การบอกเลิกสัญญาต้องบอกล่วงหน้าอย่างน้อยกี่เดือน

บอกลาอย่างมืออาชีพ: ไขข้อสงสัยเรื่องการบอกเลิกสัญญาจ้างงานที่ถูกต้องตามกฎหมายและมารยาท

การตัดสินใจลาออกจากงานเป็นก้าวสำคัญในชีวิตการทำงานของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพราะเจอโอกาสใหม่ที่ดีกว่า ต้องการเปลี่ยนสายงาน หรือด้วยเหตุผลส่วนตัวใดก็ตาม สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้การตัดสินใจ คือการจัดการเรื่องการบอกเลิกสัญญาจ้างงานให้ถูกต้องตามกฎหมายและมารยาท เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับองค์กรเดิม และสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับอนาคต

คำถามที่พบบ่อยคือ “ต้องบอกล่วงหน้ากี่เดือน?” คำตอบนั้นไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาเพื่อให้การลาออกเป็นไปอย่างราบรื่นและถูกต้อง

กฎหมายแรงงานเบื้องต้น:

กฎหมายแรงงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาการบอกกล่าวล่วงหน้าที่ตายตัวสำหรับการลาออกของลูกจ้าง (ในกรณีสัญญาจ้างงานที่ไม่มีกำหนดระยะเวลา) แต่กำหนดไว้ในมาตรา 17 ว่า “สัญญาจ้างย่อมสิ้นสุดลงเมื่อครบกำหนดเวลาที่ตกลงกันไว้ในสัญญาจ้างนั้น” และ “ถ้าสัญญาจ้างไม่มีกำหนดระยะเวลา นายจ้างหรือลูกจ้างอาจบอกเลิกสัญญาจ้างได้ โดยบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นหนังสือให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบในเมื่อถึงหรือก่อนถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวหนึ่งคราวใด เพื่อให้มีผลเป็นการเลิกสัญญาเมื่อถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวถัดไป”

ความเข้าใจง่ายๆ คือ:

• สัญญาจ้างไม่มีกำหนดระยะเวลา: นี่คือสัญญาจ้างงานที่พบบ่อยที่สุด หากคุณทำงานโดยไม่มีสัญญาที่ระบุวันสิ้นสุด คุณจะอยู่ภายใต้ข้อกำหนดนี้
• การบอกกล่าวล่วงหน้า: คุณต้องแจ้งให้นายจ้างทราบเป็นลายลักษณ์อักษร (เช่น จดหมายลาออก) ก่อนถึงวันจ่ายเงินเดือนครั้งใดก็ได้ เพื่อให้การลาออกมีผลในวันจ่ายเงินเดือนครั้งถัดไป

แล้ว “1 รอบการจ่ายเงินเดือน” คืออะไร?

โดยทั่วไปแล้ว “1 รอบการจ่ายเงินเดือน” หมายถึงช่วงเวลาตั้งแต่เริ่มรอบการทำงานจนถึงวันจ่ายเงินเดือน เช่น หากบริษัทจ่ายเงินเดือนทุกวันที่ 25 ของเดือน คุณต้องแจ้งลาออกก่อนวันที่ 25 ของเดือนใดเดือนหนึ่ง เพื่อให้การลาออกมีผลในวันที่ 25 ของเดือนถัดไป

สิ่งที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม นอกเหนือจากกฎหมาย:

• สัญญาจ้างงาน: แม้กฎหมายจะไม่ได้กำหนดตายตัว แต่สัญญาจ้างงานของคุณอาจระบุระยะเวลาการบอกกล่าวล่วงหน้า หากมีข้อกำหนดนี้ คุณต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
• ธรรมเนียมปฏิบัติของบริษัท: ในบางองค์กร อาจมีธรรมเนียมปฏิบัติเกี่ยวกับการแจ้งลาออกที่ยาวนานกว่า 1 รอบการจ่ายเงินเดือน เช่น 2 เดือน หรือ 3 เดือน การสอบถามจากเพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้างาน อาจช่วยให้คุณเข้าใจธรรมเนียมปฏิบัติของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น
• ตำแหน่งและความรับผิดชอบ: หากคุณดำรงตำแหน่งสำคัญ หรือมีความรับผิดชอบสูง การบอกกล่าวล่วงหน้าที่นานขึ้น อาจช่วยให้บริษัทมีเวลาในการหาผู้มาแทนที่ และถ่ายทอดงานได้อย่างราบรื่น
• ความสัมพันธ์กับองค์กร: การลาออกอย่างมืออาชีพและให้เกียรติ จะช่วยรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับองค์กร ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ในอนาคต

เมื่อไหร่ที่อาจต้องชดเชยค่าเสียหาย?

หากคุณไม่แจ้งลาออกล่วงหน้า หรือแจ้งในระยะเวลาที่สั้นกว่าที่ตกลงกันไว้ในสัญญาจ้างงาน หรือตามธรรมเนียมปฏิบัติของบริษัท นายจ้างอาจมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงเป็นรายกรณีไป โดยศาลแรงงานจะเป็นผู้พิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวของลูกจ้างก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้างจริงหรือไม่ และสมควรต้องชดเชยเป็นจำนวนเท่าใด

คำแนะนำเพิ่มเติม:

• ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับข้อกำหนดทางกฎหมาย หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการลาออก ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายแรงงาน หรือฝ่ายบุคคลของบริษัท
• สื่อสารอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา: แจ้งลาออกกับหัวหน้างานโดยเร็วที่สุด และอธิบายเหตุผลในการลาออกอย่างสุภาพ
• ให้ความร่วมมือในการถ่ายทอดงาน: ช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานในการถ่ายทอดงาน เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่น
• รักษาความเป็นมืออาชีพ: จนกว่าจะถึงวันสุดท้ายของการทำงาน ทำงานอย่างเต็มที่และรักษาความเป็นมืออาชีพ

การบอกเลิกสัญญาจ้างงานอย่างถูกต้องและมีมารยาท จะช่วยให้คุณเริ่มต้นบทใหม่ในชีวิตการทำงานได้อย่างมั่นใจ และรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับองค์กรเดิม ซึ่งอาจเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในอนาคต