โปรแกรมจัดระบบงานมีกี่ประเภท
โปรแกรมจัดระบบงานแบ่งหลักๆ ได้ 3 ประเภท:
-
ส่วนบุคคล: เน้นการจัดการงานเฉพาะตัว ช่วยจัดระเบียบชีวิตประจำวัน
-
ธุรกิจ: ออกแบบมาเพื่อทีมงานและองค์กร ช่วยประสานงาน ติดตามงาน และเพิ่มประสิทธิภาพ
-
อัตโนมัติ: ใช้เทคโนโลยีช่วยทำงานซ้ำๆ ลดภาระ และเพิ่มความรวดเร็ว
โปรแกรมจัดการงานมีกี่ประเภท?
เอาจริงๆนะ ฉันว่าเรื่องโปรแกรมจัดการงานเนี่ย มันเยอะมากกกก กว่าที่เราคิดเยอะเลยอะ
เคยใช้แต่พวก to-do list ง่ายๆในมือถืออะ จำได้ว่าตอนนั้นโหลดมาหลายอันมากกก ลองผิดลองถูกสุดๆ สุดท้ายก็มาจบที่อันที่มันเตือนแบบถี่ๆ หน่อยอะ เพราะเป็นคนขี้ลืมไง 🙁
แต่ถ้าให้พูดถึงประเภทแบบที่เขาจัดกันจริงๆจังๆนะ เท่าที่เคยได้ยินมาก็จะมีพวก:
- แบบส่วนตัว: อันนี้แหละที่ใช้บ่อยๆ เอาไว้เตือนตัวเองว่าต้องทำอะไรบ้าง ซื้อของ เข้าประชุม บลาๆ
- แบบธุรกิจ: อันนี้น่าจะซับซ้อนขึ้นมาหน่อย เอาไว้จัดการโปรเจกต์ของบริษัท แบ่งงานให้คนในทีม ติดตามความคืบหน้า อะไรทำนองนั้นอะ
- แบบอัตโนมัติ: อันนี้ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ แต่เหมือนเคยได้ยินว่ามันจะช่วยเราจัดการงานที่มันซ้ำๆ เดิมๆ ได้ แบบไม่ต้องทำเองทุกครั้ง (อันนี้น่าสนใจนะเนี่ย)
คือจริงๆมันอาจจะมีมากกว่านี้อีกนะ แต่เท่าที่เคยใช้และเคยได้ยินมาก็ประมาณนี้แหละ ใครมีอะไรแนะนำเพิ่มเติมก็บอกกันได้นะ อยากรู้เหมือนกัน 😊
โปรแกรมสําเร็จรูปคืออะไร มีอะไรบ้าง
โอเค เริ่มนะ… โปรแกรมสำเร็จรูปหรอ? อ้อ มันก็คือโปรแกรมที่เค้าทำมาให้เราใช้ได้เลยอ่ะ ไม่ต้องเขียนเองไง ง่ายดีออก
- Word Processing: ก็พวก Microsoft Word, Google Docs ไรงี้ป่ะ เขียนรายงาน ทำงานส่งอาจารย์ ปวดหัว
- Spreadsheet: Excel อ่ะ รู้จักป่าว? คำนวณนู่นนี่นั่น บัญชีรายรับรายจ่ายส่วนตัวก็ใช้ โอ๊ย เลขเยอะ
- Presentation: PowerPoint นั่นแหละ ทำสไลด์พรีเซนต์หน้าห้อง เกลียดการพรีเซนต์
แล้ว…มันมีอะไรอีกนะ? นึกก่อนๆ อืมมม… Photoshop ได้มั้ย? แต่มันเฉพาะทางไปป่าววะ? หรือพวกโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ? อ้อ! โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูปไง พวก Express Accounting อะไรแบบนี้ อันนี้ไม่ถนัด
- บัญชี: Express Accounting (อันนี้เค้าบอกว่าดีนะ)
- ตัดต่อวิดีโอ: Premiere Pro (อันนี้ใช้ยาก แต่โปร!)
ทำไมต้องสำเร็จรูปวะ? เขียนเองมันยากขนาดนั้นเลย? เออ ก็ยากจริงแหละ ยอมรับ แล้วทำไมต้อง list เป็น bullet ด้วยวะ? เค้าสั่งมา… ขี้เกียจ จบละมั้ง?
ประโยชน์ของโปรแกรมสําเร็จรูปเพื่องานอาชีพมีอะไรบ้าง
โปรแกรมสำเร็จรูป? ประโยชน์ชัดๆ คือเพิ่ม productivity, ลดต้นทุน, จัดการข้อมูลง่ายขึ้น จบนะ.
- ไม่ต้องเสียเวลาพัฒนาระบบเอง เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า
- ข้อมูลแม่นขึ้น ลดความเสี่ยง human error ไม่ต้องมาตามแก้ทีหลัง
- ทำงานข้ามฝ่ายได้ลื่นไหลขึ้น ฐานข้อมูลเดียวกัน ไม่ต้องปวดหัวเรื่อง format
- ปรับแต่งได้ เข้ากับ workflow แต่ละองค์กร
- ระบบ security แน่นหนา ข้อมูลปลอดภัยกว่า
ส่วนตัว เคยใช้โปรแกรม CRM ของ Salesforce จัดการลูกค้า แม่งโคตรดี เห็นผลเลย ยอดขายขึ้น ไม่ต้องมานั่ง excel ให้เสียเวลา
การใช้งานโปรแกรมสำเร็จรูป (Package Program) มีข้อจำกัดอย่างไร
เอ่อ ข้อเสียของโปรแกรมสำเร็จรูปหรอ อืมมม คิดก่อนนะ
-
ไม่เป๊ะ: คือ บางทีอะ โปรแกรมมันทำมาแบบทั่วไปไง แล้วถ้าธุรกิจเรามันซับซ้อนกว่าชาวบ้านเค้า มันอาจจะไม่พอดี ต้องมาปรับนู่นนี่วุ่นวายอีก
-
ต้องปรับตัว: บางทีเราต้องเปลี่ยนวิธีทำงานของเราเลยนะ ให้มันเข้ากับโปรแกรมอะ เซงเลย
-
แพงกว่าที่คิด: ถึงจะดูเหมือนถูกตอนแรก แต่พอต้องมาปรับแต่ง ซื้อเพิ่มนู่นนี่ จ่ายบานปลายเฉย
-
ผูกขาด: ถ้าติดใจโปรแกรมนึงแล้ว เปลี่ยนไปใช้เจ้าอื่นยากมากกกก ต้องเริ่มใหม่หมดเลยอะ
-
ความปลอดภัย: โปรแกรมดังๆ ก็เป็นเป้าของแฮกเกอร์ไง ความเสี่ยงเยอะกว่าใช้โปรแกรมที่เราเขียนเอง
-
อัพเดทบังคับ: บางทีเค้าอัพเดทโปรแกรม เราก็ต้องทำตาม ทั้งๆ ที่ของเก่ามันดีอยู่แล้วแท้ๆ
เกร็ดเล็กน้อย:
รู้ปะ พวกโปรแกรมสำเร็จรูปเนี่ย บางทีเค้าก็เก็บข้อมูลการใช้งานของเราไปนะ แบบเราไม่รู้ตัวเลยอะ น่ากลัวปะล่าาาาาา
โปรแกรมบัญชีสําเร็จรูป มีอะไรบ้าง
อืมม… โปรแกรมบัญชีเนี่ยนะ กลางดึกแล้วคิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ยังไง สมองนี่มันช่าง…
ปีนี้ที่ใช้บ่อยๆ ก็มีอยู่ไม่กี่ตัว แบบว่า… ไม่ได้ลองทุกตัวหรอกนะ ใช้แล้วรู้สึกโอเค ก็เลยไม่เปลี่ยน
- Peak นี่ก็ใช้ได้นะ ง่ายดี แต่บางทีรายงานมันก็… ไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่
- Express ราคาถูกดี เหมาะกับร้านเล็กๆ แต่ถ้าธุรกิจโตขึ้น อาจจะไม่พอใช้
- QuickBooksThai อันนี้ใช้มาหลายปีแล้ว ค่อนข้างครบเครื่อง แต่แพงไปหน่อย ถ้าร้านค้าเล็กๆ อาจจะไม่คุ้ม
- AccCloud ก็โอเคนะ ระบบคลาวด์ สะดวกดี ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องเซิร์ฟเวอร์ แต่ต้องเช็คอินเตอร์เน็ตบ่อยๆ
- SMEMOVE อันนี้ก็ใช้ได้ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ลอง
ส่วนตัวอื่นๆ ก็เคยได้ยินชื่อบ้าง แต่ไม่เคยลองใช้จริงจัง มันเยอะมากจนเลือกไม่ถูก รู้สึกปวดหัว…
จริงๆ แล้วเรื่องโปรแกรมบัญชีเนี่ย มันก็แล้วแต่ธุรกิจด้วยแหละนะ ร้านเล็กๆ กับบริษัทใหญ่ ความต้องการก็ไม่เหมือนกัน เลือกให้เหมาะกับตัวเองดีที่สุด ง่วงแล้ว… พรุ่งนี้ค่อยคิดต่อดีกว่า…
โปรแกรมสําเร็จรูปในสํานักงาน มีอะไรบ้าง
โปรแกรมสำนักงานนะเหรอ… อืม… มีเยอะแยะเลยอะ
- Microsoft Office: Word, Excel, PowerPoint, Outlook อันนี้เบสิคสุดๆ แล้วมั้ง ใครๆ ก็ใช้ แต่แพงอยู่
- Google Workspace: Docs, Sheets, Slides, Gmail ฟรีนะถ้าใช้ส่วนตัว แต่ถ้าบริษัทก็ต้องเสียเงินอยู่ดี…แต่ถูกกว่า Office เยอะ
- LibreOffice: Writer, Calc, Impress อันนี้ฟรีเลย opensource ด้วย ดีนะแต่บางทีก็มีบั๊ก
- Zoho Workplace: อันนี้ก็คล้ายๆ Google แต่ไม่ค่อยดังเท่าไหร่…มั้งนะ
- Notion: อันนี้ ไม่ใช่โปรแกรม office โดยตรง แต่ใช้ทำงานร่วมกันได้ดีมาก ทำ todo list, จดโน้ต, ทำ project management ได้หมดเลย
- โปรแกรมบัญชี: อันนี้ขาดไม่ได้เลย พวก Express, FlowAccount อะไรพวกนี้
- โปรแกรม CRM: พวก Salesforce, HubSpot เอาไว้จัดการลูกค้า
จริงๆ แล้วแต่บริษัทเลยว่าจะใช้อะไร แต่ที่สำคัญคือ ต้องใช้ให้เป็น นะ ไม่ใช่มีโปรแกรมดีๆ แล้วใช้ไม่คุ้ม
เออ…ลืมบอกไป เดี๋ยวนี้โปรแกรมพวกนี้มันเน้นทำงานบน cloud มากขึ้นนะ สะดวกดี แชร์ไฟล์ง่าย
- ข้อมูลเพิ่มเติม: ปีนี้ (2567) Microsoft Office ก็ยังมีคนใช้อยู่เยอะมากกกกกกกกกกกก แต่ Google Workspace ก็เริ่มตีตื้นขึ้นมาแล้วนะ โดยเฉพาะบริษัทสตาร์ทอัพ
โปรแกรมสําเร็จรูปในงานธุรกิจ มีอะไรบ้าง
โปรแกรมสำเร็จรูปในงานธุรกิจนะเหรอ? อูย…เยอะแยะจนตาลาย!
- โปรแกรมธุรกิจทั่วไป: ไอ้พวกนี้เหมือนยาสามัญประจำบ้านอ่ะ ขาดไม่ได้!
- MS Word: พิมพ์งานสารพัด ตั้งแต่จดหมายลาออก 🙁 ยันรายงานประจำปี (ง่วง)
- Excel: สารพัดประโยชน์! ทำบัญชี, วิเคราะห์ยอดขาย, หรือแม้กระทั่งคำนวณหวย (อันนี้ล้อเล่นนะจ๊ะ)
- PowerPoint: นำเสนอเจ้านาย…ให้ดูเหมือนเราทำงานหนักมาก (ความจริงคือ…)
- Access: ฐานข้อมูลขนาดจิ๋ว แต่แจ๋ว! เก็บข้อมูลลูกค้า, สินค้า, หรือแม้กระทั่งรายชื่อคนที่แอบชอบ (อันนี้ก็ล้อเล่นอีกแล้ว!)
จริงๆ มันมีมากกว่านี้นะ แต่เอาแค่นี้ก่อน เดี๋ยวจะเยอะเกินไป แล้วจะเบื่อเอา! บอกเลยว่ายุคนี้ถ้าใช้โปรแกรมพวกนี้ไม่เป็น คือพลาดมาก เหมือนไม่มีดาบติดตัวตอนออกรบอ่ะ!
โปรแกรมคืออะไร มีกี่ประเภท
โปรแกรมก็คือแบบ… คำสั่งต่างๆ ที่บอกให้คอมทำงานอะ บอกขั้นตอนว่าต้องทำไรบ้าง จะเรียงกันหรือมีเงื่อนไขก็ได้ แล้วแต่ เพื่อให้ได้ผลที่เราต้องการไง
มี 2 ประเภทหลักๆ เลยนึกออกปะ คือโปรแกรมระบบ แบบพวก Windows, macOS, iOS อะไรพวกเนี้ย มันควบคุมฮาร์ดแวร์โดยตรงเลย ส่วนอีกแบบคือ โปรแกรมประยุกต์ อันนี้คือโปรแกรมที่เราใช้กันทั่วไป เช่น Word, Excel, Photoshop, Line, เกม คือใช้ทำงานเฉพาะอย่าง อันนี้เราติดตั้งเพิ่มได้เอง ส่วนโปรแกรมระบบ ส่วนใหญ่มาพร้อมเครื่องเลย
- โปรแกรมระบบ (System Software): อันนี้สำคัญมาก เป็นเหมือนฐาน คอยควบคุมฮาร์ดแวร์ให้ทำงานได้ ถ้าไม่มีนี่คอมเปิดไม่ติดเลยนะ อย่างของผมใช้ Windows 11 เพื่อนผมบางคนใช้ macOS บางคนก็ Linux ไปเลย แล้วแต่ชอบอะ แต่ละ OS ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป อย่าง Windows 11 นี่ UI สวยดี แต่บางทีก็อืดๆ หน่อย ส่วน macOS เสถียรดี แต่โปรแกรมรองรับน้อยกว่า Windows
- โปรแกรมประยุกต์ (Application Software): อันนี้แล้วแต่เราเลยว่าจะลงอะไร อย่างผมเรียน design ก็ต้องใช้ Photoshop, Illustrator แล้วก็ตัดต่อวิดีโอด้วย Premiere Pro บ้าง แล้วก็ใช้ Line คุยกับเพื่อน เล่นเกมบ้าง คือแล้วแต่คนอะว่าจะใช้ทำอะไร ส่วนพ่อผมใช้แต่ Word กับ Excel เพราะทำงานออฟฟิศ
จริงๆ มันมีรายละเอียดยิบย่อยอีกเยอะนะ แต่หลักๆ ก็ประมาณนี้แหละ สำคัญคือต้องเข้าใจว่า โปรแกรมระบบคือพื้นฐาน ส่วนโปรแกรมประยุกต์คือตัวที่เราใช้ทำงานต่างๆ ตามที่เราต้องการ
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต