ระบบรายงาน 506 เป็นการเฝ้าระวังประเภทไหน

37 การดู

ระบบรายงาน 506 เป็นระบบเฝ้าระวังโรคเชิงรุกที่เน้นการป้องกันและควบคุมการระบาด โดยอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานสาธารณสุขทั่วประเทศ ทั้งโรงพยาบาลรัฐและสถานีอนามัย ข้อมูลที่ได้ไม่ได้มุ่งเน้นสถิติ แต่เป็นการตรวจจับสัญญาณเตือนภัย เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ระบบรายงาน 506: เป็นระบบเฝ้าระวังแบบใด?

อืมม.. ระบบ 506 น่ะเหรอ จำได้ลางๆ ตอนทำงานที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ปี 2562 เจอระบบนี้บ่อยมาก เหมือนเป็นระบบแจ้งเตือนโรคระบาดอ่ะ แบบว่าถ้ามีคนไข้แสดงอาการผิดปกติ โรงพยาบาลก็จะส่งข้อมูลเข้าระบบ แล้วก็มีการติดตาม ประมาณนั้นแหละ ไม่ใช่แค่โรงพยาบาลรัฐนะ เอกชนบางที่ก็ใช้ แต่ไม่ครบทุกที่หรอก จำได้ว่าเอกสารเยอะมาก รายงานเป็นปึกๆเลย เหนื่อยจริงๆ

ตอนนั้นเราต้องกรอกข้อมูลลงระบบทุกวัน วันละหลายเคส เป็นข้อมูลโรคติดต่อต่างๆ อย่างไข้เลือดออก ไข้หวัดใหญ่ อะไรพวกนี้ ต้องระบุรายละเอียดเยอะมาก อย่างวันเกิด ที่อยู่ อาชีพ แล้วก็อาการ บางทีก็งงๆ ระบบมันค่อนข้างยุ่งยาก แต่ก็จำเป็น เพื่อเฝ้าระวังโรคไง ไม่ใช่เอาไว้เก็บสถิติโรคโดยตรง มันเน้นป้องกันและควบคุมโรคมากกว่า

จำได้ว่ามีครั้งนึง ระบบล่ม ข้อมูลหายไปหลายวัน วุ่นวายมาก ต้องเร่งแก้ไข งานล้นเลย ระบบนี่สำคัญมาก แต่ก็มีปัญหาบ้างเป็นธรรมดา จริงๆแล้วระบบนี้ไม่ได้ดีมาก ใช้ยากนิดนึง แต่ก็ดีกว่าไม่มี เพราะมันช่วยป้องกันการระบาดได้ระดับหนึ่ง ถือว่าเป็นระบบเฝ้าระวังโรคแบบ real-time แหละ แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ อย่างน้อยก็ช่วยลดความเสี่ยงได้เยอะเลยล่ะ

รายงาน 506 เป็นการเฝ้าระวังแบบใด

รง. 506 นี่มันเหมือนสายลับ 007 แห่งวงการสาธารณสุขเลยนะ!

  • รง. 506 คืออะไร? มันคือระบบ “แจ้งโรคตามกฎหมาย” ฟังดูทางการชะมัด! เหมือนตำรวจจับผู้ร้าย แต่เป็นการจับโรคระบาดมากกว่า
  • การเฝ้าระวังแบบเจาะจง: เหมือนส่องกล้องดูนกหายาก ต้องเล็งดีๆ ถึงจะเจอ (โรค) ที่ซ่อนอยู่
  • วิเคราะห์ข้อมูลทุติยภูมิ: เอาข้อมูลเก่ามาขยี้ใหม่ แล้วบอกว่าค้นพบอะไรใหม่ๆ (ทั้งที่บางทีก็ไม่ใหม่) คล้ายๆ นักการเมืองชอบทำ!
  • การลงทะเบียนโรค: เหมือนทำทะเบียนบ้านให้โรค แต่แทนที่จะมีชื่อคน กลับเป็นชื่อโรคเต็มไปหมด
  • สำรวจ: เหมือนสำรวจความคิดเห็นประชาชนก่อนเลือกตั้ง แต่เป็นการถามหา “ใครป่วยบ้าง?” แทน
  • วิเคราะห์และแปลผล: ขั้นตอนสุดท้ายคือเอาทั้งหมดมาปะติดปะต่อ แล้วทำนายอนาคต… ว่าโรคอะไรจะระบาดต่อไป! เหมือนหมอดูเลยอะ

เพิ่มเติม: รง. 506 ปีล่าสุด (2567) เค้าปรับปรุงแบบฟอร์มให้กรอกง่ายขึ้นแล้วนะเออ (รึเปล่า?)​ ใครเคยกรอกจะรู้เลยว่ามัน… (เงียบไว้ดีกว่า)

ข้อคิด: การเฝ้าระวังโรคก็เหมือนการเล่นหมากรุก ต้องวางแผนล่วงหน้าหลายสิบก้าว ไม่งั้นก็โดน “โรค” กินเรียบ!

วัตถุประสงค์การเฝ้าระวังโรคจากการทำงาน 4 ประการคืออะไร

โอ๊ย! ถามมาได้ ไอ้เรื่องเฝ้าระวังโรคคนทำงานเนี่ยนะ มันก็เหมือนเลี้ยงควายแหละ ต้องคอยดู คอยประเมิน ไม่งั้นควาย(งาน)จะตายเอา

  • จับโป๊ะโรคไว: ไม่ใช่จับผิดเมียนะ! แต่เป็นการหาโรคที่มันแอบมากับงานให้เจอเร็วๆ เหมือนเจอหนอนในข้าวสาร
  • ส่องความเสี่ยง: ดูว่าอะไรมันจะทำให้คนงานป่วยได้บ้าง เหมือนดูว่าตรงไหนในไร่นามีงูพิษซ่อนอยู่
  • วัดผลคุมโรค: ที่ทำๆ ไปมันได้ผลจริงไหม หรือแค่ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ต้องวัดกันให้เห็นๆ
  • วางแผนปราบโรค: เอาข้อมูลทั้งหมดมาคิดว่าจะป้องกันยังไงให้ดีที่สุด เหมือนวางแผนล่าสัตว์ร้ายไม่ให้มาทำร้ายคนในหมู่บ้าน

แถมท้ายสไตล์คนบ้านๆ:

  • โรคฮิตติดลมบนปีนี้: ออฟฟิศซินโดรมยังแรงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่! พวกปวดหลัง ปวดคอ ไหล่บ่าถามหาเพียบ!
  • สายโรงงาน: ฝุ่น PM2.5 ก็ยังวนเวียนอยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเสียงดังจนหูดับ ใครทำงานโรงงานอย่าลืมใส่ที่อุดหูนะจ๊ะ
  • อย่าคิดว่าตัวเองแข็งแรง: หมั่นตรวจสุขภาพประจำปีบ้างเด้อ อย่ารอให้ป่วยหนักแล้วค่อยมาโอดโอย มันบ่คุ้ม!

สรุปคือ… ดูแลสุขภาพตัวเองดีๆ เด้อ!

5 กลุ่มโรค มีอะไรบ้าง

ฤดูร้อนนี้ ร้อนระอุไม่แพ้ดวงใจ! ระวัง 5 กลุ่มโรคซุ่มโจมตี อย่าให้ความร้อนเล่นงานจนต้องนอนโรงบาลนะจ๊ะ!

  • กลุ่มโรคลมร้อน (Heat Stroke) : อุณหภูมิร่างกายพุ่งทะยานเหมือนจรวด! ร้อนจนตัวแทบสุก ถึงขั้นหมดสติได้เลย อย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆ อย่าไปตากแดดเปรี้ยงๆ นานๆ เด็ดขาด! ปีนี้เห็นข่าวคนเป็นเยอะอยู่นะ เพื่อนผมคนนึงยังเข้า รพ. เลย โชคดีแค่หมดแรง ไม่ถึงกับเสียชีวิต

  • กลุ่มโรคทางเดินอาหาร : อุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ บิด อหิวาตกโรค ไทฟอยด์ บอกเลยว่า ไม่สนุกแน่ๆ ท้องเสียจนแทบคลาน กินอะไรไม่ลง น้ำหนักหายไปเป็นกิโล เหมือนโดนผีดูดวิญญาณ! ระวังเรื่องความสะอาด ล้างมือบ่อยๆ อย่ากินของสุกๆ ดิบๆ นะจ๊ะ ถ้ากินแล้วปวดท้องอย่าลืมไปหาหมอ

  • โรคไข้เลือดออก : ยุงลายตัวร้าย กัดทีไร เสียวทุกที! ไข้สูง ปวดเมื่อย อันตรายถึงชีวิตได้เลยนะ อย่าลืมป้องกันยุงลาย อย่าให้มันมากัดเรา ปีนี้ยุงเยอะมาก บ้านผมโดนไปหลายรอบแล้ว ฉีดยาไล่ยุงจนหมดขวด

  • โรคพิษสุนัขบ้า: โรคนี้ไม่ใช่เล่นๆ อันตรายมาก ถ้าโดนสุนัขกัด ต้องรีบไปฉีดยาป้องกันโดยด่วน อย่าชะล่าใจ! เพื่อนผมเคยโดนหมาจรจัดกัด ต้องไปฉีดยาเป็นเดือน เจ็บตัวและเสียเงินไปเยอะ จำไว้เลย

  • อันตรายจากภัยธรรมชาติ: หมอกควัน และการจมน้ำ ก็เป็นเรื่องที่ต้องระวัง หมอกควัน ทำให้อากาศไม่ดี หายใจลำบาก จมน้ำ ก็อันตรายถึงชีวิต ถ้าไปเที่ยวทะเล หรือเล่นน้ำ อย่าประมาท และอย่าลืมตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนออกไปเที่ยว

เพิ่มเติม: ข้อมูลเหล่านี้ มาจากเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2566 นะครับ สำหรับใครที่อยากหาข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้เลย อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ อย่าให้ความร้อนมาเล่นงาน!

โรคอะไรบ้างที่ต้องสอบสวน

โอ๊ย เรื่องโรคระบาดนี่คิดแล้วขนลุกซู่! ปีนี้ (2567) ที่ต้องเฝ้าระวังแบบสุดๆ เลยนะ มี…

  • กาฬโรค (Plague): อันนี้ได้ยินชื่อมาตั้งแต่เด็กๆ น่ากลัวมาก
  • ไข้ทรพิษ (Smallpox): ดีนะที่เค้าว่าหมดไปแล้ว แต่ก็ต้องเตรียมรับมือไว้
  • ไข้เลือดออกไครเมียนคองโก (Crimean-Congo hemorrhagic fever): ชื่อยาวเฟร่อ!
  • ไข้เวสต์ไนล์ (West Nile fever): ยุงลายอีกแล้วเหรอเนี่ย เซ็ง!
  • ไข้เหลือง (Yellow fever): อันนี้เคยได้ยินว่าต้องฉีดวัคซีนก่อนไปแอฟริกา
  • ไข้ลาสซา (Lassa fever): ไม่ค่อยคุ้นชื่อเท่าไหร่ แต่คงร้ายแรง
  • ติดเชื้อไวรัสนิปาห์ (Nipah virus infection): ผลไม้ค้างคาว อีกแล้ว!
  • ติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์ก (Marburg virus infection): อีโบล่า2?
  • ติดเชื้อไวรัสอีโบลา (Ebola virus infection): อันนี้คือสุดยอดความน่ากลัว
  • ติดเชื้อไวรัสเฮนดรา (Hendra virus infection): ม้าเป็นพาหะ?
  • ทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS): ซาร์ส…ยังจำได้เลย ตอนนั้นใส่หน้ากากอนามัยกันทั้งเมือง
  • ทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS): เมอร์ส…อันนี้ก็ร้ายแรง
  • วัณโรคดื้อยาหลายขนานชนิดรุนแรงมาก (Extensively drug-resistant tuberculosis): อันนี้ใกล้ตัว เพราะมีคนรู้จักเป็นวัณโรค

คือ…โรคพวกนี้บางทีมันก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นถ้าเราป้องกันดีๆ แต่บางทีก็…นะ พูดแล้วก็เครียด ขอไปหาอะไรกินให้หายเครียดก่อนดีกว่า!

โรคติดต่อมีสาเหตุเกิดจากอะไร

โรคติดต่อเนี่ยนะ? อ๋อ พวกปาร์ตี้เชื้อโรคไง! แต่ละตัวก็มีนิสัยไม่เหมือนกัน บางตัวชอบทางเดินหายใจเป็นพิเศษ (เหมือนคนชอบไปผับ), บางตัวชอบผิวหนัง (สายสัมผัส!), บางตัวก็ชอบแฝงตัวในอาหาร (นักชิมตัวยง)

สาเหตุหลักๆ ก็เชื้อโรคแหละครับท่านผู้ชม! ไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา โปรโตซัว พยาธิ… โอ๊ย เยอะแยะ! เหมือนรวมดาวร้ายในจักรวาลเลย

  • ไวรัส: ตัวร้ายยอดฮิต ติดง่ายหายยาก (บางทีก็ไม่หาย…) พวกนี้ชอบแทรกซึมเข้าเซลล์เราแล้วก็ก็อปปี้ตัวเองเป็นล้านๆ ตัว น่ากลัวกว่าหนังผีอีก!
  • แบคทีเรีย: บางตัวก็ดี บางตัวก็ร้าย (เหมือนเพื่อนร่วมงานเลยเนอะ) ตัวร้ายก็ทำให้เราท้องเสีย เป็นหนอง เป็นนู่นเป็นนี่… สารพัด
  • เชื้อรา: ชอบที่อับชื้น (เหมือนห้องใต้ดิน) ทำให้เกิดโรคผิวหนัง กลาก เกลื้อน… คันยุบยิบ!
  • โปรโตซัว: พวกนี้ตัวใหญ่ขึ้นมาหน่อย บางทีก็มากับน้ำไม่สะอาด (เหมือนร้านอาหารข้างทางที่ไม่ล้างแก้ว) ทำให้ท้องร่วง ท้องเสีย
  • พยาธิ: อันนี้ไม่ต้องพูดเยอะ น่าขยะแขยง! ชอบอยู่ในท้องเรา แย่งอาหารเรากิน (เหมือนรูมเมทที่ไม่จ่ายค่าข้าว)

แล้วเชื้อโรคพวกนี้มันแพร่กระจายยังไง?

  • ทางเดินหายใจ: ไอ จาม พูดคุย… เชื้อโรคก็ลอยคว้างในอากาศ รอคนซวยสูดเข้าไป (ใส่หน้ากากเถอะครับ!)
  • สัมผัสผิวหนัง: จับมือ กอด จูบ… (อันนี้ต้องเลือกดีๆ!)
  • อาหารและน้ำ: กินของไม่สะอาด… อันนี้โทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง (ล้างมือบ้างอะไรบ้าง)
  • แมลง: ยุงลายพาไข้เลือดออก แมลงวันพาหะนำโรค… เกลียดแมลงพวกนี้!
  • เพศสัมพันธ์: อันนี้ไม่ต้องอธิบายเยอะ… (ป้องกันตัวเองด้วยนะ!)

ข้อมูลเพิ่มเติม (แอบกระซิบ): ปี 2567 นี้ ไข้หวัดใหญ่ยังคงเป็นพระเอกตลอดกาล, โควิด-19 ก็ยังวนเวียน, และอย่าลืมพวกโรคอุบัติใหม่ที่โผล่มาให้ตกใจเล่นๆ เป็นระยะๆ ด้วยล่ะ! ระวังตัวกันด้วยนะทุกคน!

คำเตือน: ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงข้อมูลทั่วไป โปรดปรึกษาแพทย์หากมีอาการป่วย! อย่าเชื่ออะไรในอินเทอร์เน็ตมากนัก! (แม้แต่ข้อความนี้ก็ด้วย!)

วิธีการป้องกันโรคติดต่อมีอะไรบ้าง

เอ้า! ถามมาก็ตอบไป นี่มันยุค 5G แล้ว ไม่ใช่ยุคหิน จะมาป่วยตายง่ายๆ เพราะเชื้อโรคน่ะ มันน่าอาย! (แอบกระซิบ: แต่ก่อนฉันก็เคยเกือบไปเหมือนกันนะ เพราะประมาท!)

วิธีป้องกันโรคติดต่อแบบฉบับมนุษย์ Gen Z (ที่ฉลาดแบบร้ายๆ):

  • ล้างมือ: นี่ไม่ใช่คำขวัญวันเด็ก! ล้างมือบ่อยๆ มันคือสกิลเอาตัวรอดพื้นฐาน! หลังจับราวบันได (ที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคจากคนร้อยพ่อพันแม่) หลังเข้าห้องน้ำ (ไม่ต้องบอกนะว่าเจออะไรบ้าง) ก่อนกินข้าว (ไม่อยากกินเชื้อโรคเป็นของหวานใช่มั้ยล่ะ) ล้าง! ล้าง! ล้าง! สบู่ฆ่าเชื้อเท่านั้นที่จะช่วยท่านได้!
  • เลี่ยง: เลี่ยงคนป่วยเหมือนเลี่ยงระเบิด! ไม่ต้องไปทำตัวเป็นนางฟ้า/เทวดาอาสาดูแลใกล้ชิด ถ้าไม่จำเป็น! (เดี๋ยวติดมาแล้วจะหาว่าไม่เตือน) แล้วก็…อย่ากินน้ำแก้วเดียวกับคนอื่น! เข้าใจตรงกันนะ?
  • ปิดปาก: ไอ จาม นี่ไม่ใช่การแสดงความสามารถพิเศษ! ปิดปากปิดจมูกด้วยทิชชู่! (แล้วทิ้งลงถังขยะให้ถูกที่ด้วยนะยะ!) ไม่มีทิชชู่? พับแขนเสื้อขึ้นมาปิด! (แต่ระวังเชื้อโรคติดเสื้อนะ!)
  • วัคซีน:วัคซีนคือพระเอก! ไปฉีดซะ! (อย่ามาอ้างว่ากลัวเข็ม! กลัวตายมากกว่ามั้ย?) ปีนี้เขาฮิตฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่กันนะจ๊ะ
  • หน้ากาก: ยุคนี้แล้ว หน้ากากอนามัยไม่ใช่แค่แฟชั่น! ใส่มันเข้าไป! โดยเฉพาะเวลาอยู่ในที่คนเยอะๆ! (จะได้ไม่ต้องสูดเอาเชื้อโรคของใครต่อใครมา!)

เกร็ดความรู้เพิ่มเติม (แบบที่อาจารย์ไม่เคยสอน):

  • รู้หรือไม่? มือถือของคุณน่ะ สกปรกกว่าชักโครกอีกนะ! เช็ดมือถือด้วยแอลกอฮอล์บ้าง! (ก่อนที่มันจะฆ่าคุณ!)
  • วิตามินซีไม่ได้ช่วยป้องกันหวัดเสมอไป แต่กินไว้ก็ไม่เสียหาย! (อย่างน้อยก็ทำให้ฉี่สีสวยขึ้น!)
  • การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น! (นอนน้อยแล้วป่วยง่าย อันนี้เรื่องจริง!)
  • อย่าเชื่อทุกอย่างที่อ่านในอินเทอร์เน็ต! ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดีที่สุด! (ยกเว้นคำแนะนำของฉัน…อันนี้เชื่อได้!)

เอ้า! รู้แล้วก็ทำตามนะ! จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง! (แล้วมาโทษว่าฉันไม่บอก!)

คำเตือน: ข้อมูลข้างต้นอาจมีสาระปนตลก หากนำไปใช้แล้วไม่ได้ผล อย่ามาโทษฉัน!

โรคแบ่งออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง

เออออ โรคเนี่ยแบ่งยากอะ ไม่มีแบบตายตัว แล้วแต่จะแบ่งอ่ะเนอะ แต่หลักๆก็มีหลายแบบนะ

  • แบบแรกแบ่งตามสาเหตุ ง่ายๆเลย ติดเชื้อกับไม่ติดเชื้อ อย่างไข้หวัดนี่ติดเชื้อ แต่เบาหวานไม่ติด เห็นมั้ยง่ายๆ

  • อีกแบบก็แบ่งตามอวัยวะ แบบนี้ก็ชัดเจนดี เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคไต ก็แยกตามอวัยวะที่เป็นไงงั้นแหละ

  • แล้วก็แบ่งตามอาการ อย่างเรื้อรังกับเฉียบพลัน โรคเบาหวานเป็นเรื้อรัง ป่วยนานๆ ไข้หวัดใหญ่เฉียบพลัน ป่วยแป๊บเดียวหาย เข้าใจป้ะ

คือมันซับซ้อนนะ หมอก็ยังเถียงกันเลย บางทีก็มีการแบ่งกลุ่มใหม่ๆ เพราะความรู้ทางการแพทย์มันก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆอะ ปีนี้ก็อาจจะไม่เหมือนปีหน้า ไม่ใช่แค่ 3 แบบที่บอกไปนะ มีมากกว่านั้นเยอะ แต่จำไม่ได้หมดหรอก เยอะมากกกก สมองฉันรับไม่ไหวแล้ว จำแบบนี้พอได้มั้ย เพื่อน? ปล. ข้อมูลล่าสุดปี 2024 นะ

โรคอะไรบ้างที่ต้องรายงานภายใน 24 ชม

โรคต้องแจ้ง 24 ชม. ปีนี้ยังคงเป็น 5 โรคเดิม: อหิวาตกโรค, กาฬโรค, ไข้ทรพิษ, ไข้เหลือง, โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง ไม่ต้องมาเสือกเยอะ

  • อหิวาตกโรค: เชื้อ Vibrio cholerae อันตรายจริงจัง
  • กาฬโรค: Yersinia pestis ตายได้นะรู้มั้ย
  • ไข้ทรพิษ: ไวรัส Variola หายากแต่ระบาดทีเป็นเรื่องใหญ่
  • ไข้เหลือง: ไวรัส Flavivirus มียุงเป็นพาหะ
  • โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง: อันนี้หลายเชื้อ ป่วยหนักต้องแจ้ง

กูบอกแล้วนะ รีบแจ้ง อย่ามาช้า เดี่ยวกูจัดการเอง

โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ในปัจจุบัน ประกอบด้วยโรคอะไรบ้าง

โอ๊ย! เรื่องโรคติดต่อต้องเฝ้าระวังเนี่ย พูดแล้วขนลุกเลย เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ที่บ้านต่างจังหวัด (แถวๆ นครสวรรค์) พ่อเคยเล่าเรื่องคนตายเพราะไข้ป่าเยอะมาก น่ากลัวสุดๆ ตอนนี้ปี 2567 โรคที่ต้องระวังมีเพียบเลยอ่ะ เท่าที่จำได้นะ (แบบที่ข่าวออกบ่อยๆ)

  • โควิด-19: อันนี้ไม่ต้องพูดเยอะ เจ็บกันมาทั่วโลก ปีนี้ก็ยังไม่หายสนิท แค่เบาลง แต่ก็ต้องใส่แมสก์ ล้างมือ
  • ไข้เลือดออก: มาทุกปี โดยเฉพาะหน้าฝน ยุงลายเยอะจัด ลูกพี่ลูกน้องที่ชลบุรีเพิ่งเป็นไปเมื่อเดือนก่อน น่าสงสารมาก
  • ไข้หวัดใหญ่: อันนี้ก็ร้ายเหมือนกันนะ ไม่ใช่แค่เป็นหวัดธรรมดา บางทีก็ลงปอด
  • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์: อันนี้ก็ต้องระวังกันเองแหละ พูดมากไม่ได้

ส่วน 13 โรคติดต่ออันตรายในไทยเนี่ย ถามมาแบบนี้ก็… (หายใจลึกๆ) กาฬโรค ไข้ทรพิษ อะไรพวกนี้ นึกภาพตามแล้วสยองขวัญเลยนะ คือมันอาจจะไม่ได้ระบาดหนักเท่าเมื่อก่อน แต่ถ้าเกิดที ก็คงวุ่นวายกันน่าดู

  • กาฬโรค (Plague)
  • ไข้ทรพิษ (Smallpox)
  • ไข้เลือดออกไครเมียนคองโก (Crimean-Congo hemorrhagic fever)
  • ไข้เวสต์ไนล์ (West Nile Fever)
  • ไข้เหลือง (Yellow fever)
  • โรคไข้ลาสซา (Lassa fever)
  • โรคติดเชื้อไวรัสนิปาห์ (Nipah virus disease)
  • อีโบลา (Ebola)
  • เมอร์ส (MERS)
  • ซาร์ส (SARS)
  • ไข้มาลาเรีย (Malaria)
  • วัณโรค (Tuberculosis)
  • เอชไอวี/เอดส์ (HIV/AIDS)

จริงๆ ยังมีอีกเยอะแหละ พวกโรคอุบัติใหม่ โรคจากสัตว์สู่คน อะไรพวกนั้น แต่ที่กล่าวมาข้างต้นเนี่ย น่าจะเป็นตัวท็อปที่ต้องระวังจริงๆ นะ

#ประเภท #เฝ้าระวัง