานไปอย่างถาวร

  • การเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง: ในบางกรณี บริเวณที่เส้นประสาทถูกกดเบียดอาจมีการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง เช่น ผิวหนังแห้ง แตก หรือมีสีคล้ำผิดปกติ

สิ่งสำคัญ: อาการเหล่านี้อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้เช่นกัน ดังนั้น การวินิจฉัยที่ถูกต้องจำเป็นต้องอาศัยการตรวจร่างกาย การตรวจประวัติ และการตรวจเพิ่มเติมต่างๆ เช่น การตรวจเอกซเรย์ การตรวจคลื่นไฟฟ้าของกล้ามเนื้อ หรือการตรวจอัลตราซาวนด์ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เช่น แพทย์เฉพาะทางด้านประสาทวิทยา หรือแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู

อย่าเพิกเฉยต่อสัญญาณเตือนเหล่านี้ หากคุณพบอาการใดๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด การรักษาที่ทันท่วงทีจะช่วยลดความรุนแรงของอาการ และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายถาวรต่อเส้นประสาทและกล้ามเนื้อของคุณ