นักพัฒนาแอป เรียนอะไร

10 การดู

นักพัฒนาแอป เรียนอะไรบ้าง? สาขาไอทีเปิดทางสู่เส้นทางอาชีพนี้มากมาย เลือกเรียนได้ดังนี้

  • วิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science): เน้นทฤษฎีและพื้นฐานการเขียนโปรแกรม สร้างแอปได้หลากหลายแพลตฟอร์ม

  • วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Engineering): เชี่ยวชาญทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ พัฒนาแอปที่เน้นประสิทธิภาพและการทำงานร่วมกับอุปกรณ์

  • เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology): มุ่งเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ออกแบบและพัฒนาแอปเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจและผู้ใช้งาน

เลือกสาขาที่ใช่ ตอบโจทย์ความชอบและเป้าหมาย สร้างสรรค์แอปพลิเคชันในฝัน!

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

นักพัฒนาแอปต้องเรียนรู้อะไรบ้าง?

อืมม.. นักพัฒนาแอปเนี่ยนะ? ต้องเรียนรู้เยอะแยะไปหมดเลยล่ะ! ตอนพี่เรียน วิศวะคอมที่จุฬาฯ ปี 2558 เนี่ย หลักๆ เลยก็พวกภาษาโปรแกรม Java, Python, Swift (จำได้ว่าตอนนั้น Swift ยังใหม่มากเลยนะ โค้ดเพียบเลย!) แล้วก็ database SQL นี่จำเป็นสุดๆ ต้องจัดการข้อมูลเป็น ไม่งั้นแอปพังแน่!

นอกจากโค้ดดิ้งแล้ว เรื่อง design ก็สำคัญไม่แพ้กัน UI/UX นี่แหละ ต้องคิดให้คนใช้แอปสะดวก พี่เคยทำแอปเล็กๆ ขายของออนไลน์ ตอนเรียนปี 4 ล่มไม่เป็นท่าเลย เพราะ UI แย่มาก คนใช้ไม่เข้าใจ เสียเวลาไปตั้งหลายเดือนเลย บทเรียนราคาแพงมาก! ต้องหาความรู้เพิ่มเติมด้านนี้จริงๆ กว่าจะเสร็จ!

แล้วก็ต้องรู้เรื่อง algorithm ด้วยนะ ถ้าไม่เก่ง แอปมันจะช้า ใช้ได้ไม่ลื่นไหล ลูกค้าหนีหมด งานนี้ พี่เรียนหนักมาก อาจารย์ดุด้วย แต่ก็จำได้ว่า ตอนนั้น พี่ไปติวเพิ่มกับเพื่อน ที่ห้องสมุดคณะ เกือบทุกวันเลย จำได้แม่นเลย! ถึงจะเหนื่อย แต่คุ้มค่าจริงๆ

นอกจากนี้ ยังมีเรื่อง security, testing และอื่นๆ อีกเพียบเลย หลักสูตรพวก Computer Science, Computer Engineering หรือ IT ก็สอนหมดแหละ แต่ว่า การเรียนรู้มันไม่จบแค่นั้นหรอกนะ ต้อง update ความรู้ตลอดเวลาด้วย โลกไอทีมันเปลี่ยนไวมาก ถึงจะเรียนจบมาแล้วก็ตาม ต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา!

นักพัฒนาโปรแกรมเรียนคณะอะไร

เพื่อนสนิทผมอ่ะ ปีนี้จบ วิศวะคอมฯ จุฬาฯ มันตั้งใจจะทำงานเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์มาตั้งแต่ ม.ปลายแล้ว จำได้เลยตอนนั้นมันนั่งหน้าคอมทั้งวันเขียนโค้ดเล่นๆ เกมง่ายๆ อะไรแบบนั้น ตอนนั้นผมยังงงๆ อยู่เลยว่ามันทำได้ไง ผมเองเรียนเศรษฐศาสตร์ เอาแต่กุมหัวกับเลข คนละโลกกันเลย

แต่เพื่อนผมมันจริงจังมากนะ ตั้งแต่ปี 1 มันก็ไปสมัครเข้าพวกโปรเจคของมหาลัย แข่งเขียนโปรแกรม ได้รางวัลมาด้วยนะ หลายงานเลย จำได้ว่าปีที่แล้วมันได้ที่ 1 งานอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับ AI ผมไปดูมันประกาศผล มันยิ้มแก้มปริเลย ภูมิใจสุดๆ ตอนนั้นผมก็รู้สึกดีไปด้วย เพื่อนเก่งจัง

ตอนนี้มันได้งานที่บริษัทเกมใหญ่แล้วด้วย เงินเดือนดีมาก บอกผมว่างานสนุก ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมา มีความสุขกับการทำงาน มันบอกว่า เรียนสายนี้ต้องขยัน ต้องชอบ ถึงจะไปได้ไกล

  • เพื่อนผมเรียน วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • มันเข้าร่วมโครงการต่างๆ ของมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปี 1
  • มันชนะการแข่งขันเขียนโปรแกรมหลายครั้ง
  • ปัจจุบันทำงานเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในบริษัทเกม
  • มันเน้นย้ำว่า ความชอบและความขยันสำคัญมากในการทำงานสายนี้

นอกจากเพื่อนผม ผมก็มีรุ่นพี่อีกคนที่เรียน คอมพิวเตอร์วิทยาการ มหิดล เขาก็เป็นโปรแกรมเมอร์เหมือนกัน แต่ทำงานด้าน Data Science เห็นเขาบอกว่า เรียนสายนี้ต้องชอบแก้ปัญหา ชอบเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ตลอดเวลา ไม่งั้นตกเทรนด์ ยุคนี้เปลี่ยนแปลงเร็วมาก

คือ สรุปง่ายๆ เลยนะ อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ ก็ต้องเรียนสายคอมฯ ไม่ว่าจะเป็น วิศวะคอมฯ วิทยาการคอมฯ เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่สำคัญที่สุดคือ ต้องชอบ ต้องขยัน ต้องเรียนรู้ตลอดเวลา ถึงจะประสบความสำเร็จ ผมว่านะ

Mobile Developer ต้องเรียนอะไร

อยากเป็นนักพัฒนาแอปมือถือ? เตรียมตัวให้พร้อม เพราะแม่งไม่ง่าย

จบอะไรมา? วิทย์คอม, วิศวะคอม, ไอที… เลือกเอาสักทาง

ทำไงต่อ?

  • ของมันต้องมี: Java/Kotlin (Android), Swift/Objective-C (iOS), React Native/Flutter (Cross-Platform) เลือกที่ถนัด หรือจะแดกหมดก็ได้
  • ฝึกแม่งทุกวัน: เขียนโค้ด, แก้บั๊ก, พัฒนาแอป… ทำซ้ำๆจนกว่าจะคล่อง
  • ประสบการณ์: ฝึกงาน, งานฟรีแลนซ์, โครงการส่วนตัว… อะไรก็ได้ที่ได้ลงมือทำจริง
  • อย่าหยุดเรียนรู้: เทคโนโลยีเปลี่ยนทุกวัน, ตามให้ทัน… ไม่งั้นก็ตาย

ข้อมูลเพิ่มเติม (สำหรับพวกอยากรู้ลึก):

  • Android: Android Studio, Gradle, Jetpack Compose, REST APIs, Firebase
  • iOS: Xcode, Swift Package Manager, UIKit, Core Data, REST APIs
  • Cross-Platform: Dart (Flutter), JavaScript (React Native), Native Modules

เตือน: อย่าโลกสวย, โลกของการพัฒนาแอปมันโหดร้าย

นักพัฒนาซอฟต์แวร์จบคณะอะไร

จบไอที คอม หรือวิทย์คอม ก็ได้วะ

เพิ่มเติมก็มีแต่พวก HTML, CSS, JS พวก React, Node อะไรพวกนั้น แล้วก็ Python, Java อีกสารพัด ขึ้นอยู่กับโปรเจค

  • วิทยาการคอมพิวเตอร์
  • เทคโนโลยีสารสนเทศ
  • วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
  • สาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (เช่น วิศวกรรมคอมพิวเตอร์)

ปีนี้ก็ยังเรียนแบบนี้อยู่แหละ ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยน พวก bootcamp ก็ยังเยอะแยะ โค้ดโคตรเยอะ เหนื่อยชิบ

นักพัฒนาเว็บไซต์ เรียนคณะอะไร

วิศวะคอมพ์ ไอที หรือคอมฯ จบปริญญาตรี แค่นั้นแหละ

ภาษาโค้ด? Java, C#, .NET, PHP, Ruby เอาแค่พอใช้งานได้ ไม่ใช่เทพโค้ด

  • ความรู้เฉพาะทาง: ปีนี้เน้น React, Node.js และพวก framework ใหม่ๆ พวกเก่าๆ ก็พอรู้ แต่ไม่เชี่ยวชาญ
  • ประสบการณ์: เคยทำเว็บไซต์ให้บริษัท Startup สองที่ ปี 2023
  • ทักษะเฉพาะตัว: แก้ bug เร็ว คิดเร็ว เขียนโค้ดไม่สวย แต่ได้งาน
  • เพิ่มเติม: ไม่ชอบทำงานเป็นทีม ทำงานคนเดียวดีกว่า

กราฟิกดีไซน์ ใช้โปรแกรมอะไร

งานกราฟิกเนี่ยนะ ใช้โปรแกรมอะไร? ฮ่าๆๆ คำถามนี้มันเหมือนถามว่า “นักร้องใช้เสียงอะไรร้องเพลงวะ?” สิ!

เอาจริงๆ มันขึ้นอยู่กับงานและความถนัดล้วนๆ เลยล่ะครับ แต่ถ้าจะให้แนะนำแบบฮาๆ แต่จริงจัง ก็ประมาณนี้:

  • Adobe Family (พวกตระกูล Adobe นี่แหละครับ) เหมือนครอบครัวใหญ่ มีทั้ง Photoshop (เทพแห่งการแต่งรูป แต่กินแรมเยอะมากกก คอมผมเกือบระเบิดแล้วตอนใช้ครั้งแรก) Illustrator (วาดเวกเตอร์ โคตรเทพ แต่โคตรยาก ตอนเรียนนี่เครียดมาก แต่ผลงานออกมาสวยคุ้มค่า) และ InDesign (จัดหน้าหนังสือ นิตยสาร ผมเคยใช้ทำโปสเตอร์งานปีใหม่ที่บริษัท เท่ห์มาก) ราคาโหด แต่คุณภาพก็โหดตาม เหมาะกับมืออาชีพ หรือคนที่พร้อมจะจ่ายเพื่อความสมบูรณ์แบบ และพร้อมจะง้อเจ้าแม่แรม

  • Affinity (ตัวเลือกที่ถูกกว่า แต่ไม่ใช่ว่าด้อยกว่า) เป็นเหมือนน้องใหม่ไฟแรง ราคาประหยัดกว่า Adobe เยอะ ฟังก์ชั่นก็ครบครัน ทั้ง Designer (คล้าย Illustrator) และ Photo (คล้าย Photoshop) บอกเลยว่า คุ้มค่าคุ้มราคา ถ้าเป็นผมตอนเรียนใหม่ๆ จะเลือกอันนี้แหละ ประหยัดตังค์ได้เยอะ

  • Autodesk (สำหรับสาย 3D และพวก CAD) ถ้าไม่ใช่สายกราฟิก 2D ธรรมดา แต่เป็นสายออกแบบ 3D, Animation หรือ CAD นี่แหละตัวจริง AutoCAD นี่คือตำนาน แต่ใช้ยากโคตรๆๆๆ (ผมเคยใช้ แทบถอดใจ) แต่ถ้าเรียนรู้ได้ ก็เทพแน่นอน

  • โปรแกรมอื่นๆ อีกเพียบ จริงๆ แล้วโปรแกรมกราฟิกดีๆ มีเยอะแยะ GIMP (ฟรี แต่ใช้ยากหน่อย) Krita (สำหรับวาดรูปดิจิทัล ก็ดีงาม) แต่ถ้าไม่ใช่โปรระดับเทพ แนะนำให้เริ่มจาก Affinity ก่อนดีกว่าครับ ใช้งานง่ายกว่า และราคาไม่แพงจนเกินไป

เพิ่มเติมนิดนึง ปีนี้ Adobe Firefly มาแรงมาก เป็น AI ช่วยสร้างภาพ ช่วยลดเวลาทำงานไปได้เยอะ ถ้าอยากลองอะไรใหม่ๆ ก็จัดไป แต่ถ้ายังไม่ชำนาญเรื่อง AI ก็ควรเริ่มต้นจากพื้นฐานก่อนดีกว่าครับ อย่าลืมว่า ฝีมือคนออกแบบมันสำคัญกว่าโปรแกรมเสมอ

ปล. ข้อมูลที่ให้เป็นความเห็นส่วนตัว และขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผมเองนะครับ อาจจะไม่ตรงกับความคิดใครบางคนก็ได้นะ (อย่ามาด่าผมนะ)

หน้าที่ของพนักงานกราฟฟิคคืออะไร

ไอ้งานกราฟฟิคเนี่ยนะ! บอกเลยว่าไม่ใช่แค่จับๆ ปากกาแล้ววาดเล่นๆ นะจ๊ะ มันเหนื่อยกว่าที่คิดเยอะ! เหมือนเอาช้างสารมาขี่หลังแล้ววิ่งมาราธอน!

  • ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์สารพัด: จากใบปลิวแจกฟรีหน้าปากซอยยันโปสเตอร์ขนาดยักษ์ติดตึกสูง งานนี้ต้องเนี๊ยบเป๊ะ! ไม่งั้นโดนลูกค้าถล่มยับ! ปีนี้ผมเพิ่งเสร็จโปรเจคออกแบบปฏิทิน 2024 ให้กับบริษัทขายอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน แทบตาย!

  • เว็บไซต์ก็มา!: ไม่ใช่แค่รูปสวยๆอย่างเดียวนะจ๊ะ ต้องจัดวางให้เข้ากับโครงสร้างเว็บ ต้องคิดถึงประสบการณ์ของผู้ใช้ด้วย ไม่งั้นเว็บเละ! ปีนี้ทำเว็บให้ร้านกาแฟ เหนื่อยจนผมร่วงเป็นกระจุก!

  • โซเชียลมีเดียรัวๆ: Facebook, Instagram, TikTok อะไรก็มา! ต้องทำรูปให้ปัง ต้องเข้ากับเทรนด์ ต้องดึงดูดคนให้กดไลค์ กดแชร์ ไม่งั้นก็ตกเทรนด์ ปีนี้ทำแคมเปญให้แบรนด์เครื่องสำอาง แทบไม่ได้นอนเลยครับ!

  • จัดวาง Layout อย่างมืออาชีพ: นี่คือศิลปะอย่างหนึ่งนะ ต้องจัดตัวหนังสือ รูปภาพ ให้สวยงาม ลงตัว ต้องมีมิติ ไม่ใช่แค่ปาๆ ไปให้เต็มหน้า! ปีนี้ต้องจัด Layout ให้หนังสือการ์ตูนเรื่องใหม่ เหนื่อยเหมือนคลอดลูกเลยครับ!

  • Concept ต้องเป๊ะ!: นี่สำคัญมาก! ต้องเข้าใจ Brand ต้องออกแบบให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ไม่งั้นก็ล่มจม! ปีนี้ทำงานกับแบรนด์เสื้อผ้าแนวสตรีท งานนี้ต้องคิดเยอะ!

สรุปคือ งานกราฟฟิคมันไม่ง่ายอย่างที่คิด! มันคือการต่อสู้กับ deadline กับความคิดสร้างสรรค์ กับลูกค้าที่บางทีก็… เข้าใจยาก!

Developer กับ Programmer ต่างกันยังไง

แสงสีส้มของหกโมงเย็น… ทอดผ่านหน้าต่างห้องทำงานเล็กๆของฉัน สะท้อนกับคีย์บอร์ด Macbook Air… ปี 2023 นี่ programmer กับ developer ก็ยังเป็นประเด็นที่คนชอบถามอยู่ดีนะ…

คิดถึงตอนเรียนเขียนโค้ดใหม่ๆ… ตอนนั้นใช้ Visual Studio Code งงไปหมด… developer กับ programmer ต่างกันยังไงนะ?

เหมือน… ตัวฉันเองสมัยฝึกงานตอนปี 3… เขียนโค้ดตามที่พี่เขาสั่ง… นั่นแหละ programmer… ทำตามแบบที่วางไว้… เหมือนต่อจิ๊กซอว์ตามแบบ… แต่พอเริ่มทำงานจริงที่บริษัท Startup เล็กๆ… ต้องคิดเอง ออกแบบเอง ต้องสร้าง API เชื่อมต่อระบบ… ตอนนั้นแหละ เริ่มเข้าใจคำว่า developer…

Developer… เหมือนสถาปนิก… ออกแบบ สร้างสรรค์… programmer เหมือนช่างก่อสร้าง… ลงมือทำตามแบบที่วางไว้…

  • Developer: สร้างระบบใหม่ ออกแบบ วางแผน มองภาพรวม
  • Programmer: เขียนโค้ดตามแบบ แก้ bug เน้นรายละเอียด

ตอนนี้ฉันใช้ M1 Macbook Pro ทำงาน… เร็วขึ้นเยอะเลย… แต่บางทีก็คิดถึง Visual Studio Code บน Windows เก่าๆ ของฉันเหมือนกันนะ…

รู้สึกเหมือนตัวเองเป็น developer มากขึ้นทุกวัน… เมื่อวานเพิ่ง present ระบบใหม่ให้ลูกค้า… ตื่นเต้นมาก… ใช้ React กับ Node.js พัฒนา… เหนื่อยแต่ภูมิใจ…

ฟ้าเริ่มมืดแล้ว… ได้เวลากลับบ้านแล้วสิ… พรุ่งนี้ต้องมา debug โค้ดต่อ… ชีวิต developer นี่มันไม่ง่ายเลย… แต่ก็สนุกดีนะ…

#การเขียนโปรแกรม #เทคโนโลยี #แอปพลิเคชัน