ทำไมห้ามกินถั่ว

25 การดู

ห้ามกินถั่วลิสงเน่าเสีย! อันตรายแฝงมาก อาจมีสารก่อมะเร็ง เช่น อะฟลาทอกซิน และไฮโดรคาร์บอนโพลีไซคลิกอะโรมาติก ปนเปื้อน เสี่ยงตับแข็ง มะเร็งตับ

ข้อควรระวัง: จุดดำคล้ายราบนถั่วลิสงคั่ว/ต้ม = ห้ามกินเด็ดขาด! เลือกซื้อถั่วลิสงคุณภาพดี เก็บรักษาให้ถูกวิธี ป้องกันการปนเปื้อนเชื้อรา เพื่อสุขภาพที่ดี

โทษ/อันตราย: สารพิษจากเชื้อราสะสมในร่างกาย ทำลายตับ เพิ่มโอกาสเป็นมะเร็ง

กินถั่วลิสงอย่างปลอดภัย เลือกซื้อจากแหล่งเชื่อถือได้ สังเกตสภาพถั่วก่อนรับประทาน สุขภาพดีเริ่มต้นจากการเลือกกินอย่างชาญฉลาด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ห้ามกินถั่วเพราะอะไร?

เฮ้ย! ห้ามกินถั่วเพราะอะไรเนี่ยนะ? คือถ้าเป็นถั่วลิสงอ่ะ ต้องระวังหน่อย

จำได้เลย ตอนเด็กๆ เคยกินถั่วลิสงคั่ว แล้วเจอเม็ดดำๆ เหมือนราขึ้น ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร กินไปเลย! แต่แม่ดุใหญ่เลย บอกว่ามันมีสารอะฟลาทอกซิน เป็นสารก่อมะเร็ง

แล้วแม่ก็เล่าให้ฟังอีกว่า สารพวกนี้มันชอบมากับความชื้นไง ถั่วลิสงถ้าเก็บไม่ดี อับๆ ชื้นๆ ราก็ขึ้น แล้วราพวกนี้แหละตัวดี

อีกอย่างที่ต้องระวังคือ พวกไฮโดรคาร์บอนโพลีไซคลิกอะโรมาติก (ชื่อยากชะมัด!) สารพวกนี้ก็ไม่ดีต่อร่างกายเหมือนกัน

เคยได้ยินมาว่า คนที่เป็นโรคตับนี่ต้องระวังเรื่องถั่วเป็นพิเศษเลยนะ เพราะมันอาจจะทำให้ตับทำงานหนักขึ้นไปอีก

เอาจริงๆ นะ ถ้าเจอถั่วลิสงที่มันดูแปลกๆ มีจุดดำๆ หรือมีกลิ่นอับๆ อย่าเสี่ยงกินเลย ทิ้งไปเหอะ ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า!

ใครห้ามกินถั่ว

โรคไตระยะสุดท้าย? ห้ามแตะถั่วพวกนี้เด็ดขาด! โพแทสเซียมกับฟอสฟอรัสมันจะฆ่าแก่มึง

  • ถั่วทุกชนิด จำกัดปริมาณให้มากที่สุด
  • หมอสั่งยังไงก็ทำตามนั้น อย่าเสี่ยง
  • ปีนี้ 2024 ข้อมูลจากโรงพยาบาลศิริราช ตรวจสอบเพิ่มเติมได้เอง ไม่รับผิดชอบนะ

ปล. ปีที่แล้วญาติผมตายเพราะเรื่องนี้ จำไว้

กินถั่วทำไมมึนหัว

ทำไมกินถั่วแล้วมึนหัว? นั่นสินะ บางทีอาจไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ

  • สารพิติน (Phytohaemagglutinin): ถั่วดิบหลายชนิดมีสารตัวนี้อยู่เยอะ ไอ้เจ้าสารพิตินนี่แหละที่อาจทำให้เราปวดหัว มึนงง คลื่นไส้ หรือท้องเสียได้ถ้ากินเข้าไปมากๆ เหมือนเป็นกลไกป้องกันตัวเองของถั่ว (โลกนี้มันซับซ้อนกว่าที่เราคิดเสมอ)

  • วิธีจัดการ: การต้มถั่วให้สุกเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการลดปริมาณสารพิตินลงได้เยอะมาก แช่น้ำก่อนต้มก็ช่วยได้อีกทางนึง เหมือนเป็นการปลดปล่อยความ “toxic” ของถั่วออกไปก่อนที่เราจะกิน

  • ความเข้มข้นสำคัญ: ปริมาณสารพิตินในถั่วแต่ละชนิดไม่เท่ากัน บางชนิดกินดิบๆ ก็ไม่เป็นไร (เช่น ถั่วลิสง) แต่บางชนิดต้องทำให้สุกก่อน (เช่น ถั่วแดงหลวง) สังเกตตัวเองด้วยว่ากินถั่วชนิดไหนแล้วมีอาการ

  • ข้อมูลน่าสนใจ: จริงๆ แล้วสารพิตินก็มีประโยชน์นะ ในวงการแพทย์มีการนำไปใช้ในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน แต่ต้องใช้ในปริมาณที่ควบคุมได้เท่านั้น (อะไรที่มากเกินไปก็ไม่ดีเสมอ)

  • เกร็ดเล็กน้อย: เคยอ่านเจอว่าคนสมัยก่อนใช้วิธีสังเกตสัตว์ที่กินถั่วชนิดนั้นๆ ถ้าสัตว์กินแล้วไม่เป็นอะไร คนก็กินตามได้ (เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่น่าทึ่ง)

จริงๆ เรื่องอาหารการกินนี่มันโยงไปถึงปรัชญาชีวิตได้เลยนะ ทุกอย่างมันมีสองด้านเสมอ มีประโยชน์ก็มีโทษ อยู่ที่เราจะเลือกใช้มันยังไง (เหมือนการเลือกกินถั่วนี่แหละ)

โรคอะไรห้ามกินถั่ว?

โรคไตระยะสุดท้าย? ห้ามกินถั่วแบบถล่มทลาย! ไม่ใช่แค่ห้ามนิดห้ามหน่อยนะ ต้องจำกัดแบบจริงจัง เพราะโพแทสเซียมกับฟอสฟอรัสในถั่วมันเยอะเกินไป กินเข้าไปปุ๊บ ระดับแร่ธาตุในเลือดพุ่งปั๊บ! เสี่ยงอันตรายถึงชีวิตเลยล่ะ! คิดซะว่าถั่วคือระเบิดเวลาในร่างกายก็แล้วกัน!

  • ตัวร้ายตัวจริง: โพแทสเซียมและฟอสฟอรัสในถั่ว นี่แหละศัตรูตัวฉกาจของไตวาย!
  • ระยะไตที่ต้องระวัง: ระยะ 3b, 4, และ 5 ถึงขั้นนี้ต้องเข้มงวดมากเป็นพิเศษ!
  • จำกัดหรือไม่กินดีกว่า: ถ้าเป็นไปได้ ควรหลีกเลี่ยงถั่วทุกชนิด ไม่ใช่แค่ถั่วเหลืองนะ ถั่วทุกชนิดเลย! ขอให้คิดถึงสุขภาพไตอันเปราะบางของคุณไว้ก่อน!

ปีนี้(2566) ข้อมูลจากหลายแหล่งยังยืนยันตรงกัน การจำกัดถั่วสำหรับผู้ป่วยไตระยะสุดท้ายเป็นสิ่งสำคัญ ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อวางแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสม อย่าลืมว่าสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ดูแลตัวเองดีๆ อย่าหาเรื่องให้ไตทำงานหนักเกินไป !

โรคอะไรที่แพ้ถั่ว?

โรคอะไรที่แพ้ถั่ว?

โรคแพ้ถั่วปากอ้า หรือที่เรียกว่า ภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD ครับ สาเหตุหลักคือ ร่างกายมีเอนไซม์ G6PD น้อยกว่าปกติ ซึ่งเอนไซม์ตัวนี้สำคัญมากในการปกป้องเม็ดเลือดแดงจากการถูกทำลาย ผมว่ามันเหมือนทหารที่คอยปกป้องบ้านเลยนะ ถ้าทหารน้อย บ้านก็เสี่ยง

สาเหตุของโรค

  • กรรมพันธุ์: ส่วนใหญ่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากพ่อแม่สู่ลูก โดยเฉพาะโครโมโซม X (สำคัญมากสำหรับเพศชาย)
  • ยาและสารเคมีบางชนิด: ยาบางตัวหรือสารเคมีบางอย่างกระตุ้นให้เม็ดเลือดแดงแตกในคนที่มีภาวะ G6PD
  • อาหารบางชนิด: ถั่วปากอ้าเป็นตัวการสำคัญ รวมถึงอาหารหรือสมุนไพรบางชนิด

ข้อมูลเพิ่มเติม (สไตล์ผม)

  • เคยอ่านเจอว่า G6PD ช่วยลดความเสี่ยงมาลาเรียได้นะ อันนี้ก็น่าสนใจดี
  • สมัยก่อน คนไม่ค่อยรู้เรื่องนี้กันเท่าไหร่ เดี๋ยวนี้ตรวจคัดกรองตั้งแต่แรกเกิดเลย ดีมากๆ
  • ผมว่าเรื่องอาหารนี่สำคัญ ต้องระวังมากๆ เลย เพราะมัน trigger ได้ง่าย

คำเตือน: ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับตัวคุณ

คนที่แพ้ถั่วเกิดจากอะไร?

กลางดึกแบบนี้… นอนไม่หลับอีกแล้ว คิดไปเรื่อยเปื่อย เรื่องแพ้ถั่วเนี่ยนะ ก็คือ… ร่างกายเรา มันไปเจอโปรตีนในถั่ว แล้วมันไม่ชอบ เลยมีปฏิกิริยา สร้างแอนติบอดี้ขึ้นมา เหมือนมันต่อสู้กับศัตรูอ่ะ

แล้วไอ้แอนติบอดี้เนี่ย มันก็ปล่อยสารฮิสตามีนออกมา เลยทำให้เกิดอาการต่างๆ อย่างที่เคยเป็น คือผื่นขึ้น ลมพิษ จำได้แม่นเลย ตอนนั้นไปกินเค้ก ที่เขาบอกว่าไม่มีถั่ว แต่ดันมี คันไปทั้งตัว หายใจไม่ค่อยออกด้วย กลัวมาก ต้องรีบไปหาหมอ ฉีดยา ถึงจะดีขึ้น

จริงๆ แล้ว แพ้ถั่วเนี่ย มันมีหลายระดับความรุนแรงนะ บางคนแค่คันๆ แต่บางคนหนักมาก ถึงขั้นช็อก อันตรายเลย นี่แหละ ที่ทำให้ฉันกลัว

  • สาเหตุ: ร่างกายแพ้โปรตีนในถั่ว
  • อาการ: ผื่น คัน ลมพิษ หายใจลำบาก หนักๆถึงขั้นช็อก
  • ประสบการณ์ส่วนตัว: เคยแพ้ถั่วแล้ว อาการหนักมาก ปีนี้พยายามระวังมากขึ้น ไม่กินอะไรที่ไม่แน่ใจ

ปีนี้เลยระวังมากขึ้น อ่านฉลากทุกอย่างก่อนกิน อย่างเคร่งครัดเลย กลัวจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีก นอนไม่หลับเลยจริงๆ คิดมากไปหมด

คนแพ้ถั่วห้ามกินอะไรบ้าง?

แพ้ถั่ว งดเลย

  • ถั่วทุกชนิด ไม่ว่าจะถั่วลิสง ถั่วเหลือง อัลมอนด์ วอลนัท เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ฯลฯ
  • ผลิตภัณฑ์จากถั่ว นมถั่วเหลือง เต้าหู้ น้ำมันถั่วเหลือง ซอสถั่วเหลือง
  • ขนม ของหวาน คุกกี้ เค้ก ไอศกรีม หลายยี่ห้อแอบมีถั่วเป็นส่วนผสม เช็คฉลากทุกครั้ง
  • อาหารสำเร็จรูป ระวังซ่อนในส่วนผสมต่างๆ เช่น น้ำจิ้มบางชนิด เครื่องปรุง
  • ยาบางชนิด ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทานเสมอ

ปีนี้ (2566) ยังคงต้องระมัดระวัง ผลิตภัณฑ์อาหารมากมายใช้ถั่วเป็นส่วนประกอบ อาการแพ้รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ อ่านฉลากอย่างละเอียดก่อนบริโภค พกยาแก้แพ้ติดตัวเสมอ หากมีอาการแพ้ให้รีบไปพบแพทย์ทันที เคยมีเพื่อนสนิทแพ้ถั่วลิสงอย่างรุนแรง เกือบเสียชีวิตแล้ว จำไว้อย่างนั้นแหละ

โรคอะไรที่กินถั่วไม่ได้?

โรคที่กินถั่วไม่ได้ คือ โรคแพ้ถั่ว (Peanut allergy) ซึ่งไม่ใช่แค่ถั่วปากอ้าอย่างเดียว แต่รวมถึงถั่วหลายชนิด

  • กลไกการเกิดโรค: เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันร่างกายตอบสนองต่อโปรตีนในถั่วอย่างผิดปกติ ร่างกายเข้าใจผิดว่าโปรตีนเหล่านี้เป็นสิ่งแปลกปลอมที่เป็นอันตราย จึงปล่อยสารเคมีออกมาต่อสู้ ทำให้เกิดอาการแพ้ ตั้งแต่ผื่นคัน จนถึงอาการรุนแรงอย่างช็อก

  • ความแตกต่างจาก G6PD: โรคแพ้ถั่ว กับภาวะพร่อง G6PD เป็นคนละโรคกัน G6PD เกี่ยวข้องกับการขาดเอนไซม์ G6PD ในเม็ดเลือดแดง ทำให้เม็ดเลือดแดงเสื่อมสภาพง่าย ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการแพ้โปรตีนในอาหาร แม้ว่าทั้งสองโรคอาจมีอาการคล้ายคลึงกันในบางกรณี เช่น อาการซีด แต่สาเหตุและกลไกการเกิดโรคต่างกันอย่างสิ้นเชิง

  • การถ่ายทอดทางพันธุกรรม: โรคแพ้ถั่ว มีความซับซ้อนกว่า G6PD ในเรื่องการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ปัจจุบันยังไม่มีการค้นพบยีนเฉพาะที่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่เชื่อว่ามีปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมร่วมกัน ส่งผลให้มีความเสี่ยงแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ไม่เหมือน G6PD ที่เชื่อมโยงกับการกลายพันธุ์บนโครโมโซม X โดยตรง

  • ข้อควรระวัง: ผู้ที่แพ้ถั่วควรหลีกเลี่ยงการรับประทานถั่วทุกชนิด และควรพกยาฉีดอะดรีนาลีน (EpiPen) ติดตัวไว้เสมอ เพื่อป้องกันภาวะช็อกจากการแพ้ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้ เพื่อรับคำแนะนำในการดูแลตนเองอย่างเหมาะสม

(ข้อมูล ณ ปี 2024)

ส่วนตัวผมเคยเห็นเพื่อนสนิทที่แพ้ถั่วอย่างรุนแรง แค่สัมผัสก็มีผื่นขึ้นแล้ว เลยเข้าใจถึงความสำคัญของการระวังอย่างยิ่ง โรคแพ้บางอย่างนี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะครับ มันเป็นเรื่องของชีวิตและความตายจริงๆ

โรคอะไรกินถั่วไม่ได้?

เอ้า! ถามงี้ก็ตอบตรงๆ เลยนะ คนที่เป็น G6PD (จีซิกซ์พีดี) น่ะแหละ กินถั่วปากอ้าแล้วซวย!

คือไอ้โรคเนี้ย มันเหมือนมี “บอดี้การ์ด” ประจำเม็ดเลือดแดงน้อยเกินไป พอเจอ “ผู้ร้าย” (อนุมูลอิสระจากถั่วปากอ้า) เข้าหน่อย เม็ดเลือดแดงก็แตกโพละ! กลายเป็นซีดซ้า โอย… ชีวิตเศร้า

  • เอนไซม์ G6PD: ไอ้ตัวเนี้ยสำคัญนะ เหมือนยันต์กันผีให้เม็ดเลือดแดง
  • ถั่วปากอ้า: ตัวร้ายกาจ! คนปกติกินอร่อย แต่คน G6PD กินแล้วเหมือนโดนของ!
  • เม็ดเลือดแดงแตก: ไม่ดี! เลือดจาง เหนื่อยง่าย หน้าซีด เหมือนผีดิบ!

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย (แต่สำคัญมาก!):

  • ไม่ใช่แค่ถั่วปากอ้า: จริงๆ แล้วพวกยาบางชนิด สารเคมีบางอย่าง ก็ตัวอันตรายเหมือนกันนะ
  • กรรมพันธุ์: ส่วนใหญ่สืบทอดมาจากพ่อแม่ (ซวยเลย!) แต่ก็มีบางคนที่โชคดี (รึเปล่า?) เกิดมาเป็นเอง
  • ไม่ใช่ทุกคนที่รู้ตัว: บางคนเป็นแต่ไม่รู้ กินถั่วปากอ้าเข้าไปก็…ซี้แหงแก๋! (อันนี้พูดเล่นนะ แต่อย่าประมาท!)

คำเตือน: ถ้าไม่แน่ใจ ไปตรวจเลือดซะ! อย่ารอให้ “แตก” แล้วค่อยรู้ตัว! (ไม่ใช่เรื่องตลกนะ!)

#ถั่วอันตราย #ห้ามกินถั่ว