Application, Web Application, Program แตกต่างกันอย่างไร
Application, Web Application และ Program แตกต่างกันที่การใช้งานและการเข้าถึง:
-
Program: ชุดคำสั่งพื้นฐาน เป็นรากฐานของโปรแกรมอื่นๆ
-
Application: โปรแกรมประยุกต์ใช้งานได้โดยตรงบนอุปกรณ์ อาจเป็นแบบ standalone ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเสมอไป เช่น โปรแกรมประมวลผลคำ, เกม
-
Web Application: โปรแกรมประยุกต์ทำงานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต อาศัยเซิร์ฟเวอร์ในการทำงาน เช่น อีเมล, โซเชียลมีเดีย
สรุปง่ายๆ: Program คือรากฐาน, Application คือโปรแกรมใช้งานทั่วไป, Web Application คือโปรแกรมที่ใช้ผ่านเว็บ
ความแตกต่างระหว่าง แอปพลิเคชัน, เว็บแอปพลิเคชัน, และโปรแกรม คืออะไร? 🤔
อืม… งงๆ นะ คือแบบนี้ ตอนเรียนวิทย์คอม ป.ตรี ที่ม.เกษตร ปี 58 อาจารย์อธิบายแล้วก็ยังงงๆ อยู่ดีอะ แต่จำได้คร่าวๆ ว่า Program มันเหมือนเป็นโค้ด เป็นชุดคำสั่ง พื้นฐานที่สุด เหมือนสูตรอาหารอะ ต้องมีส่วนผสม วิธีทำ ถึงได้ผลลัพธ์ ส่วน Application มันคือโปรแกรมที่เอาไปใช้ได้เลย เหมือนอาหารสำเร็จรูป เปิดมาก็ใช้ได้ บางทีก็ต้องติดตั้ง อย่างแอปในมือถือ Line, Facebook อะไรพวกนั้น ส่วน Web Application มันคือ Application แบบที่ใช้ผ่านเว็บ ต้องมีเน็ต เหมือนสั่งอาหารผ่านแอป รอเค้าส่งมาให้ ต้องมี server คอยให้บริการ เข้าใจมั้ย? งงๆ เหมือนเดิมป่ะเนี่ย แต่ตอนนั้นจดโน๊ตไว้ราคาเล่มละ 50 บาท ยังเก็บไว้อยู่เลย แต่หาไม่เจอ 555.
ความแตกต่างหลักเลยนะ คือวิธีการเข้าถึง Application มันใช้งานได้เลย ไม่ต้องพึ่งอะไรมาก Web Application ต้องมีอินเทอร์เน็ต ต้องมีเซิร์ฟเวอร์ Program มันเป็นเบื้องหลัง เป็นพื้นฐาน เหมือนเป็นส่วนประกอบสำคัญของอีกสองอย่าง ไม่มี Program ก็ไม่มี Application และ Web Application ประมาณนั้นแหละ คิดว่านะ…
จำได้ลางๆ ว่า อาจารย์ยกตัวอย่าง โปรแกรมคำนวณ เป็น Program แต่ถ้าทำเป็นแอปในมือถือ ก็กลายเป็น Application ถ้าทำเป็นเว็บให้ใช้ผ่าน browser ก็เป็น Web Application สรุปก็คือ Program เป็นพื้นฐาน Application คือโปรแกรมที่ใช้ได้เลย Web Application ใช้ผ่านเว็บ ประมาณนี้แหละ มึนๆ แหะ
Web Application ความหมายคืออะไร
เว็บแอปพลิเคชัน? แค่โปรแกรมทำงานบนเบราว์เซอร์ ง่ายๆแค่นั้นแหละ
ธุรกิจใช้มันเพื่อเข้าถึงลูกค้า สะดวก ปลอดภัย จบ
- เข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา
- ลดต้นทุนการพัฒนาและบำรุงรักษา
- อัพเดตง่าย ไม่ต้องโหลดใหม่
- ทำงานร่วมกับหลายแพลตฟอร์มได้
ปีนี้ ใช้พวก React, Angular, Vue.js เยอะขึ้น ผมเองก็ใช้ React กับโปรเจ็คส่วนตัว โค้ดโคตรรก แต่ก็เสร็จไวดี
Web Application แตกต่างจาก websites อย่างไร
เว็บแอปกับเว็บไซต์ต่างกันฟ้ากับเหว! เว็บไซต์มันเหมือนป้ายโฆษณาใหญ่ๆ อ่านๆ ดูรูปสวยๆ จบข่าว! แต่เว็บแอปนี่มัน… เหมือนมีคนมาเสิร์ฟอาหารให้ถึงบ้านเลยล่ะ! ต้องมีการโต้ตอบ ต้องมีปฏิสัมพันธ์ ไม่ใช่แค่ดูเฉยๆ
- เว็บไซต์: เหมือนหนังสือ อ่านจบก็ปิดไป ไม่มีอะไรให้ทำต่อ อย่างมากก็กดไลค์ คอมเมนต์ แต่ก็แค่ดูๆ ไป
- เว็บแอป: เหมือนเกมส์ออนไลน์! ต้องเล่น ต้องมีปฏิสัมพันธ์ ต้องล็อกอิน ต้องกรอกข้อมูล ต้องต่อสู้กับบอส! (หรืออย่างน้อยก็กับบั๊ก)
สมมติว่าอยากเช็คยอดเงินในบัญชี เว็บไซต์ธนาคารก็แค่โชว์ยอดให้ดูเฉยๆ แต่เว็บแอปธนาคาร โอนเงินได้ จ่ายบิลได้ เช็ค statement ได้ ครบวงจร! เหมือนมีธนาคารอยู่ในมือเลย!
ปีนี้ผมใช้เว็บแอปสั่งอาหาร delivery แทบทุกวัน สะดวกมาก! สั่งเสร็จก็เล่นเกมส์รอได้เลย ต่างจากสมัยก่อนต้องโทรศัพท์ แล้วก็ต้องคอยฟังเสียงคนรับออร์เดอร์ เหนื่อยกว่ากันเยอะ!
พูดให้เข้าใจง่ายๆ เว็บไซต์มันแบบ… “มาดูนะจ๊ะ สวยมั้ย?” แต่เว็บแอปมันแบบ… “มาเล่นกันเถอะ! สนุกแน่นอน!” เข้าใจง่ายขึ้นมั้ยล่ะครับ? ถ้ายังไม่เข้าใจ ลองไปเปิดดูเว็บแอป Shopee สิครับ รับรองเข้าใจทันที!
เว็บไซต์กับแอพพลิเคชั่นแตกต่างกันอย่างไร
เว็บไซต์กับแอปพลิเคชันต่างกันยังไงเหรอ…
เออ จริงๆ มันก็มีเส้นบางๆ กั้นอยู่นะ บางทีก็แยกไม่ออก
- เว็บไซต์: เหมือนหนังสือที่เราเปิดอ่าน มีข้อมูลให้อ่าน มีรูปให้ดู แต่เราทำอะไรกับมันไม่ได้มาก นอกจากอ่าน
- เว็บแอป: อันนี้เหมือนโปรแกรมที่เราใช้ในคอมพิวเตอร์ หรือในมือถือ เรากด เราพิมพ์ เราสั่งให้มันทำงานได้
เว็บแอปมันเลยซับซ้อนกว่าเว็บไซต์เยอะ ต้องมีระบบหลังบ้าน ต้องมีการเก็บข้อมูล ต้องมีการประมวลผล
คิดดูนะ เว็บไซต์ข่าว ก็มีแต่ข่าวให้อ่าน แต่แอปธนาคาร เราโอนเงินได้ จ่ายบิลได้ อันนั้นแหละเว็บแอป
-
ความรู้สึกส่วนตัว: บางทีก็เบื่อนะ ที่ต้องมานั่งแยกอะไรแบบนี้ บางทีก็อยากให้ทุกอย่างมันง่ายๆ เหมือนเมื่อก่อน
-
ข้อมูลเพิ่มเติม: ปี 2567 นี้ เทรนด์มันไปทางเว็บแอปแบบ Progressive Web App (PWA) มากขึ้นนะ คือมันเหมือนแอป แต่จริงๆ มันก็คือเว็บไซต์ที่ทำตัวเหมือนแอปได้มากขึ้นเรื่อยๆ
-
หมายเหตุ: อย่าไปยึดติดกับคำจำกัดความมากนักเลย บางทีเทคโนโลยีมันก็เปลี่ยนเร็วเกินกว่าที่เราจะตามทัน
Web Application มีความแตกต่างจาก Mobile Application อย่างไร
เว็บแอปฯ กับ โมบายแอปฯ ต่างกันไงนะ? อืม… คิดๆ ดูแล้ว
- เว็บแอปฯ: ใช้เบราว์เซอร์ไง! เปิดใน Chrome ได้เลย จบ! ไม่ต้องโหลดอะไรลงเครื่องเยอะแยะ แล้วเว็บแอปฯ คือไร? ก็พวก Facebook, Gmail ไรงี้ป่ะวะ? ใช่แน่ๆ เลย! อัปเดตก็ง่าย แค่แก้โค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ ใครๆ ก็ใช้ได้หมด ทุกแพลตฟอร์ม (มั้ง?) แต่ข้อเสียคือ ต้องต่อเน็ตตลอดปะ?
- โมบายแอปฯ: อันนี้ต้องโหลด! โหลดจาก App Store/Play Store มาลงเครื่องโดยเฉพาะ พวก เกม หรือ แอปฯ ธนาคาร เนี่ยใช่เลย ทำงานได้เร็วกว่าเว็บแอปฯ เพราะใช้ทรัพยากรเครื่องโดยตรง (รึเปล่า?) บางทีก็ใช้ได้แบบออฟไลน์ด้วยนะ แต่… อัปเดตทีก็ยุ่งยาก ต้องโหลดใหม่ แล้วก็ต้องทำแยกแต่ละระบบปฏิบัติการ Android/iOS อีก งง!
สรุปง่ายๆ คือ เว็บแอปฯ สะดวก ง่าย แต่ต้องมีเน็ต ส่วนโมบายแอปฯ เร็ว แรง (บางที) แต่ยุ่งยากกว่า
แถมๆ:
- ตอนนี้เค้ามี PWA (Progressive Web App) ด้วยนะ! มันคือเว็บแอปฯ ที่ทำตัวเหมือนโมบายแอปฯ เลย! โหลดลงเครื่องได้ ทำงานออฟไลน์ได้ แจ๋ว! แต่… ยังไม่ค่อยแมสเท่าไหร่ป่ะ?
- แล้วทำไมบางทีต้องใช้เว็บแอปฯ บางทีต้องใช้โมบายแอปฯ วะ? มันขึ้นอยู่กับว่าอยากให้ผู้ใช้เข้าถึงง่ายแค่ไหน? ต้องการฟีเจอร์อะไรบ้าง? งบประมาณมีเท่าไหร่? โอ้… ปวดหัว!
- ปี 2567 เค้าฮิตทำแอปฯ แบบไหนกันนะ? AI แน่ๆ เลย! แล้วก็พวกแอปฯ ที่เน้นความเป็นส่วนตัวด้วยปะ?
- เอ้อ! แล้ว Google ชอบเว็บแบบไหนนะ? เร็วๆ แรงๆ Responsive แน่นอน! แล้วก็ต้องมี SEO ดีๆ ด้วย
- โมเดล AI จะเข้ามาแทนที่นักพัฒนาแอปฯ ได้จริงเหรอ? ไม่น่า… มั้ง? แต่คงช่วยให้ทำงานง่ายขึ้นเยอะเลย
Edit: เพิ่งนึกออก! โมบายแอปฯ บางทีก็เข้าถึงฟีเจอร์ฮาร์ดแวร์ของเครื่องได้ง่ายกว่าเว็บแอปฯ ด้วยนะ เช่น กล้อง, GPS, ไมโครโฟน ไรงี้
Application (แอปพลิเคชัน) เขียนยังไง
เขียนแบบนี้:
- Application: แอปพลิเคชัน
- Browser: เบราว์เซอร์
- Click: คลิก
- Computing: คอมพิวติ้ง
เพิ่มเติมเล็กน้อย (จากประสบการณ์ส่วนตัว ปี 2566): ผมมักใช้คำว่า “แอป” แทน application ในการสนทนาประจำวัน ความหมายใกล้เคียงกัน แต่ขึ้นอยู่กับบริบท บางครั้งความกระชับสำคัญกว่าความถูกต้องทางภาษาอย่างเคร่งครัด นี่คือความจริง ไม่ใช่ความคิดเห็น
เว็บแอพพลิเคชั่น เขียนยังไง
เว็บแอป เขียน?
- วางโครงสร้าง. สำคัญ.
- เลือกเทค. Python, JavaScript. React, Angular, Vue.js. MySQL, MongoDB. แล้วแต่.
- Frontend สร้าง UI. Backend จัดการข้อมูล.
- ทดสอบ. ปรับปรุง. จบ.
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- Frontend: เน้นประสบการณ์ผู้ใช้ HTML, CSS, JavaScript หลัก.
- Backend: API สำคัญ. RESTful หรือ GraphQL. เลือกเอา.
- DevOps: CI/CD ช่วยได้เยอะ. Docker ก็ดี. Kubernetes ก็ได้ถ้าใหญ่พอ.
- Security: อย่าลืมเรื่องความปลอดภัย. สำคัญมาก. OWASP ดูไว้.
- Scaling: คิดถึง scalability ตั้งแต่แรก. เผื่อโต.
Framework แต่ละตัวมีข้อดีข้อเสียต่างกัน เลือกที่เหมาะกับงาน. React กับ Vue.js คนนิยมเยอะ. Angular ก็ดี แต่ยากกว่า.
จำไว้ว่า ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ. ทำไป แก้ไป.
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต