แสงจากโทรศัพท์ทำให้เกิดฝ้าได้ไหม

แสงมือถือตัวการเร่งฝ้า: จริงหรือมั่ว?

หลายคนเชื่อว่าแสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ แต่รู้หรือไม่ว่าแสงสีฟ้าจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ก็อาจเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดปัญหาผิวเหล่านี้ได้เช่นกัน แม้จะไม่ได้รุนแรงเท่าแสงแดดก็ตาม

แสงสีฟ้าหรือที่เรียกว่า High Energy Visible Light (HEV) มีพลังงานสูงกว่าแสงสีอื่นๆในสเปกตรัมที่มองเห็นได้ แม้จะไม่ทำให้ผิวไหม้เกรียมเหมือนรังสียูวี แต่การสัมผัสแสงสีฟ้าเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในระยะใกล้มากๆ อย่างการจ้องหน้าจอมือถือ สามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีงานวิจัยบางชิ้นที่บ่งชี้ว่าแสงสีฟ้าอาจทำให้เกิดความเครียดออกซิเดชันในผิวหนัง ส่งผลให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยและผิวดูหมองคล้ำได้

แม้ปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดถึงผลกระทบของแสงสีฟ้าต่อการเกิดฝ้า แต่เพื่อความไม่ประมาท เราควรป้องกันไว้ก่อน ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้

• จำกัดเวลาการใช้หน้าจอ: พยายามพักสายตาจากหน้าจอทุกๆ 20 นาที โดยมองไปยังวัตถุที่อยู่ไกลประมาณ 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที (หลัก 20-20-20)
• ปรับความสว่างหน้าจอ: ลดความสว่างหน้าจอลงในระดับที่สบายตา โดยเฉพาะในที่แสงน้อย
• ใช้ฟิลเตอร์กรองแสงสีฟ้า: ติดฟิล์มกรองแสงสีฟ้าที่หน้าจอโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ หรือเปิดใช้งานโหมดถนอมสายตาที่มีในตัวเครื่อง
• ทาครีมกันแดด: เลือกครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติป้องกันทั้งรังสียูวีและแสงสีฟ้า ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันแม้ไม่ได้ออกแดดจัดก็ตาม
• บำรุงผิวด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ: เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินอี เพื่อช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากแสงสีฟ้า

แม้แสงสีฟ้าจากหน้าจอโทรศัพท์อาจไม่ใช่สาเหตุหลักของการเกิดฝ้า แต่การป้องกันไว้ก่อนย่อมดีกว่าแก้ เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้หน้าจอเล็กๆน้อยๆ และหมั่นดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ ก็ช่วยลดความเสี่ยงและชะลอการเกิดปัญหาผิวต่างๆ ได้ในระยะยาว