ทำไงให้ปลาหายเค็ม

ทำยังไงให้หายเค็ม

โอ้โห! เค็มจัดจนต้องเรียกตำรวจเลยเหรอคะเนี่ย อย่าเพิ่งเครียดไปค่ะ ชีวิตมันสั้นเกินกว่าจะกินอาหารเค็มๆ จนหน้าบาน วิธีแก้มีอยู่!

• ข้าวสารเสกมนต์: ใช่ค่ะ! ข้าวสารนี่แหละพระเอกของเรา ไม่ใช่แค่เอาไว้หุงข้าวอย่างเดียวนะจ๊ะ เอาไปห่อผ้าขาวบาง แล้วแช่น้ำให้บานนิดหน่อย จากนั้นก็เอาไปจุ่มๆ ลงในแกงที่เค็มจัดของคุณ มันจะดูดซับความเค็มได้อย่างน่าอัศจรรย์ เหมือนแม่มดน้อยใช้เวทมนตร์เลยล่ะ

• เพิ่มความหวานเบาๆ: ถ้ายังเค็มอยู่ ลองเติมความหวานลงไปบ้าง แต่นะ อย่าหวานจนกลายเป็นแกงหวานนะ แค่พอช่วยลดความเค็มลงมา คิดซะว่าเป็นการสร้างความสมดุลในชีวิต เหมือนชีวิตคู่ที่ต้องมีทั้งหวานและเผ็ดนั่นแหละ (แต่แกงไม่ควรเผ็ดนะ เว้นแต่เป็นแกงเผ็ดอยู่แล้ว)

• มะนาวช่วยได้: บางที ความเปรี้ยวจะช่วยตัดความเค็มได้นะ ลองบีบมะนาวลงไปนิดหน่อยดู แต่ต้องระวัง อย่าให้เปรี้ยวจนหน้าเหวี่ยง ให้เปรี้ยวพอดีๆ เหมือนชีวิตที่ต้องมีทั้งความเปรี้ยวและความหวาน

• เพิ่มส่วนผสม: ถ้าเป็นไปได้ ลองเติมส่วนผสมอื่นๆ เช่น ผัก หรือเนื้อสัตว์ ลงไป เพื่อช่วยเจือจางความเค็ม แต่ถ้าเค็มจนเกินเยียวยา ทิ้งไปเลยก็ได้ อย่าฝืนกิน รักตัวเองเข้าไว้ ชีวิตเรามีค่ากว่านั้นค่ะ

ปีนี้ 2024 ยังคงใช้วิธีเดียวกันกับที่กล่าวมา แต่เพิ่มเติมคือ สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแก้ไขรสชาติอาหารได้ง่ายขึ้นผ่านอินเทอร์เน็ต มีคลิปสอนมากมาย ไม่ต้องมานั่งเสียใจกับแกงที่เค็มจนน้ำตาไหลแล้วค่ะ!

ปลาทูเค็มทำอะไรกินได้บ้าง?

ปลาทูเค็มนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและความพร้อมของวัตถุดิบ แต่โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถนำมาทำได้ดังนี้:

• เมนูทานเล่น/กับแกล้ม: ยำปลาทู (ตามที่คุณบันทึกไว้) ทอดกรอบกินเล่นกับข้าวสวยร้อนๆ หรือใช้เป็นส่วนประกอบของยำต่างๆ เช่น ยำมะม่วงปลาทู รสชาติจัดจ้านถึงใจ
• เมนูกับข้าว: นำไปต้ม แกงส้ม หรือผัดกับเครื่องแกงต่างๆได้ ได้รสชาติที่เข้มข้น กลมกล่อม
• เมนูอื่นๆ: ใช้เป็นส่วนผสมในน้ำพริก เช่น น้ำพริกปลาทู หรือใช้ปรุงรสชาติในอาหารอื่นๆ เพื่อเพิ่มความหอมและความเค็มที่เป็นเอกลักษณ์

ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566):

การเลือกปลาทูเค็มคุณภาพดี ควรเลือกปลาทูที่ตัวใหญ่ เนื้อแน่น ไม่เละ และไม่มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ ควรสังเกตความเค็มที่พอดี ไม่เค็มจัดเกินไป เพราะอาจทำให้เสียรสชาติอาหารได้ การเก็บรักษา ควรเก็บในที่แห้งและเย็น เพื่อคงความสดใหม่และรสชาติของปลาทูไว้ได้นาน

ปล. ส่วนตัวผมชอบทานปลาทูทอดราดน้ำปลา รสชาติแบบบ้านๆ แต่ได้อรรถรส บางครั้งก็ลองปรับเปลี่ยนสูตร เช่น ใช้ปลาทูเค็มทอดแล้วนำไปคลุกกับข้าวคั่ว ได้รสชาติที่แตกต่างไปอีกแบบ การทำอาหารเหมือนการทดลอง สนุกดีครับ

ใส่อะไรลดเค็ม?

ใส่ไรลดเค็มอ่ะ? งงๆ

• แกงจืด เค็มไป เติมน้ำเยอะๆเลย แล้วก็ใส่ผักเพิ่ม ผักช่วยได้เยอะนะ ผักอะไรก็ได้ แต่ถ้าเป็นพวกใบๆนี่ช่วยได้สุด จำได้ปีก่อนทำแกงจืดฟักทองเค็มมากกก เติมน้ำไปตั้งครึ่งหม้อเลย

• แกงกะทิ อืมมมม อย่างแกงมัสมั่นอะไรแบบนี้ ถ้าเค็มไป เติมกะทิเพิ่มสิ แล้วก็โรยน้ำตาลนิดหน่อย ปรับรสชาติไปเรื่อยๆอะ อย่าใส่มากเด๋ยวหวานไป

• แกงเปรี้ยว อันนี้ยากหน่อย ถ้าเค็มไป ก็คงต้องเติมน้ำ แล้วก็ลองชิมดูว่าจะปรุงอะไรเพิ่มได้อีกมั้ย บางทีอาจจะต้องเริ่มใหม่เลยนะ ปีที่แล้วทำแกงส้มเค็มมาก ทิ้งไปเลย เสียของ

ปล. ส่วนตัวชอบใส่ผักเยอะๆเวลาแกงเค็ม ช่วยได้จริงๆนะ ลองดู

ปรุง อาหาร เค็ม ไป แก้ ยัง ไง?

อาหารเค็มเกินเเก้ได้

• มันฝรั่ง: ดูดซับความเค็ม. ใส่ในหม้อขณะเคี่ยว เอาออกก่อนกิน.
• น้ำมะนาว: เปรี้ยวช่วยลดเค็ม. หยดทีละน้อย ชิม.
• น้ำตาล: หวานตัดเค็ม. นิดเดียวพอ.
• เพิ่มปริมาณ: ผัก เนื้อสัตว์. เจือจางความเข้มข้น.
• ข้าวสาร: ห่อผ้าขาวบาง ใส่เเกง. ดูดเค็ม (วิธีเเบบดั้งเดิม).

ข้อมูลเสริม:

• เกลือเเต่ละชนิดเค็มไม่เท่ากัน. เกลือทะเลอาจเค็มน้อยกว่าเกลือสินเธาว์.
• ความเค็มลดลงได้ด้วยไขมัน. กะทิช่วยเเกงเผ็ด.
• บางครั้งความเค็มมาจากผงชูรส. ลองลดปริมาณ.
• ผมไม่ชอบอาหารเค็มจัด. มันทำลายรสชาติอื่น.
• “ชีวิตก็เหมือนอาหาร บางทีก็เค็มไปหน่อย”. (คำคมจากยาย)
• หากเเกงเค็มมาก ทิ้งเถอะ. เริ่มใหม่ดีกว่า. เสียเวลาน้อยกว่าเเก้ไข.

ทํากับข้าวเค็ม แก้ยังไง?

ทำกับข้าวเค็ม แก้ยังไงเหรอ… บางทีชีวิตก็เหมือนอาหารที่เค็มเกินไปนะ… ต้องเติมอะไรลงไปบ้าง…

• แกงจืด: ถ้ามันเค็มไป… ก็เหมือนชีวิตที่หนักเกินไป… เติมน้ำเปล่าลงไป… เหมือนการปล่อยวาง… แล้วก็ใส่ผักเยอะ ๆ นะ… ผักมันเหมือนความหวัง… มันจะช่วยดึงรสชาติอื่น ๆ ขึ้นมา… ทำให้ทุกอย่างมันเบาลง

• แกงกะทิ: ถ้าแกงกะทิมันเค็มเกินไป… เหมือนความสัมพันธ์ที่มันขมเกินไป… ต้องเติมกะทิลงไป… เพิ่มความหวาน… เหมือนการให้อภัย… แล้วก็เติมน้ำตาลนิดหน่อย… เหมือนการให้โอกาสตัวเองอีกครั้ง

• แกงเปรี้ยว: (อันนี้ยังคิดไม่ออกเลยแฮะ… ชีวิตที่มีรสเปรี้ยว… คงต้องเติมอะไรที่มันหวาน ๆ มั้ง… แต่ตอนนี้ยังนึกไม่ออกจริง ๆ ขอโทษทีนะ)

บางทีการแก้ปัญหาอาหารเค็ม… มันก็เหมือนการแก้ปัญหาชีวิต… ต้องค่อย ๆ เติม… ค่อย ๆ ปรุง… จนกว่ามันจะลงตัว… ไม่รู้สิ… แค่คิดไปเรื่อยเปื่อย…

เพิ่มเติม:

• ทำไมต้องผักในแกงจืด: ผักมันไม่ได้แค่มีน้ำนะ… มันมีรสชาติของมันเองด้วย… รสชาติที่มันจะช่วยดึงความเค็มให้เบาลง… เหมือนคนที่เข้ามาในชีวิตเรา… แล้วทำให้เราดีขึ้น

• ทำไมต้องกะทิกับน้ำตาล: กะทิมันมีความมัน… ความนวล… มันจะช่วยให้รสชาติมันกลมกล่อมขึ้น… น้ำตาลก็เหมือนกัน… มันจะช่วยตัดรสเค็ม… ทำให้ทุกอย่างมันบาลานซ์

• เรื่องแกงเปรี้ยว: จริง ๆ แล้ว… แกงเปรี้ยวถ้าเค็ม… อาจจะต้องเติมน้ำผึ้ง… หรืออะไรที่มันหอม ๆ หวาน ๆ… เหมือนการหาความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ในวันที่ชีวิตมันเปรี้ยวเกินไป

หวังว่ามันจะช่วยได้นะ… ถึงมันอาจจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยก็เถอะ… กลางคืนมันก็แบบนี้แหละเนอะ… คิดอะไรเรื่อยเปื่อย…

น้ำพริกเค็มตัดด้วยอะไร?

น้ำพริกเค็มที่แม่ทำ ปีนี้ปี 2566 เผ็ดจัง! กินกับปลาทูทอดร้อนๆที่ตลาดนัดแถวบ้าน ตอนเย็นวันที่ 15 กรกฎาคม แดดร้อนมาก เหงื่อแตกพลั่กๆ กินไปสองคำ น้ำตาไหลพราก เค็มจัด เผ็ดสะใจ แต่แอบแสบลิ้นนิดๆ รีบคว้ามะนาวลูกเล็กๆที่ซื้อมาจากร้านข้างๆบ้าน บีบลงไป โอ้โห! ดีงาม เปรี้ยวตัดเค็มได้ดีมาก สดชื่นขึ้นเยอะเลย รสชาติกลมกล่อมขึ้น ไม่แสบลิ้นแล้ว แฮปปี้!

• เหตุการณ์ : กินน้ำพริกเค็มกับปลาทูทอด
• วันเวลา : 15 กรกฎาคม 2566
• สถานที่ : บ้าน
• ปัญหา : น้ำพริกเค็มจัดเกินไป
• วิธีแก้ : บีบมะนาว
• ผลลัพธ์ : รสชาติกลมกล่อมขึ้น ไม่เผ็ดและเค็มจัดเกินไป
• ความรู้สึก : สดชื่น ดีใจ รสชาติอร่อยขึ้น

เมื่อทานอาหารรสเค็มจัดจะกระตุ้นให้หลั่งสารใด?

การบริโภคอาหารเค็มจัดจะกระตุ้นการหลั่งโดปามีน สารสื่อประสาทในสมองที่เกี่ยวข้องกับความสุขและความพึงพอใจ กลไกนี้คล้ายกับการเสพติด เพราะโดปามีนจะถูกปล่อยออกมาเมื่อเรารับรสเค็ม ทำให้เกิดความรู้สึกอยากอาหารและความสุข ถ้าขาดรสเค็ม เราอาจรู้สึกหงุดหงิด อารมณ์เสีย แม้แต่การนึกถึงอาหารเค็มก็ยังกระตุ้นความอยากได้

• โดปามีน: เป็นสารหลักที่เกี่ยวข้อง การศึกษาในปี 2566 ยืนยันบทบาทของโดปามีนในการตอบสนองต่อรสชาติเค็ม และการเสพติดรสชาติ ซึ่งนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปฏิกิริยาที่ซับซ้อนกว่านั้น

• ความอยากอาหาร: รสเค็มกระตุ้นความอยากอาหารอย่างชัดเจน นี่เป็นเหตุผลที่อาหารแปรรูปหลายอย่างมักมีรสเค็มจัด

• อารมณ์และความเครียด: การขาดรสเค็มอาจส่งผลต่ออารมณ์ ทำให้เกิดความหงุดหงิด หรือแม้แต่ความเครียด นี่เป็นอีกด้านหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่ารสเค็มไม่ได้แค่เรื่องรสชาติ แต่กระทบต่อสมดุลทางจิตวิทยาด้วย

  เอาจริงๆ นะ มันน่าสนใจมากเลยที่ร่างกายเราตอบสนองต่อรสชาติได้ซับซ้อนขนาดนี้ เหมือนกับมีกลไกที่ซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังความอร่อยที่เราสัมผัส ผมว่าเรื่องนี้ยังมีอะไรให้ศึกษาอีกเยอะเลย

(ข้อมูลเพิ่มเติม ผมเคยอ่านงานวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของเกลือต่อความดันโลหิต น่าสนใจไม่แพ้กัน แต่คงไม่ลงรายละเอียดตรงนี้ละกัน)

ทําไมกินอะไรก็เค็มไปหมด?

ทำไมกินอะไรก็เค็มไปหมดเหรอ… มันเป็นคำถามที่วนเวียนในหัวเหมือนกันนะ บางทีมันก็ไม่ได้อยู่ที่อาหาร แต่อยู่ที่ตัวเราเองรึเปล่า

• ปริมาณโซเดียมที่ร่างกายต้องการ: ร่างกายเรามันก็ต้องการเกลือแร่นะ โซเดียมเนี่ยสำคัญ แต่ถ้ามันมากเกินไป ก็เริ่มรู้สึกว่าอะไรๆ ก็เค็มไปหมด
• ร่างกายขาดน้ำ: พอน้ำในตัวน้อยลง ความเข้มข้นของโซเดียมมันก็สูงขึ้น ทำให้รู้สึกกระหายเค็ม อยากกินอะไรที่มันเค็มๆ เพื่อชดเชย
• กระหายอาหารหลังออกกำลังกาย: เหงื่อมันออกไปเยอะ พวกเกลือแร่ก็หายไปด้วย ร่างกายมันเลยเรียกร้องหาอะไรที่มันเค็มๆ มาเติมเต็ม
• ขาดแร่ธาตุ: ไม่ใช่แค่โซเดียมนะ แร่ธาตุอื่นๆ อย่างโพแทสเซียม แมกนีเซียม ถ้ามันไม่สมดุล ร่างกายมันก็อาจจะส่งสัญญาณแปลกๆ ออกมา
• โรคแอดดิสัน: อันนี้อาจจะดูน่ากลัว แต่ก็เป็นไปได้เหมือนกัน มันเป็นภาวะที่ต่อมหมวกไตผลิตฮอร์โมนได้ไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายสูญเสียโซเดียมมากเกินไป
• ติดเกลือ: อันนี้ตรงไปตรงมา กินเค็มบ่อยๆ ลิ้นมันก็ชิน พอไม่เค็มก็รู้สึกว่าจืดชืดไปหมด

บางทีมันก็เป็นเรื่องของความเคยชินนะ เรากินอะไรที่มันปรุงแต่งเยอะเกินไปรึเปล่า พวกอาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูป พวกนี้มันใส่เกลือเยอะมาก แล้วเราก็ไม่รู้ตัว

แล้วทำไมเราถึงต้องมากินอะไรที่มันปรุงแต่งขนาดนั้น…

ข้อมูลเพิ่มเติม

จริงๆ แล้วร่างกายเราต้องการโซเดียมแค่ประมาณ 2,300 มิลลิกรัมต่อวันเท่านั้นเองนะ เทียบเท่ากับเกลือประมาณ 1 ช้อนชา แต่คนส่วนใหญ่มักจะกินเกินกว่านั้นเยอะมาก