ไข้หวัดธรรมดากับไข้หวัดใหญ่แตกต่างกันยังไง
ไข้หวัดธรรมดาและไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสคนละชนิดกัน ไข้หวัดธรรมดาเกิดจากไวรัสหลายชนิด เช่น ไรโนไวรัส และโคโรนาไวรัส ส่วนไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อ Influenza Virus การที่ไข้หวัดธรรมดาทวีความรุนแรงจนกลายเป็นไข้หวัดใหญ่จึงเป็นไปไม่ได้ เพราะเชื้อไวรัสที่ก่อโรคต่างกัน
เป็นหวัดธรรมดากับไข้หวัดใหญ่ต่างกันอย่างไร? อาการแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์? มีวิธีสังเกตอาการเบื้องต้นได้ไหม?
คือแบบนี้ หวัดธรรมดากับไข้หวัดใหญ่เนี่ย มันคนละเรื่องเลยนะ จำได้ตอนนั้น ลูกชายฉันป่วย ไข้ขึ้นสูงมาก แบบ 39 องศา! วันที่ 12 ธันวาคม ปีที่แล้ว ฉันพาไปโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท หมอบอกเป็นไข้หวัดใหญ่ ต้องกินยาต้านไวรัส แพงมาก เกือบสองพัน! แต่หวัดธรรมดาที่เคยเป็น แค่คัดจมูก น้ำมูกไหล ไม่ถึงกับไข้สูงขนาดนั้น แค่พักผ่อนเยอะๆ ก็กระชุ่มกระชวยแล้ว แตกต่างกันชัดเจนเลย
ส่วนเรื่องอาการที่ต้องไปหาหมอ ถ้าไข้สูงมาก แบบเกิน 38.5 องศา นานเกินสองสามวัน หรือไอมากจนเหนื่อยหอบ หรือหายใจลำบาก นี่ต้องไปหาหมอด่วนๆ เลย อย่าประมาท ฉันเคยเห็นเพื่อนไม่ไปหาหมอ เลยกลายเป็นปอดบวม อันตรายมาก!
สังเกตอาการเบื้องต้นเหรอ? ถ้าแค่คัดจมูก จาม น้ำมูกไหล ไม่ค่อยมีไข้ อาจจะเป็นแค่หวัดธรรมดา แต่ถ้ามีไข้สูง ปวดเมื่อยตัว ไอ เจ็บคอ นี่ควรระวัง อาจจะเป็นไข้หวัดใหญ่ อันนี้ก็จากประสบการณ์ตรงของฉันเองแหละ ตอนลูกเป็นไข้หวัดใหญ่ อาการมันรุนแรงกว่าหวัดธรรมดาเยอะเลย อย่างที่บอกไปไง ไข้สูงมาก นอนซมไปเลย ไม่ไหวจริงๆ
อย่าคิดมากนะ หวัดธรรมดากับไข้หวัดใหญ่ มันต่างกันเยอะ อย่าไปคิดว่ามันจะกลายเป็นไข้หวัดใหญ่ ถ้าดูแลตัวเองดีๆ พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ ก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าอาการแย่ลงจริงๆ อย่าลืมไปหาหมอนะ สำคัญมาก!
อาการไข้หวัดใหญ่ต่างจากไข้หวัดยังไง
ไข้หวัดใหญ่รุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดา
-
ไข้สูงกว่า ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมาก อ่อนเพลียอย่างรุนแรง
-
เสี่ยงภาวะแทรกซ้อน ปอดบวม ติดเชื้อในกระแสเลือด (ข้อมูล ณ ปี 2566)
-
ไข้หวัดธรรมดา อาการน้อยกว่า หายเร็วกว่า ส่วนใหญ่ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง
ความแตกต่างอยู่ที่ระดับความรุนแรงและความเสี่ยงต่อสุขภาพ เรื่องเล็กน้อยอาจร้ายแรงได้ อย่าประมาท
ไข้หวัดธรรมดาเป็นไข้กี่วัน
ไข้หวัดธรรมดา ระยะเวลาที่เป็นไข้แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุและสุขภาพโดยรวม โดยทั่วไปแล้ว ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่จะหายจากอาการไข้ภายใน 7 วัน เด็กอาจใช้เวลานานกว่าเล็กน้อย ประมาณ 10-14 วัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการด้วยนะ
สังเกตว่า อาการมักจะรุนแรงที่สุดใน 3 วันแรก หลังจากนั้นจะค่อยๆ ทุเลาลง แต่อาการไอและน้ำมูกอาจยังคงอยู่ได้อีกนาน ถึง 10-14 วัน บางรายอาจมีอาการต่อเนื่องเป็นเดือน แต่โดยส่วนใหญ่จะหายเองโดยไม่ต้องใช้ยา ถ้าอาการรุนแรง ควรไปพบแพทย์
- ผู้ใหญ่: ไข้ส่วนมากหายใน 7 วัน
- เด็ก: ไข้หายใน 10-14 วัน (อาจมากกว่านั้นในบางราย)
- ระยะเวลาอาการอื่นๆ: ไอและน้ำมูกอาจอยู่ได้นานถึง 2 สัปดาห์ แต่ก็ขึ้นกับแต่ละบุคคล
เพิ่มเติม: ปีนี้ (2566) ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเชิงสถิติเกี่ยวกับระยะเวลาของไข้หวัดใหญ่ที่แตกต่างจากข้อมูลเดิมมากนัก แต่ก็มีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างภูมิคุ้มกันกับระยะเวลาการหายของโรค ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะแสดงให้เห็นว่า การดูแลสุขภาพที่ดี ส่งผลต่อการฟื้นตัวจากโรคได้จริงๆ คิดว่าเป็นเรื่องดีที่เราใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เพราะสุขภาพดี เป็นรากฐานสำคัญของชีวิตที่สมบูรณ์ จริงไหม?
เป็นไข้หวัดใหญ่ แล้วจะมีภูมิคุ้มกันไหม
ไข้หวัดใหญ่? ภูมิคุ้มกันไม่ใช่ของเล่นนะยะ
มีเชื้อใหม่ป้วนเปี้ยนตลอด ฉีดวัคซีนหรือเคยเป็นมาก็ช่วยได้บ้าง แต่ภูมิคุ้มกันไม่ใช่กำแพง แค่ลดความรุนแรงเท่านั้นแหละ อย่าหวังพึ่งมันมากเกินไป แอนติบอดีลดลงตามเวลา เรื่องปกติ
- วัคซีนปี 2024 ครอบคลุมสายพันธุ์หลักๆ แต่ไม่ใช่ทุกสายพันธุ์
- ภูมิคุ้มกันจากการป่วย ช่วยได้ แต่ไม่ถาวร
- เชื้อไวรัสเปลี่ยนแปลงเร็ว วัคซีนอาจไม่ตรงเป้าทุกปี
เคยป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B/Victoria/2/87 ในปี 2018 จำได้แม่น หนักหนาสาหัส เกือบไปแล้ว หลังจากนั้นก็ยังเป็นไข้หวัดใหญ่มาอีกหลายรอบ แต่ความรุนแรงลดลงจริง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เป็น เรื่องนี้ต้องดูแลตัวเองให้ดีกว่า อย่าประมาท
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต