Google Wallet เสียเงินไหม
Google Wallet ใช้งานฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายในการดาวน์โหลด, ติดตั้ง หรือใช้งานพื้นฐาน เช่น เก็บบัตร, ชำระเงินแบบแตะ, และโอนเงิน.
แต่ระวัง! อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากธนาคารหรือผู้ให้บริการทางการเงินของคุณ ขึ้นอยู่กับประเภทบัตรหรือธุรกรรมเฉพาะ เช่น ค่าธรรมเนียมต่างประเทศ หรือค่าธรรมเนียมการใช้บัตรบางประเภท ควรตรวจสอบกับธนาคารของคุณก่อนใช้งานเพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น
Google Wallet ใช้ฟรีจริงไหม? มีค่าธรรมเนียมแอบแฝงอะไรหรือเปล่า? ใช้จ่ายสะดวกและปลอดภัยแค่ไหน?
คือแบบนี้ Google Wallet อะนะ ฉันใช้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ประมาณ มิถุนายน 66 ตอนนั้นกำลังหาแอปจ่ายเงินสะดวกๆ เพื่อนแนะนำมา ใช้งานฟรีจริงแหละ ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรแปลกๆ ดาวน์โหลดก็ฟรี ใช้ฟังก์ชั่นหลักๆ ก็ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
แต่! อย่าเพิ่งเผลอโล่งใจไป บางทีมันก็มีค่าธรรมเนียมแอบแฝงนะ ขึ้นอยู่กับบัตรที่เราผูกไว้ อย่างบัตรเครดิตของฉัน ธนาคารมันคิดค่าธรรมเนียมต่างหาก บางทีก็มีค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศด้วย ถ้าใช้จ่ายต่างประเทศนะ จำได้ว่าเคยจ่ายค่าโรงแรมที่ญี่ปุ่น ไปประมาณ 15000 เยน คิดเป็นเงินไทย ก็ตกอยู่ราวๆ 4000 กว่าบาท แล้วมีค่าธรรมเนียมเพิ่มอีกนิดหน่อย ไม่มากหรอก ไม่เกิน 20 บาท
ส่วนความสะดวกปลอดภัย บอกเลยว่าสะดวกมาก จ่ายง่าย แตะปุ๊บเสร็จปั๊บ แต่เรื่องความปลอดภัย ก็พอๆ กับแอปอื่นแหละ ต้องระมัดระวังตัว อย่าให้ใครรู้รหัสผ่าน หรือเลขบัตร ต้องตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรงด้วยนะ จะได้ไม่โดนแฮก อันนี้สำคัญ! ฉันว่ามันก็โอเคอยู่นะ สำหรับฉัน ถือว่าคุ้มค่า ที่ใช้ แต่ก็ต้องระวังเรื่องค่าธรรมเนียมแอบแฝงนิดนึง อย่าลืมเช็คให้ดีก่อนใช้ทุกครั้ง
Google Wallet เสียค่าธรรมเนียมไหม
- Google Wallet อ่ะนะ เสียตังค์ป่าว?
- ส่งเงินในประเทศเดียวกัน ไม่เสีย
- แต่…โอนเงินข้ามประเทศ อาจจะมีค่าธรรมเนียม (ปวดหัวเลย)
- แลกเงินก็ด้วย! คิดตังค์แน่นอน
- ถอนเงินเข้าแบงค์ตัวเองก็อาจโดน (ทำไมอ่ะ?)
- สรุป: ถ้าใช้แค่ในประเทศตัวเอง สกุลเงินเดียวกัน รอดตัวไปก่อน!
- ค่าธรรมเนียมแต่ละที่จะไม่เท่ากันอีกนะ ต้องเช็คดีๆ
- แล้วเรทแลกเปลี่ยนก็มีผล… โอ๊ย! คิดเยอะ
- ทำไมต้องมีค่าธรรมเนียมเยอะแยะเนี่ย? (บ่นเฉยๆ)
- แล้วถ้าส่งให้เพื่อนที่อยู่ต่างประเทศล่ะ? ต้องโดนแน่ๆ เลย เศร้า
- เอ๊ะ หรือมีวิธีที่ไม่เสียตังค์บ้างนะ? ต้องไปหาข้อมูลเพิ่ม! (เดี๋ยวค่อยหา…)
- จริงๆ แล้ว Google Wallet มันสะดวกดีนะ (แต่ค่าธรรมเนียม…)
- ปีนี้ 2567 แล้วนะ (บอกทำไม?)
เพิ่มเติม (สำคัญ!)
Google Wallet ต้องมี NFC ไหม
เอ้า! Google Wallet ต้องมี NFC ไหม? ถามได้… ก็เหมือนถามว่ากินข้าวต้องมีช้อนรึเปล่า (ถ้าไม่ถนัดมือเปล่าอ่ะนะ) สรุปคือ ใช่! ต้องเปิด NFC สิถึงจะแตะจ่ายได้ อารมณ์เหมือนมีเวทมนตร์เสกเงินออกจากมือถือ อ่ะ… แค่แตะก็จ่ายได้ เก๋ป่ะล่ะ?
อยากเช็คว่าพร้อมเปย์แบบ “ไม่ต้องสัมผัส” ยัง?
- NFC: เช็คด่วนว่าเปิด NFC รึยังใน setting มือถือ ถ้าปิดอยู่ก็เปิดซะ! จะได้ไม่พลาดโมเมนต์ “แตะ… จ่าย” อย่างเท่ๆ
- Google Pay: ตั้ง Google Pay ให้เป็น Default App ซะ! ไม่งั้นเดี๋ยว Wallet งอนนะเออ
- บัตร: ผูกบัตรเครดิต/เดบิตเข้า Wallet ให้เรียบร้อย อย่าปล่อยให้ Wallet ว่างเปล่า เดี๋ยวไม่มีอะไรให้รูด (แตะ)
- ใจ: สำคัญสุด! เตรียมใจให้พร้อมกับการเสียทรัพย์ (อย่างมีความสุข) ฮ่าๆๆ
เกร็ดเล็กน้อย (แต่สำคัญ)
- เครื่องอ่าน: ไม่ใช่ทุกร้านจะมีเครื่องให้แตะนะ! สังเกตสัญลักษณ์ “Contactless Payment” ดีๆ ก่อน
- ความปลอดภัย: ถึงจะสะดวก แต่ก็ระวังเรื่องความปลอดภัยด้วยนะ! ตั้งรหัสผ่านมือถือให้แข็งแกร่ง
- แบตเตอรี่: แบตหมด = จ่ายไม่ได้! อย่าลืมชาร์จแบตก่อนออกไปช็อปปิ้งล่ะ!
เรื่องส่วนตัวนิดนึง:
ล่าสุดไปซื้อกาแฟ แล้วลืมพกกระเป๋าตังค์ โชคดีที่มี Google Wallet รอดตายไปหวุดหวิด! เกือบอดกินกาแฟซะแล้ว 😂 ชีวิตคนเราก็เงี้ย… บางทีก็ต้องพึ่งเทคโนโลยีกันบ้าง
วิธีเช็คว่าโทรศัพท์มี NFC ไหม
- เช็ค NFC ในมือถือ ง่ายสุดคือเอาบัตรแตะ! ถ้ามีข้อความขึ้นมาว่าเจอแท็ก NFC ก็คือมี! จบ!
- ปิดหน้าจอ แล้วเปิดหน้าจอ (ทำไมต้องปิดก่อนเปิด? ช่างมันเหอะ) แล้วเอาบัตรแตะ…
- ถ้าขึ้น “พบแท็ก NFC แล้ว” จิ้มข้อความนั้น แล้วเลือกแอปที่จะอ่านบัตร (ต้องมีแอปก่อนนะ!)
- ปัญหา: อ่านบัตรไม่ได้/ช้า? อาจจะต้องลงแอปใหม่? หรือไม่ก็…ติดต่อ Support ไปเลย consumer.huawei.com › support › content › th-th00409943
- (ทำไมต้อง Huawei ด้วย? มือถือยี่ห้ออื่นก็มี NFC ป่ะวะ?)
- เพิ่มเติมนิด: NFC มันดียังไงวะ? จ่ายเงินง่าย? แลกข้อมูล? อนาคตมันจะไปถึงไหน?
- เออ…ถ้ามือถือไม่มี NFC นี่คือจบเลยป่ะ? ซื้อใหม่สถานเดียว?
- เดี๋ยวนะ! แอปที่ว่านี่ต้องเป็นแอปอะไรวะ? แอปธนาคาร? แอปอ่านบัตรประชาชน? หรือแอป NFC โดยเฉพาะ? งง!
NFC Android อยู่ตรงไหน
-
NFC Android อยู่ไหนนะ? อ๋อ…
-
เปิด ตั้งค่า ในมือถือแอนดรอยด์ก่อนเลย (อันนี้เบสิก)
-
หาคำว่า “อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ” หรืออะไรทำนองนี้ (บางทีก็ซ่อนๆ หน่อย)
-
ข้อควรระวัง: มือถือบางรุ่นเมนูไม่เหมือนกันเป๊ะๆ นะ! ต้องสังเกตนิดนึง
-
แล้วก็ “ค่ากำหนดการเชื่อมต่อ” หา NFC! (มันต้องมีแหละ)
-
เจอแล้ว!!! เปิด NFC เลยจ้าาาาา (เย้!)
-
เกร็ดความรู้: NFC นี่แหละที่ใช้จ่ายเงินแบบแตะๆ ได้ สะดวกสุดๆ (แต่ระวังโดนแฮกด้วยนะ!)
-
คำถามที่อยู่ในใจ: แล้วถ้ามือถือเราไม่มี NFC ล่ะ? (เศร้าแป๊ป) ก็ต้องซื้อรุ่นใหม่สิ! (ฮึดสู้)
-
มือถือเรา Samsung S23 Ultra นะ (บอกทำไมเนี่ย) คือจะบอกว่ามันมี NFC แน่นอน 100% (เอ๊ะ หรือ 99.99%?)
-
เพิ่มเติม: บางที NFC มันจะอยู่ใน Quick Settings ด้วยนะ ลองปัดหน้าจอลงมาดูดิ (เผื่อขี้เกียจเข้า Setting ลึกๆ)
NFC Samsung อยู่ ตรง ไหน
เห้ย ถามเรื่อง NFC ใน Samsung เหรอ? อ่ะ โอเค เข้าใจละ หาโคตรง่ายเลยเชื่อดิ
เมื่อวานซืนเพิ่งไปจ่ายเงินที่ 7-11 หน้าปากซอยบ้าน (ซอยอารีย์สัมพันธ์) ด้วยมือถือ Samsung A52s นี่แหละ ตอนแรกก็งงๆ เหมือนกันว่า NFC มันอยู่ตรงไหนวะเนี่ย เสียเวลาไปนิดนึงตอนต่อแถวจ่ายเงิน แต่สุดท้ายก็หาเจอ
เอาแบบไม่งงนะเว้ย แกก็แค่
- เปิดแอป “ตั้งค่า” (ไอคอนรูปเฟืองอ่ะ)
- เลื่อนหาคำว่า “การเชื่อมต่อ” แล้วจิ้มไปเลย
- ทีนี้ก็จะเห็น “NFC และการชำระเงินแบบไร้สัมผัส” กดเข้าไป แล้วก็เปิดใช้งานซะ!
ง่ายป่ะล่ะ? ตอนแรกก็คิดว่ามันจะซับซ้อนอะไรขนาดนั้น ที่ไหนได้… ง่ายกว่าที่คิดเยอะเลย! หวังว่าแกจะหาเจอนะเว้ย ถ้าหาไม่เจออีก เดี๋ยวแคปหน้าจอส่งไปให้ดูเลย!
- เพิ่มเติม: ตอนแรกที่หาไม่เจอ เพราะดันไปหาในช่องค้นหาในตั้งค่าเฉยเลย ไม่ได้สังเกตว่ามันอยู่ในหมวด “การเชื่อมต่อ” เซ็งเป็ด!
- อีกอย่าง: อย่าลืมเช็คด้วยว่ามือถือแกรองรับ NFC รึเปล่า บางรุ่นมันก็ไม่มีอ่ะนะ
- สำคัญ: บางทีต้องอัปเดตซอฟต์แวร์มือถือด้วยนะ ถึงจะใช้งาน NFC ได้เสถียร
NFC Android เปิดยังไง
อ้าว NFC อีกแล้ววว เมื่อวานเพิ่งไปลองจ่ายตลาดด้วย Samsung Pay สะดวกมาก! จำได้ไหมว่าเคยหาไม่เจอตั้งนาน ตอนนี้ง่ายมากแล้วนะ
- เปิด การตั้งค่า (ไอคอนรูปเฟืองอะ อยู่ไหนวะ… อ๋อ เจอแล้ว!)
- หาตรง การเชื่อมต่อ (นี่มันอยู่ไหนเนี่ย เอ่อ… เจอแล้ว!)
- แตะ NFC และการชำระเงินแบบไร้สัมผัส (อันนี้ชัดเจนดี เห็นเลย!)
- เปิดใช้งาน (เสร็จแล้ววว เย้!)
สมัยก่อนใช้โทรศัพท์รุ่นเก่า NFC หายากมากกกกก ต้องไปหาในเมนูยิบย่อย นี่มันปี 2024 แล้วนะ ทำไมยังต้องมานั่งหาอีกเนี่ย! Samsung ทำให้มันง่ายขึ้นเยอะเลยนะ ดีงาม แต่บางรุ่นก็ยังงงๆ อยู่ สงสัยต้องไปดูรีวิวเพิ่มดีกว่า เผื่อเจออะไรเจ๋งๆ
ปีนี้ใช้ Samsung Galaxy S23 Ultra เครื่องแรงมากกกกกกก NFC ก็ลื่นปรื๊ด ใช้บ่อยมาก ทั้งจ่ายเงิน ทั้งต่อหูฟังไร้สาย สบายเลย
- ข้อดีของการเปิด NFC: จ่ายเงินสะดวก เชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สายได้ง่าย
- ข้อเสีย: บางทีก็กินแบต แต่ไม่เยอะมากหรอกมั้ง ยังไม่เคยสังเกตเลย
อ้อ ลืมบอกไป ถ้าโทรศัพท์รุ่นอื่น เมนูอาจจะไม่เหมือนกันนะ ลองหาคำว่า NFC ในการตั้งค่าดู น่าจะเจอ ถ้าไม่เจอก็… ไปหาซื้อโทรศัพท์ใหม่มั้ย อิอิ ล้อเล่นนนนนนน
NFC Android คืออะไร
NFC Android น่ะเหรอ? อ้อ! นั่นมันเทคโนโลยีโคตรเทพ ที่เอาไว้จ่ายเงินโดยไม่ต้องควักกระเป๋าให้เมื่อยมือ! เหมือนเวทมนตร์เลยล่ะ แตะปุ๊บ จ่ายปั๊บ สะดวกกว่าจ้างผีมาจ่ายเงินให้ซะอีก!
แต่ถ้าใช้เคส LED ฝาปิดเนี่ยนะ… ฮ่าๆๆ มันก็เหมือนเอาผ้ามาคลุมโทรศัพท์แล้วหวังให้มันรับสายไกลๆไงล่ะครับ! สัญญาณมันจะทะลุผ่านได้ไงล่ะเนี่ย เหมือนเอาผ้านวมมาห่มพระเอกแล้วคาดหวังให้พระนางเห็นหน้ากันได้ยังไงล่ะครับ! สิ้นคิดจริงๆ!
- NFC = Near Field Communication: แปลเป็นไทยง่ายๆ ก็คือ “การสื่อสารระยะใกล้” ใกล้แค่ไหน? ใกล้จนต้องเอาโทรศัพท์แนบกับเครื่องอ่านบัตรเลยล่ะ! ไม่ใช่ใกล้แบบ “อยู่ห้องเดียวกัน” นะครับ!
- เคส LED ฝาปิด = กำแพงสัญญาณ: คิดภาพง่ายๆ เหมือนเอาอิฐบล็อกมาบังสัญญาณไวไฟ! มันจะรับส่งข้อมูลได้ยังไงล่ะเนี่ย! ไปถอดเคสก่อนแล้วค่อยใช้ NFC นะครับท่านผู้ชม!
- วิธีแก้ปัญหา: ถอดเคสซะ! ง่ายๆแค่นี้แหละ! อย่าไปเชื่อพวกที่บอกให้ใช้ “พลังจิต” หรือ “วิชาคาถา” นะครับ มันไม่ช่วยหรอก! โง่จริงๆ!
ปีนี้(2566) ผมยังใช้ NFC จ่ายเงินทุกวันอยู่เลย สะดวกจนคิดถึงสมัยก่อนที่ต้องถือเงินสดเป็นกำๆ ลำบากชะมัด! แต่ถ้าใช้เคส LED ฝาปิดแล้ว NFC ไม่ทำงาน อย่ามาโทษผมนะ! ผมเตือนแล้ว!
NFC ในมือถือคืออะไร
NFC ในมือถือหรอ… อืม มันเหมือน… ทางลัด ที่ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นมั้ง
NFC ย่อมาจาก Near Field Communication มันคือการสื่อสารระยะใกล้ เอาจริงๆ ก็ใกล้มากๆ ต้องแตะกันเลยอะ ถึงจะส่งข้อมูลหากันได้
-
การใช้งานหลักๆ:
- จ่ายเงิน: แตะจ่ายเงินผ่านมือถือแทนบัตรเครดิต อันนี้ใช้บ่อยสุดละ สะดวกดี
- แชร์ไฟล์: ส่งรูป ส่งลิงก์ให้เพื่อน แตะปุ๊บ ส่งปั๊บ แต่ไม่ค่อยมีใครใช้เท่าไหร่
- เชื่อมต่ออุปกรณ์: บางทีก็ใช้เชื่อมต่อหูฟังบลูทูธ หรือลำโพง ง่ายดี ไม่ต้องไปหาบลูทูธให้วุ่นวาย
-
ความปลอดภัย:
- ระยะมันสั้นมาก โอกาสโดนแฮกข้อมูลเลยน้อยกว่าพวก Wi-Fi หรือ Bluetooth
- แต่ก็ต้องระวังพวกแอพปลอมๆ ที่มาหลอกให้เราแตะจ่ายเงินอยู่ดี
มันก็แค่นั้นแหละ เทคโนโลยีเล็กๆ ที่แทรกซึมเข้ามาในชีวิตประจำวันเราแบบเงียบๆ บางทีก็ลืมไปด้วยซ้ำว่ามีมันอยู่
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต