Inductive Proximity Sensor ใช้ทําอะไร
Inductive Proximity Sensor:
เซ็นเซอร์ตรวจจับโลหะแบบไม่สัมผัส อาศัยหลักการเหนี่ยวนำไฟฟ้า ตรวจจับวัตถุโลหะในระยะใกล้ ค่าระยะตรวจจับขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดของโลหะที่ตรวจจับ
เซ็นเซอร์ Inductive Proximity ใช้ตรวจจับอะไร?
เซ็นเซอร์ Inductive Proximity อ่ะนะ? อืม… เท่าที่จำได้ สมัยเรียน ปวส. ไฟฟ้า (ปี 2548 ที่เทคนิค…) อาจารย์เคยสอนว่ามันเอาไว้จับโลหะที่ไม่ต้องสัมผัส
คือเมื่อก่อนตอนฝึกงานในโรงงานทำชิ้นส่วนรถยนต์ (แถวๆ บางพลี สมุทรปราการ) เคยเห็นเค้าใช้จับชิ้นงานที่เป็นเหล็กบนสายพานลำเลียงนะ ไม่ต้องมีอะไรไปแตะเลย มันก็รู้ว่ามีชิ้นงานวิ่งมาแล้ว แล้วก็สั่งให้แขนกลหยิบไปทำอย่างอื่นต่อได้เลย ง่ายดี
แต่ระยะจับก็สำคัญนะ ไม่ใช่ว่าโลหะอะไรก็จับได้หมด เคยลองเอาเหรียญบาทไปจ่อใกล้ๆ เซ็นเซอร์ตัวนึง มันไม่ทำงานแฮะ อาจจะเป็นเพราะเหรียญมันเล็กไป หรือโลหะไม่ตรงสเปคก็ไม่รู้ (หรืออาจจะเป็นเพราะเซ็นเซอร์มันเสีย… อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน)
สรุปง่ายๆ ก็คือ เซ็นเซอร์ Inductive Proximity เค้าเอาไว้จับโลหะแบบไม่ต้องสัมผัสตัววัตถุแหละ ระยะในการจับก็ขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดของโลหะด้วยนะ
หน้าที่ของ ITP sensor คือข้อใด
เออ เคยเจอไอ้เจ้า ITP sensor นี่ตอนฝึกงานที่โรงงานแถวบางปูปีนี้แหละ ร้อนชิบหายเลยตอนนั้น เดือนเมษา จำได้แม่นเลยเพราะตอนนั้นต้องไปช่วยพี่ๆ วิศวกรซ่อมเครื่องจักร ไอ้เจ้าเซนเซอร์ตัวนี้มันเสีย ตอนแรกก็งงๆ ว่ามันคืออะไร หน้าตามันก็เหมือนๆ ก้อนเหล็กธรรมดาๆ พี่เค้าก็อธิบายว่ามันคือตัวตรวจจับวัตถุโดยไม่ต้องสัมผัส แบบว่าพอมีอะไรมาใกล้ๆ มันก็จะส่งสัญญาณไปบอกระบบ แล้วระบบก็จะสั่งงานต่อได้ ในกรณีของเครื่องนี้คือสั่งให้สายพานหยุด ตอนนั้นเครื่องมันมีปัญหา สายพานไม่หยุด พี่เค้าเลยสงสัยว่า ITP sensor น่าจะพัง
จำได้ว่าตอนนั้นเหงื่อไหลแบบไม่หยุดเลยอะ ร้อนมาก แถมยังต้องคอยระวังไม่ให้โดนเครื่องจักรอีก สุดท้ายก็เปลี่ยน ITP sensor ตัวใหม่ เครื่องก็กลับมาทำงานได้ปกติ ก็โล่งอกไปที
สรุปสั้นๆ หน้าที่หลักๆ ของ ITP sensor ก็คือตรวจจับวัตถุที่เข้ามาใกล้โดยไม่ต้องสัมผัส แล้วส่งสัญญาณไปควบคุมระบบต่อ
- ตรวจจับวัตถุโลหะโดยไม่ต้องสัมผัส
- ส่งสัญญาณไฟฟ้าเมื่อตรวจจับวัตถุได้
- ใช้ควบคุมระบบอัตโนมัติในโรงงาน
- ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
- ติดตั้งง่าย
Capacitive Proximity Sensor มีหลักการทำงานอย่างไร
ไอ้เจ้า Capacitive Proximity Sensor เนี่ยนะ มันทำงานโคตรง่ายเลย! คิดภาพง่ายๆ เหมือนคุณมีแผ่นทองคำสองแผ่น (เอาแบบที่ใช้ในงานแต่งงานเลยนะ ยิ่งใหญ่!) แผ่นนึงเป็นตัวส่ง อีกแผ่นเป็นตัวรับ ระหว่างแผ่นทองคำนี่แหละมีสนามไฟฟ้าอยู่ พอมีอะไรเข้ามาใกล้ ค่าความจุมันก็เปลี่ยน! เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนใจแฟนเลย งอนง่ายมาก!
- หลักการคือวัดความจุ: เหมือนชั่งน้ำหนัก แต่ชั่งความจุไฟฟ้า วัตถุเข้าใกล้ ความจุเปลี่ยน เซนเซอร์ก็รู้ ง่ายไหมล่ะ!
- ระยะห่างสำคัญ: ยิ่งใกล้ยิ่งรู้ ยิ่งไกลยิ่งงง เหมือนเพื่อนบางคน ใกล้ชิดรู้ทุกเรื่อง ห่างหน่อยก็เงียบกริบ!
- วัสดุก็มีผล: ของบางอย่างมันเป็นฉนวน วัดยาก เหมือนบางคนใจแข็ง ไม่ยอมเปิดเผยความรู้สึก!
- ปีนี้เทรนด์แรง: ใช้กันเยอะมากในสมาร์ทโฟน พวกหน้าจอสัมผัสไง ปีนี้เห็นแล้ว โคตรฮิต! ผมซื้อมือถือใหม่มา มันใช้เทคโนโลยีนี้แหละ ลื่นปรื๊ด!
อ้อ! ลืมบอกไป เมื่อค่าความจุเปลี่ยนถึงค่าที่เซ็ตไว้ มันก็ส่งสัญญาณไป เหมือนคุณตบมุขตลก แล้วคนหัวเราะ นั่นแหละ สัญญาณมันมาแล้ว! เข้าใจง่ายๆแบบนี้แหละ! ผมอธิบายเก่งป่ะล่ะ!
Proximity Sensor ทํางานยังไง
พร็อกซิมิตี้เซนเซอร์? แตะต้องไม่ต้อง แต่เสือกรู้ว่ามีอะไรอยู่ใกล้ๆ
- สนามแม่เหล็ก/ไฟฟ้า: ปล่อยคลื่นไป ถ้ามีอะไรขวาง คลื่นมันสะท้อนกลับมา
- ระยะ: ยิ่งใกล้ สัญญาณยิ่งแรง บอกระยะห่างได้คร่าวๆ
- สั่งการ: พอใกล้ถึงจุดที่ตั้งไว้ ก็สั่งให้ทำอะไรบางอย่าง เช่น ไฟติด, เครื่องจักรหยุด
ข้อมูลเพิ่มเติม (ถ้าอยากรู้):
- ชนิด: อินดักทีฟ (โลหะ), คาปาซิทีฟ (อะไรก็ได้), อัลตราโซนิก (เสียง), ออปติคัล (แสง) เลือกใช้ตามงาน
- ความแม่นยำ: แล้วแต่ราคาและเทคโนโลยี อย่าหวังอะไรมากกับของถูก
- ตัวอย่าง: ในมือถือ เอาไว้ดับหน้าจอตอนแนบหูตอนคุยโทรศัพท์ไง เคยสังเกตไหม?
- ข้อเสีย: โดนรบกวนง่าย ถ้าสภาพแวดล้อมไม่ดี ก็เอ๋อแดกได้เหมือนกัน
Proximity sensor แบบใดที่ใช้หลักการของแสง
เออ เคยทำโปรเจคตอนปี 4 นี่แหละ ใช้ Infrared proximity sensor กับ Arduino จำได้เลย ตอนนั้นทำที่ห้องสมุด ม.เกษตรศาสตร์ ช่วงประมาณเดือนมีนาคม 2566 ร้อนมากกกกก แอร์ในห้องสมุดแทบเอาไม่อยู่ เซนเซอร์มันเล็กนิดเดียว หายากมาก กว่าจะบัดกรีสายไฟเสร็จ ปวดตาไปหมด ตอนแรกต่อวงจรผิดอีก ไฟไม่ติด นึกว่าเซนเซอร์พัง ใจหายวาบเลย เพราะสั่งมาจาก Shopee รอนานมาก สุดท้ายเช็ควงจรใหม่ อ่อ ต่อสายผิดนี่เอง โล่งอกไปที
คือโปรเจคเราต้องให้มันตรวจจับว่ามีมือเข้าใกล้รึเปล่า ถ้ามีมือมาบัง ไฟ LED จะติด ตอนแรกใช้ Sharp GP2Y0A21YK0F แต่แบบ มันแพงง่ะ เลยเปลี่ยนไปใช้เซนเซอร์อินฟราเรดแบบถูกกว่า จำรุ่นไม่ได้ละ อันละไม่กี่สิบบาทเอง แต่ก็ใช้ได้เหมือนกันนะ ประหยัดงบไปได้เยอะเลย
ข้อดีของการใช้ Infrared proximity sensor คือมันไม่ต้องสัมผัสวัตถุโดยตรง มันปล่อยแสงอินฟราเรดออกไป ถ้ามีวัตถุมาขวางทาง แสงก็จะสะท้อนกลับมาที่ตัวรับ เราก็เขียนโค้ดใน Arduino ให้มันสั่งงานต่อได้เลย
- ใช้แสงอินฟราเรดในการตรวจจับวัตถุ
- ไม่ต้องสัมผัสวัตถุโดยตรง
- มีทั้งแบบถูกและแบบแพงให้เลือกใช้ อย่าง Sharp GP2Y0A21YK0F ก็เป็นตัวเลือกที่ดี
- เหมาะสำหรับโปรเจค DIY ง่ายๆ อย่างเช่นระบบเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติ หรือระบบกันขโมย
- ตอนบัดกรีสายไฟต้องระวัง มันเล็กมาก ใช้หัวแร้งเล็กๆ จะดีกว่า
ตอนพรีเซนต์โปรเจค อาจารย์ถามว่าทำไมไม่ใช้เซนเซอร์แบบอื่น เช่น Ultrasonic sensor เราก็บอกไปว่า Infrared proximity sensor มันถูกกว่า แล้วก็ใช้งานง่ายกว่า เหมาะกับโปรเจคเล็กๆ แบบนี้ อาจารย์ก็โอเค ให้ผ่านฉลุย ตอนนั้นโคตรดีใจ จบสักที เหนื่อยมากกกกก
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต