โหมดห้ามรบกวนกับโหมดเครื่องบินต่างกันยังไง

2 การดู

อืมมม, เอาจริงๆนะ ฉันว่า ห้ามรบกวน นี่เหมือนเราเอาผ้าคลุมโปงไว้มากกว่า เหมือนปิดตาไม่ให้เห็นเรื่องวุ่นวาย แต่โลกก็ยังหมุนรอบตัวเราอยู่นั่นแหละ ส่วน โหมดเครื่องบิน นี่สิ, เหมือนตัดขาดจากโลกภายนอกไปเลยนะ ไม่รับรู้ ไม่ส่งสัญญาณใดๆ เหมือนหลบไปพักร้อนบนเกาะร้างชั่วคราวเลยล่ะ!

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เอาล่ะ มาเคลียร์กันหน่อยเรื่องโหมดห้ามรบกวนกับโหมดเครื่องบินเนี่ยนะ… เคยสงสัยกันไหมว่ามันต่างกันยังไง? 🤔

คือถ้าให้เปรียบเทียบง่ายๆ นะ โหมดห้ามรบกวนเนี่ย เหมือนเราแค่… เอ่อ… “ขอ” ให้คนอื่นอย่าเพิ่งมายุ่งกับเราตอนนี้หน่อยได้ไหม? อารมณ์แบบ “ฉันกำลังทำงานอยู่นะ อย่าเพิ่งทักมา” อะไรแบบนั้นน่ะ! คือทุกอย่างมันยังทำงานอยู่เบื้องหลังนะ แอปก็ยังอัปเดตได้อยู่ เพื่อนก็ยังส่งข้อความมาได้ (แต่เราแค่ไม่เห็นเฉยๆ) เข้าใจป่ะ?

แต่โหมดเครื่องบินนี่สิ! โอ้โห… อันนี้คือตัวจริงเสียงจริง! ปิดทุกอย่าง! เหมือนเราประกาศสงครามกับโลกภายนอกไปเลยอ่ะ 😂 Wi-Fi บายจ้ะ! Bluetooth ลาก่อน! สัญญาณโทรศัพท์? ไม่รู้จัก! คือมันตัดขาดการเชื่อมต่อทุกอย่างจริงๆ นะ ส่วนตัวฉันนะ เวลาขึ้นเครื่องบินทีไร ต้องเปิดโหมดนี้ตลอด เพราะกลัวเครื่องรวน (ถึงแม้จะรู้ว่าจริงๆ แล้วมันคงไม่รวนหรอก แต่มันสบายใจกว่าอ่ะ! 😜)

เคยไหม? แบบว่า… อยากจะหนีจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไปอยู่ในที่ที่ไม่มีใครตามหาเราเจออ่ะ? นั่นแหละ! โหมดเครื่องบินตอบโจทย์! แต่ถ้าแค่อยากพักสมองชั่วคราว อยากมีสมาธิทำงาน หรืออยากนอนกลางวันแบบไม่มีใครกวนใจ โหมดห้ามรบกวนก็โอเคอยู่นะ

สรุปง่ายๆ ก็คือ ห้ามรบกวน = ปิดเสียง/แจ้งเตือน แต่ทุกอย่างยังทำงาน ส่วนเครื่องบิน = ตัดการเชื่อมต่อทุกสิ่งอย่าง จบปิ้ง! เข้าใจตรงกันนะ? 😉