G6PDอันตรายแค่ไหน
ภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD เกิดจากความผิดปกติของยีนบนโครโมโซม X ทำให้ร่างกายสร้างเอนไซม์ G6PD ได้น้อยหรือไม่สามารถสร้างได้ ส่งผลต่อการทำงานของเม็ดเลือดแดง มักพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง การถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากแม่สู่ลูกเป็นลักษณะด้อยบนโครโมโซม X ทำให้ลูกชายมีโอกาสเป็นโรคได้สูงกว่าลูกสาว.
ภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD อันตรายแค่ไหน
ภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD เป็นภาวะทางพันธุกรรมที่เกิดจากความผิดปกติของยีนบนโครโมโซม X ส่งผลให้ร่างกายสร้างเอนไซม์ G6PD ได้น้อยหรือไม่สามารถสร้างได้ เอนไซม์ G6PD มีบทบาทสำคัญในการป้องกันเม็ดเลือดแดงจากความเสียหายจากสารออกซิแดนท์
เมื่อร่างกายมีระดับเอนไซม์ G6PD ต่ำ อาจทำให้เม็ดเลือดแดงเกิดการแตกตัวได้ง่าย (ภาวะเม็ดเลือดแดงแตก) ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
อาการของภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD
อาการของภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยบางคนอาจไม่มีอาการใดๆ เลย ขณะที่บางคนอาจมีอาการรุนแรงมาก
อาการทั่วไปของภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD ได้แก่
- ภาวะตัวเหลือง (ตัวเหลือง ตาเหลือง)
- ปัสสาวะสีเข้ม
- อ่อนเพลีย
- หายใจลำบาก
- หัวใจเต้นเร็ว
- ช็อก
สาเหตุของภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD
ภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD เกิดจากความผิดปกติของยีน G6PD บนโครโมโซม X ความผิดปกติทางพันธุกรรมนี้มีลักษณะด้อย ดังนั้นจึงพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
เมื่อแม่มีภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD ลูกชายจะมีโอกาสรับยีนที่ผิดปกติจากแม่และเป็นโรคได้สูงกว่าลูกสาว ลูกสาวของแม่ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD มีโอกาสเป็นพาหะของยีนที่ผิดปกติ ซึ่งหมายความว่าพวกเธอมีสำเนายีนที่ผิดปกติหนึ่งชุดและสำเนายีนปกติอีกชุด พาหะมักไม่มีอาการใดๆ แต่สามารถถ่ายทอดยีนที่ผิดปกติไปยังลูกหลานได้
การวินิจฉัยภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD
การวินิจฉัยภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD ทำได้โดยการตรวจเลือด ซึ่งจะวัดระดับเอนไซม์ G6PD ในเลือด
การรักษาภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD
ภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD ไม่มีการรักษา แต่สามารถป้องกันการเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกได้โดยหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น เช่น
- ยาบางชนิด เช่น แอสไพริน ไอบูโปรเฟน และนาฟาทาเลน
- อาหารบางชนิด เช่น ถั่วฟาวา
- การติดเชื้อ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
บุคคลที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD ควรแจ้งแพทย์และเภสัชกรเกี่ยวกับภาวะของตนก่อนใช้ยาหรือรับการรักษาใดๆ
ภาวะแทรกซ้อนของภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD
หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา ภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD อาจนำไปสภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ เช่น
- ภาวะเม็ดเลือดแดงแตกอย่างเฉียบพลัน
- โรคดีซ่านทารกแรกเกิด
- ภาวะไตวาย
- ความเสียหายต่ออวัยวะอื่นๆ
สรุป
ภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD เป็นภาวะทางพันธุกรรมที่สามารถทำให้เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกได้ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ แม้ว่าจะไม่มีการรักษาภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD แต่สามารถป้องกันการเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกได้โดยหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น บุคคลที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD ควรแจ้งแพทย์และเภสัชกรเกี่ยวกับภาวะของตนก่อนใช้ยาหรือรับการรักษาใดๆ
#อันตราย G6pd#อาการ G6pd#โรค G6pdข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต