Android TV ยี่ห้อไหนดี ราคาไม่แพง
Android TV ราคาคุ้มค่า มีให้เลือกหลายยี่ห้อ:
- TCL: ราคาไม่แพง ฟีเจอร์ครบ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
- Hisense: โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี ULED ให้ภาพสีสด คมชัด
- Xiaomi: ทีวีราคาประหยัด ตอบโจทย์คนงบน้อย
เลือกยี่ห้อที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของคุณ เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ยอดเยี่ยม
Android TV ยี่ห้อไหนดี 2024? แนะนำทีวีแอนดรอยด์ราคาถูก สเปคคุ้มค่า ภาพสวย เสียงดี มีรุ่นไหนบ้าง?
เอาจริงนะ เรื่องทีวี Android เนี่ย, ฉันว่ามันแล้วแต่คนชอบเลยอ่ะ
แต่ถ้าให้แนะนำแบบจากใจนะ, ฉันว่า TCL นี่คุ้มจริง. ตอนนั้นที่บ้านซื้อมาให้แม่, รุ่นเล็กๆ 43 นิ้ว (น่าจะช่วงปี 2022 นี่แหละ), ราคาไม่ถึงหมื่น (ถ้าจำไม่ผิดนะ). แม่ก็ดูละคร ดูข่าวเพลินเลย, ภาพก็โอเค ไม่ได้แย่. ฟีเจอร์ก็ครบ, คือมันตอบโจทย์คนใช้งานทั่วไปได้สบายๆ เลย.
Hisense นี่ก็ดีนะ, เพื่อนเคยซื้อมาดูบอล, บอกว่าภาพมันสีสดดี. แต่ส่วนตัวยังไม่เคยลองใช้เอง.
ส่วน Xiaomi นี่…ก็ดีแหละ ถ้าเน้นถูก. แต่ถ้ามีงบเพิ่มอีกหน่อย, ลองดู TCL ก่อนไหม? ลองไปเดินดูที่ Power Buy อะไรแบบนี้ก็ได้, ไปดูภาพจริง แล้วค่อยตัดสินใจ. 😊
TV Android ยี่ห้อไหนดี 2024
ทีวี Android ปี 2024? ก็แค่จอภาพฉลาดๆ
- Sony: ภาพคมชัด ราคา…ก็อย่างที่รู้กัน
- Samsung: สีสันจัดจ้าน ใครชอบก็จัดไป
- LG: OLED คือคำตอบ ถ้าเงินถึง
- Hisense: คุ้มค่าตัว เลือกได้ไม่เสียใจ
- TCL: งบจำกัด? มองข้ามไม่ได้เลย
ทีวี 50 นิ้ว? ขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป
- Sony (BRAVIA): X90L ซีรีส์ ภาพดีสมราคา ฟังก์ชันครบ
- Samsung (QLED): Q60D สีสวยสดใส ดูหนังสนุก
- LG (NanoCell): NANO75UQA ภาพคมชัดใช้ได้ ราคาไม่แรง
- Hisense (ULED): U6K ภาพดีเกินราคา ฟังก์ชันใช้งานง่าย
- TCL (QLED): C645 คุ้มค่าคุ้มราคา ภาพสวยใช้ได้
เพิ่มเติม:
- OLED ดำสนิท สีสันสมจริง แต่ราคา…
- QLED สีสด คมชัด สู้แสงได้ดี
- NanoCell สีแม่นยำ ภาพเป็นธรรมชาติ
เลือกที่ชอบ จ่ายที่ไหว จบ.
Smart TV ต่าง กับ Android TV ต่างกันอย่างไร
อืมมมม Smart TV กับ Android TV ต่างกันยังไงนะ คิดหนัก!
-
Smart TV ก็คือทีวีธรรมดาที่อัพเกรดให้ฉลาดขึ้น ดูยูทูปได้บ้าง Netflix บ้าง แต่จำกัด แบบว่า ไม่ค่อยเยอะ อืดๆด้วย รุ่นเก่าๆที่บ้านใช้อยู่ เป็นแบบนี้เลย เซ็ง!
-
Android TV นี่มันคือ Smart TV เวอร์ชั่นเทพกว่า คิดง่ายๆ คือ มันเป็น Android บนทีวีไง เข้าถึง Google Play Store ได้เต็มๆ แอปเพียบเลย! เหมือนเอาโทรศัพท์มาต่อกับทีวีเลย แต่ใหญ่กว่าเยอะ อิอิ ปีนี้เพิ่งเปลี่ยนมาใช้ มันส์มาก
ความแตกต่างหลักๆ เลยนะ คือระบบปฏิบัติการ Android TV มันเน้นความยืดหยุ่นมากกว่า แอปเยอะกว่า ใช้งานง่ายกว่า อัพเดตบ่อยกว่า สมัยก่อน Smart TV บางรุ่น อัพเดตยากมาก แทบจะไม่ได้อัพเลยด้วยซ้ำ โคตรเซ็ง
อ้อ! อีกอย่าง Android TV มักจะมี Google Assistant ในตัวด้วย สั่งการด้วยเสียงได้สะดวก ไม่ต้องเสียเวลาหารีโมท แต่ Smart TV บางรุ่นก็มีนะ แต่ไม่ใช่ทุกตัว ต้องเช็คดีๆ ก่อนซื้อ ซื้อมาแล้วเสียดายแย่เลย
สรุปง่ายๆ Android TV คือ Smart TV ที่เจ๋งกว่า เสริมฟีเจอร์เพียบ ถ้าเน้นความสะดวกสบาย และแอปหลากหลาย Android TV ตอบโจทย์กว่าแน่นอน! แต่ราคาอาจจะแพงกว่านิดหน่อย ปีนี้ดูรีวิวเยอะมาก ก่อนตัดสินใจซื้อ ถึงได้เลือกถูกใจ ตอนนี้ชอบมากกก
กล่อง android box ยี่ห้อไหนดี 2024
หา Android Box ดีๆปี 2024 เหรอ? งานนี้ต้องจัดหนัก! บอกเลยว่าเลือกยากกว่าเลือกแฟนซะอีก! แต่ไม่ต้องห่วง ปีนี้ผมลองมาหลายกล่อง ถึงกับปวดหัวเลย! แต่ก็ได้ข้อสรุปมาฝาก รับรองเด็ด!
-
Xiaomi Mi Box S: ตัวนี้โคตรคุ้ม! ราคาไม่แรง ฟังก์ชันครบ เหมือนได้ทั้งโลกมาไว้ในมือ (หรือไว้ในกล่องนะ!) แต่ข้อเสียคือ รีโมทเล็กไปหน่อย มือใหญ่แบบผมแทบจับไม่ถนัด!
-
Nvidia Shield TV: เทพแห่ง Android Box! ภาพคมชัดเว่อร์! เล่นเกมส์ลื่นปรื๊ด! แต่ราคา… เอาเป็นว่า ต้องขายไตไปซื้อนะ! ถ้าคุณรวย จัดเลยครับ!
-
T95 MAX: ราคาถูกเว่อร์! ถูกจนน่ากลัว! แต่ก็ได้อย่างเสียอย่าง บางทีก็กระตุกบ้าง เหมือนเต่าวิ่งแข่งกับกระต่าย! แต่สำหรับคนงบน้อย นี่คือตัวเลือกที่ดีเลยล่ะ!
-
Beelink GT-King Pro: แรง! แรงจนน่าตกใจ! เล่น 4K สบายๆ เหมือนนั่งดูหนังในโรง! แต่ถ้าจะให้ดี ควรหา external HDD มาเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลด้วยนะ ไม่งั้นเต็มไวแน่นอน!
-
Tanix TX6: คุ้มค่า! ได้ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ ครบวงจร เหมือนได้ภรรยาสาวสวยที่ทำทุกอย่างได้ แต่ข้อเสียคืออาจจะต้องหาแอพเพิ่มเองบ้าง มันไม่ครบทุกอย่างเท่า Xiaomi นะ
-
HK1 MAX: ราคาโดนใจ สเปคก็ใช้ได้ แต่ความทนทานอาจจะต้องดูแลนิดนึง เหมือนแฟนเก่าที่คบกันมาตั้งนาน ต้องเอาใจใส่หน่อยถึงจะอยู่รอด
-
X96 MAX Plus: ราคาประหยัด แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เหมือนได้ของถูกและดี แต่คุณภาพก็จะตามราคาอยู่บ้าง อย่าคาดหวังสูงมากก็พอ
-
MINIX NEO U1: ตัวเล็กแต่แจ๋ว! ดีไซน์สวยงาม ใช้งานง่าย เหมือนแฟนสาวที่ดูดี น่ารัก แต่ราคาอาจจะสูงกว่ารุ่นอื่นๆนิดหน่อย แลกกับความสวยงาม
-
Q+BOX Q10 PRO: ฟังก์ชันครบครัน แต่บางแอปอาจจะต้องหาวิธีลงเพิ่มเล็กน้อย เหมือนจีบสาวที่ต้องรู้จักเทคนิคเล็กๆน้อยๆ
-
Mecool KM3: ราคาไม่แรง แต่คุณภาพโอเค ใช้งานได้ครบถ้วน เหมาะสำหรับคนงบประมาณจำกัด เหมือนการซื้อรถมือสอง ราคาถูก ใช้งานได้ แต่ต้องระมัดระวังบ้าง
ปล. ข้อดีข้อเสียที่กล่าวมาเป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วยนะ ผมลองใช้มาหมดแล้ว ปวดหัวมาก แต่ก็ได้ประสบการณ์มาเต็มๆ! ซื้อแล้วอย่ามาว่าผมนะ! อิอิ!
แอนดรอยด์ทีวีกับสมาร์ททีวีต่างกันยังไง
Android TV กับ Smart TV ต่างกันยังไง? ง่ายๆเลย คือระบบปฏิบัติการหลักต่างกัน Smart TV ใช้ระบบปฏิบัติการเฉพาะของแต่ละแบรนด์ เช่น Tizen (Samsung), webOS (LG), หรือ Roku TV ส่วน Android TV ก็อย่างที่ชื่อบอก ใช้ Android TV OS นั่นเอง
-
ความแตกต่างหลัก: Android TV มีแอปพลิเคชันให้เลือกมากกว่า ความยืดหยุ่นสูงกว่า สามารถติดตั้งแอปจาก Google Play Store ได้โดยตรง แต่ Smart TV จะจำกัดแอปตามที่ผู้ผลิตกำหนด บางทีก็ขาดแอปที่เราอยากใช้
-
การใช้งาน: ถ้าแค่ดูทีวี Smart TV ก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องเรียนรู้ระบบอะไรมาก ใช้งานง่ายกว่า แต่ถ้าอยากได้อะไรมากกว่านั้น อย่างสตรีมมิ่ง เล่นเกม หรือใช้แอปต่างๆอย่างเต็มที่ Android TV จะตอบโจทย์มากกว่า
คิดว่ามันก็เหมือนกับการเลือกใช้โทรศัพท์มือถือ บางคนใช้แค่โทรออกรับสาย ก็ไม่จำเป็นต้องใช้สมาร์ทโฟนที่มีฟีเจอร์เยอะแยะ แต่ถ้าต้องการความสามารถที่หลากหลาย สมาร์ทโฟนก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่า
- ตัวอย่างแอป: ลองนึกถึง Netflix, YouTube, Spotify Android TV มักจะมีแอปเหล่านี้ พร้อมกับแอปอื่นๆอีกมากมายให้เลือก แต่ Smart TV อาจมีบางแอปที่ขาดหายไป ขึ้นอยู่กับรุ่นและแบรนด์
โดยรวมแล้ว ถ้าเน้นดูทีวีเป็นหลัก Smart TV ก็โอเค แต่ถ้าต้องการความสามารถที่ครอบคลุม และสามารถใช้แอปต่างๆได้อย่างเต็มที่ Android TV น่าจะเหมาะสมกว่า
(ข้อมูลเพิ่มเติมปี 2024): ปัจจุบันผู้ผลิต Smart TV หลายรายได้พัฒนาคุณภาพระบบปฏิบัติการของตนเองให้ดีขึ้น มีแอปพลิเคชันให้เลือกมากขึ้น แต่ Android TV ยังคงเป็นผู้นำในด้านระบบนิเวศน์แอปพลิเคชัน และความสามารถในการปรับแต่งที่สูงกว่า
กล่อง Android TV ต้องใช้เน็ตไหม
Android TV กล่องนั้นไซร้ ต้องเน็ต
-
จำเป็น หากต้องการ “เต็ม” ประสิทธิภาพ
-
ใช้แบบออฟไลน์? ได้แค่ฟังก์ชั่น “พื้นฐาน” เท่านั้น
-
Netflix, YouTube, แอปสตรีมมิ่ง: ขาดเน็ต จบเห่
-
ดูหนังจาก USB, เล่นเกม: รอดตัวไป
-
อัพเดทซอฟต์แวร์: เน็ตเท่านั้น
-
คำแนะนำ: เน็ตบ้านเถิด อย่าประหยัดผิดที่
-
ข้อเท็จจริง: ฟังก์ชั่น “สมาร์ท” ทั้งหลาย ล้วนต้องพึ่งเน็ต
-
ความจริง: ทีวีสมัยนี้ มันคือคอมพิวเตอร์จอใหญ่ ไม่ใช่แค่ทีวี
-
เพิ่มเติม: ถ้าเน็ตไม่แรง อย่าหวัง 4K ลื่นปรื๊ด
กล่อง Android TV ดูช่องทีวีได้ไหม
ได้สิครับ! กล่อง Android TV ดูทีวีได้เหมือนกดปุ่มลัดสู่ดินแดนแห่งความบันเทิง! แต่…อย่าเพิ่งดีใจไป! มันไม่ใช่แค่เสียบปลั๊กปุ๊บ ดูได้ปั๊บนะครับคุณขาาาา!
-
ต้องโหลดแอปเพิ่มจาก Google Play Store งานนี้ไม่ใช่แค่เดินไปหยิบรีโมทแล้วกดดูง่ายๆนะครับ มันเหมือนกับการผจญภัยในป่าอเมซอน หาแอปที่ใช่ให้เจอ! บางแอปก็ฟรี บางแอปก็เสียเงิน เสี่ยงดวงกันไปเลยครับ!
-
พิมพ์ค้นหาและติดตั้ง นี่แหละครับจุดสำคัญ! พิมพ์ผิดไปตัวเดียว โอกาสเจอแอปดูทีวีคุณภาพเยี่ยมเท่ากับหาเข็มในมหาสมุทร! ถ้าพิมพ์ถูกแล้ว ก็เตรียมตัวโหลด โหลดเสร็จก็ต้องลงทะเบียนอีก เป็นขั้นเป็นตอนซับซ้อนกว่าการแต่งงานเสียอีก!
-
รับชมได้ฟรี หมดเลย? อย่าเพิ่งหลงกลครับ! ฟรีบางช่อง บางแอปก็มีโฆษณาแถม โฆษณามากกว่ารายการอีกก็มีมาแล้ว! บางแอปก็ฟรีแค่ช่วงทดลองใช้ พอหมดโปร ต้องเสียตังค์ค่าสมาชิกอีก เหมือนตกหลุมรักสาวสวย แล้วโดนเธอหลอกเอาเงินไป!
ปีนี้(2566) แอปดูทีวีออนไลน์เยอะแยะมากมาย แต่คุณภาพก็แตกต่างกันไป บางแอปก็คมชัดระดับ 4K บางแอปก็ดูเหมือนดูผ่านกล้องส่องทางไกล! เลือกดีๆนะครับ อย่าให้ความฟรีมาบดบังคุณภาพ ไม่งั้นเสียดายเวลาเปล่าๆ
ปล. ผมลองใช้กล่อง Android TV มาหลายรุ่นแล้ว บอกเลยว่า กว่าจะหาแอปที่ถูกใจได้นี่ เหนื่อยกว่าปีนเขาเอเวอเรสต์อีกครับ! แต่ถ้าเจอแอปดีๆแล้ว มันก็คุ้มค่ากับความพยายามนะครับ!
Android TV ต้องใช้ เน็ต ไหม
Android TV จำเป็นต้องต่อเน็ตไหม? ใช่ และ ไม่
- จำเป็น: ถ้าอยากดู Netflix, YouTube หรือใช้แอปสตรีมมิ่งต่างๆ แน่นอนว่าต้องมีอินเทอร์เน็ต เหมือนชีวิตขาดกาแฟอ่ะ ว่าไม่ได้ (แอบสารภาพว่าติดเหมือนกัน)
- ไม่จำเป็น: ฟังก์ชันพื้นฐาน เช่น ดูทีวีดิจิทัลผ่านเสาอากาศ, เล่นเกมที่โหลดไว้ในเครื่องก่อนหน้านี้ หรือเปิดไฟล์หนัง/เพลงจาก USB ก็ยังทำได้สบายๆ เหมือนทีวีธรรมดา แค่อัจฉริยะน้อยลงหน่อย
ถ้าถามว่าใช้ Android TV แบบไม่ต่อเน็ตได้ไหม ตอบเลยว่า “ได้” แต่ก็จะเหมือนขับรถสปอร์ตไปจ่ายตลาดอ่ะ เสียดายศักยภาพ! เพราะหัวใจหลักของ Android TV คือการเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์
เกร็ดน่ารู้:
- Android TV หลายรุ่นมี Chromecast built-in (อันนี้ดีจริง) ทำให้ส่งภาพ/เสียงจากมือถือขึ้นจอทีวีได้ง่ายๆ แต่แน่นอนว่าต้องใช้ Wi-Fi
- บางทีการอัปเดตซอฟต์แวร์ก็สำคัญนะ เพราะมันช่วยแก้บั๊กและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ (ซึ่งส่วนใหญ่ก็ต้องใช้อินเทอร์เน็ต)
- ถ้าเน็ตบ้านไม่แรงพอ ลองพิจารณาการเชื่อมต่อผ่านสาย LAN แทน Wi-Fi นะ (เชื่อเถอะ ชีวิตจะดีขึ้นเยอะ)
สุดท้ายแล้ว การตัดสินใจว่าจะต่อเน็ตหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานของเราล้วนๆ ไม่มีใครผิดใครถูก แค่เลือกสิ่งที่ “ใช่” สำหรับตัวเองก็พอ!
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต