ไวยากรณ์ของภาษา Python คืออะไร

1 การดู

ไวยากรณ์ Python เน้นโครงสร้างแบบบล็อก โดยใช้การเว้นวรรค (indentation) เพื่อกำหนดขอบเขตของโค้ด ทำให้โค้ดอ่านง่าย เป็นระเบียบ และสม่ำเสมอ Python ยังมีลักษณะเด่นคือการลดการใช้เครื่องหมายพิเศษ (punctuation-free) ทำให้โค้ดสั้น กระชับ และเข้าใจได้ง่ายกว่าภาษาอื่น

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ไวยากรณ์ Python ง่ายๆ เรียนรู้ได้อย่างไร?

ไวยากรณ์ Python ง่ายๆ เรียนรู้ยังไงน่ะเหรอ? เอาจริงๆ ตอนแรกก็งงเหมือนกันนะ! แต่พอเริ่มเขียนไปเรื่อยๆ มันก็เริ่มเข้าที่เข้าทางเองแหละ

จำได้ว่าตอนหัดเขียน Python ใหม่ๆ เมื่อก่อนตอนนั้นน่าจะช่วงปี 2018-2019 มั้งนะ ที่ Co-working space แถวอโศก ที่ๆ มี Workshop สอนเขียนโปรแกรมฟรีบ่อยๆ อ่ะ คือแบบ โค้ดมันดูง่ายกว่าภาษาอื่นจริงๆ นะ คือไม่ต้องมี ; (เซมิโคลอน) เยอะแยะอะไรแบบนั้นไง แล้วที่ชอบมากคือ การเว้นวรรค (indentation) นี่แหละ มันบังคับให้โค้ดเราเป็นระเบียบไปโดยปริยายเลยอ่ะ ชอบๆ

แต่ก็มีพลาดบ้างนะ ตอนแรกๆ เคยลืมเว้นวรรคใน if statement โดน Error ตีหน้าหงายเลย 555+ แต่พอชินแล้ว มันก็ช่วยให้เราอ่านโค้ดง่ายขึ้นเยอะเลยจริงๆ นะ

แล้วก็พวกฟีเจอร์ต่างๆ ของ Python เนี่ย มันก็ช่วยให้โค้ดเราสั้นลงได้เยอะเลย อย่าง list comprehension เนี่ย คือทีเด็ด! แต่ก็ต้องระวังนะ บางทีถ้าใช้เยอะไป มันก็จะอ่านยากเหมือนกัน ต้อง Balance ดีๆ

สรุปคือ ไวยากรณ์ Python น่ะ เรียนรู้ไม่ยากหรอก แต่ต้องฝึกเขียนบ่อยๆ แล้วก็ทำความเข้าใจหลักการเว้นวรรคให้ดีๆ แค่นี้แหละ! แล้วก็อย่ากลัวที่จะ Error! เพราะ Error นี่แหละคือครูของเรา

ไวยากรณ์ของไพทอนคืออะไร

กลางดึกแบบนี้… คิดถึงเรื่องไวยากรณ์ Python มันวนเวียนอยู่ในหัวตลอดเลย

อืมม… คือมัน… เน้นการเว้นวรรคไง ใช่ เว้นวรรคสำคัญมาก ไม่ใช่แค่สวยงามนะ มันกำหนดโครงสร้างโค้ดเลย ถ้าเว้นวรรคผิด โปรแกรมพังแน่ๆ เจอมาแล้ว ตอนทำโปรเจคจบปีที่แล้ว เสียเวลาไปเป็นอาทิตย์ เพราะเว้นวรรคผิดแค่บรรทัดเดียว เศร้ามาก

  • เว้นวรรคสำคัญมาก กำหนดบล็อกโค้ด
  • โค้ดอ่านง่ายกว่าภาษาอื่นๆ เพราะโครงสร้างชัดเจน

แล้วก็… มันไม่มีเครื่องหมายจุลภาคเยอะแยะเหมือนภาษาอื่น ดูโล่งดี แต่บางทีก็งงเหมือนกันนะ ตอนแรกๆ ไม่ชินเลย ใช้เวลานานกว่าจะเข้าใจ

  • ใช้เครื่องหมายน้อยลง โค้ดดูสะอาดตา แต่ต้องระวังเรื่องการอ่านโค้ด
  • เคยลองเขียนโค้ด Python ใน Jupyter Notebook ปีนี้ แล้วก็ยังเจอปัญหาเว้นวรรคอยู่ดี

ตอนนี้ก็ยังเรียนรู้เรื่อยๆ บางทีก็ยังงงๆ อยู่ดี แต่ก็ดีกว่าตอนแรกๆ เยอะแล้วแหละ เหนื่อยจัง นอนดีกว่า… พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่

โครงสร้างของภาษา Python ประกอบด้วยอะไรบ้าง

โอเค ลองดูนะ… เหมือนเขียนไดอารี่เลยเหรอเนี่ย?

  • โครงสร้าง Python: โอ้โฮ้…นี่มันเหมือนเขาวงกต? คือแบบ, มันมี syntax อ่ะ (ไวยากรณ์), คำสั่งต่างๆ, แล้วก็พวก code blocks ที่เราจัดระเบียบด้วย indentation (การย่อหน้า). ไม่เหมือนภาษาอื่นที่ใช้ปีกกา! แปลกดี…

  • Data Types: (ประเภทข้อมูล) มี int (จำนวนเต็ม), float (ทศนิยม), str (ข้อความ), bool (จริง/เท็จ), list, tuple, dict, set… เยอะเกิ๊น! List เปลี่ยนค่าได้, tuple เปลี่ยนไม่ได้, dict เก็บข้อมูลแบบคู่ key:value… เหมือนสมุดหน้าเหลืองเลย!

  • Data Structures: (โครงสร้างข้อมูล) อืม… พวก list, tuple, dictionaries ที่ว่ามาอ่ะ. แต่จริงๆ มันมีอะไรซับซ้อนกว่านั้นอีกนะ, อย่าง stack, queue, linked list, tree, graph… เฮือก! เรียนหมดนี่หัวระเบิดแน่ๆ

  • พื้นฐานพื้นฐาน:

    • ตัวแปร: เหมือนกล่องเก็บของ, ตั้งชื่อได้ตามใจ (แต่ต้องตามกฎนะ!)
    • Operators: (+, -, *, /, %, ==, !=, >, <, >=, <=, and, or, not) เหมือนเครื่องคิดเลข, แต่ทำได้มากกว่า
    • Control flow: (การควบคุมการทำงาน) if, else, elif, for, while… เหมือนทางแยก, เลือกไปทางไหนดี?

    เพิ่มเติม: เออ! คอมเมนต์ สำคัญมากนะ. # นี่ไง. ใส่เข้าไป, อธิบายโค้ดตัวเอง (และคนอื่นจะได้ไม่งง).

    คำถาม: ทำไม Python ต้อง indentation แทนที่จะใช้ปีกกา? ใครคิดเนี่ย? แล้วภาษาอื่นมีแบบนี้อีกมั้ย?

    ข้อมูลส่วนตัว: เคยพยายามเขียนโปรแกรมคำนวณหวยด้วย Python…เจ๊งไม่เป็นท่า!

    ปีนี้ Python version ล่าสุดคืออะไรนะ? ต้องไปอัพเดทความรู้ซะหน่อยแล้วเรา…

Python คืออะไร ใช้ทำอะไร

Python อ่ะนะ คือมันเป็นภาษาเขียนโปรแกรมแบบที่เค้าฮิตๆ กันอ่ะแหล่ะ

  • ทำเว็บ: หลายคนเอาไปทำพวกเว็บแอป, ระบบหลังบ้าน บลาๆๆ
  • พัฒนาซอฟต์แวร์: พวกโปรแกรมที่เราใช้ๆ กันนี่ก็มี Python เป็นส่วนประกอบนะ
  • วิทยาศาสตร์ข้อมูล: อันนี้โคตรฮิตเลย พวกวิเคราะห์ข้อมูล, ทำสถิติ อ่ะ Python ช่วยได้เยอะ
  • แมชชีนเลิร์นนิง (ML): จะทำ AI, ให้คอมพิวเตอร์มันเรียนรู้เองได้ ก็ต้องมี Python นี่แหล่ะตัวหลัก

ทำไมเค้าใช้กันเยอะจัง?

  • ง่าย: เรียนรู้ง่าย, โค้ดอ่านง่าย
  • ฟรี: โหลดฟรี, ใช้ฟรี, แจ่มแมว
  • ใช้ได้หลายที่: ไม่ว่าจะเป็น Windows, Mac, Linux ก็ใช้ได้หมด
  • เก่งรอบด้าน: ทำได้หลายอย่าง, มีเครื่องมือเยอะแยะ

เพิ่มเติม:

  • คนเอา Python ไปทำเกมก็มีนะ แต่ไม่ค่อยดังเท่าพวก Unity, Unreal Engine
  • Data science คืออนาคต Python เลยดังเป็นพลุแตก
  • Python เวอร์ชันใหม่ๆ ก็ออกมาเรื่อยๆ อย่าลืมอัปเดตนะ จะได้ใช้ฟีเจอร์ใหม่ๆ
  • อยากเก่ง Python ต้องลองเขียนโค้ดเยอะๆ หาโจทย์มาทำ สนุกดีออก

โครงสร้างพื้นฐานของภาษา Python มีอะไรบ้าง

โครงสร้าง Python : พื้นฐานที่ต้องรู้

  • String : ข้อความ สำคัญคือ ” ” หรือ ‘ ‘ จบ
  • Numerical : ตัวเลข จำนวนเต็ม(int), ทศนิยม (float) อย่าสับสน
  • Boolean : จริง(True) หรือ เท็จ(False) แค่นั้น
  • List : ลำดับ เปลี่ยนแปลงได้ [] ชีวิตไม่แน่นอน
  • Tuple : ลำดับ เปลี่ยนไม่ได้ () มั่นคงกว่า
  • Dictionary : คู่ key : value {} เหมือนพจนานุกรม
  • Set : กลุ่ม ไม่มีลำดับ ไม่ซ้ำ {} เอกลักษณ์สำคัญ
  • *Bytes, Byte array: ข้อมูลดิบ ระดับไบนารี เครื่องจักรเข้าใจ

ข้อมูลเพิ่มเติม :

  • Python เน้น readability โค้ดต้องอ่านง่าย
  • Indentation สำคัญมาก บอกขอบเขต block ของ code
  • Dynamic typing : ไม่ต้องประกาศ type ตอนแรก ปวดหัวน้อยลง
  • OOP : Everything is an object ทุกอย่างเป็นวัตถุ
  • Garbage collection : จัดการ memory เอง เราไม่ต้องยุ่ง
  • มี module เยอะมาก ใช้ได้เลยไม่ต้องเขียนเองซ้ำซ้อน
  • *Frozenset: คล้าย set แต่แก้ไขไม่ได้ คล้าย tuple ของ set
  • *Complex Numbers: จำนวนเชิงซ้อน (a+bj)
  • *None: ไม่ใช่ 0 ไม่ใช่ ” คือ “ไม่มีอะไรเลย”
  • การใช้ List comprehension คือของจริง สั้นแต่ทรงพลัง
  • Error handling คือศิลปะ Try, Except, Finally ซับซ้อนแต่จำเป็น
  • Generators คือ lazy evaluation ไม่สร้างทุกอย่างทีเดียว ประหยัด memory

Python คือดาบสองคม เรียนง่าย ใช้ยาก อย่าประมาท

ภาษาไพทอนมีตัวแปรอะไรบ้าง

ไพทอนมีตัวแปรหลักๆ แค่นี้แหละ

  • int: จำนวนเต็ม เช่น 979, -256 ปีนี้ก็ยังใช้เหมือนเดิม
  • float: ทศนิยม เช่น 3.1467, -0.001
  • complex: จำนวนเชิงซ้อน เช่น 5+4j
  • str: ข้อความ “Python” นี่แหละตัวหลัก

เพิ่มเติมนิดหน่อย ถ้าอยากได้ลึกกว่านี้ก็ไปหาเอง ฉันไม่ว่างสอน

#การเขียนโปรแกรม #ภาษา Python #ไวยากรณ์ Python