Photo sensor มีกี่ประเภท
เซ็นเซอร์วัดแสงแบ่งเป็นหลายประเภท หลักๆ ได้แก่:
- โฟโตไดโอด (Photodiode): แปลงแสงเป็นกระแสไฟฟ้า
- โฟโตทรานซิสเตอร์ (Phototransistor): แปลงแสงเป็นกระแสไฟฟ้า พร้อมขยายสัญญาณ
- โฟโตเรซิสเตอร์ (Photoresistor): เปลี่ยนค่าความต้านทานตามปริมาณแสง
- โฟโตมัลติพลายเออร์ (Photomultiplier): ขยายสัญญาณแสงอ่อน
- CCD (Charge-coupled device): เทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ ใช้ถ่ายภาพและวัดแสง
- CMOS (Complementary Metal-Oxide-Semiconductor): เทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ ใช้ถ่ายภาพและเป็น active pixel sensor
แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานแตกต่างกันไป เลือกใช้ให้เหมาะสมกับงาน
โฟโต้เซ็นเซอร์มีกี่ชนิด? เลือกแบบไหนดีให้เหมาะกับงานวัดแสงและควบคุมระบบ?
คือแบบนี้ ฉันเคยทำโปรเจคจบเกี่ยวกับระบบควบคุมแสงอัตโนมัติ จำได้ว่าตอนนั้น เลือกเซนเซอร์กันอยู่นานเลย มีหลายแบบมากจริงๆ
Photodiodeนี่ง่ายสุด แปลงแสงเป็นไฟฟ้าตรงๆ ใช้ดีนะสำหรับงานวัดแสงแบบง่ายๆ อย่างเช่นตรวจจับว่ามีแสงหรือไม่มีแสง จำได้ว่าตอนนั้นใช้แบบนี้ ราคาถูกด้วย ประมาณอันละ 50 บาทเองมั้ง ซื้อมาจากร้านแถวประตูน้ำ เดือนสิงหาคม ปี 64
แต่ถ้าจะเอาละเอียดกว่านี้ Phototransistor น่าสนใจกว่านะ เพราะมันขยายสัญญาณได้ วัดแสงได้ไวกว่า เหมาะกับงานที่ต้องวัดความเข้มแสงแบบละเอียดอ่อน แต่ก็แพงกว่า ประมาณ 150 บาท
ส่วน Photoresistor มันเปลี่ยนค่าความต้านทานตามแสง เราใช้มันในวงจรควบคุมแสงของโปรเจค แต่รู้สึกว่ามันค่อนข้างไวต่ออุณหภูมิ เลยไม่ค่อยเที่ยงตรงเท่าไหร่
CCD กับ CMOS นี่ระดับเทพเลย ใช้ในกล้องดิจิตอล งานระดับภาพถ่ายนี่ใช้เลย แต่แพงเว่อร์ ไม่ใช่ระดับเราจะเอามาเล่นๆ ตอนนั้นเราแค่ต้องการควบคุมแสงไฟ เลยไม่ได้ใช้พวกนี้
สรุปนะ ถ้าเป็นงานง่ายๆ Photodiode ก็พอ แต่ถ้าต้องการความละเอียด Phototransistor น่าจะดีกว่า แต่ต้องดูงบประมาณด้วยละกัน งงมั้ยเนี่ย ฉันก็งงๆอยู่เหมือนกัน ฮ่าๆ
เซนเซอร์แสง มีกี่ประเภท
เซนเซอร์แสง แบ่งประเภทได้หลากหลายนะ เอาแบบหลักๆ ที่ใช้งานกันบ่อยๆ แบ่งตามหลักการตรวจจับแสง น่าจะเห็นภาพชัดสุด ผมนึกออก 4 ประเภทหลักๆ ที่เจอในงานวิจัยที่ทำอยู่ตอนนี้ (เกี่ยวกับ IoT กับ Smart Farming) คือ โฟโตไดโอด, โฟโตทรานซิสเตอร์, โฟโตเรซิสเตอร์, กับเซนเซอร์แบบ CMOS/CCD แต่ละแบบมันก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป อย่างโฟโตไดโอด ตอบสนองไว แต่สัญญาณอ่อน ต้องมีวงจรขยาย ส่วนโฟโตทรานซิสเตอร์ ขยายสัญญาณในตัวเลย สะดวกดี ส่วนโฟโตเรซิสเตอร์ ราคาถูกมาก แต่ตอบสนองช้า เหมาะกับงานที่ไม่ต้องการความเร็วสูง พวก CMOS/CCD นี่ ความละเอียดสูง เอาไปใช้ในกล้องได้เลย เอาจริงๆ มันก็มีแบบอื่นๆ อีกนะ อย่างโฟโตมัลติพลายเออร์ทิวป์ อันนี้ไวแสงมากๆ ใช้ในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ บางทีการเลือกใช้เซนเซอร์ก็เหมือนเลือกเครื่องมือ ต้องดูว่างานแบบไหน ถึงจะเหมาะสม เหมือนกับการเลือกมีด จะแล่ปลา คงไม่ใช้มีดสับ จริงไหม?
- โฟโตไดโอด (Photodiode): แปลงแสงเป็นกระแสไฟฟ้าได้โดยตรง ตอบสนองเร็ว ใช้ในวงจรตรวจจับแสงความเร็วสูง.
- โฟโตทรานซิสเตอร์ (Phototransistor): คล้ายโฟโตไดโอด แต่มีการขยายสัญญาณในตัว ใช้งานง่ายกว่า.
- โฟโตเรซิสเตอร์/LDR (Photoresistor/Light Dependent Resistor): ค่าความต้านทานเปลี่ยนตามความเข้มแสง ราคาถูก แต่ตอบสนองช้า.
- เซนเซอร์แบบ CMOS/CCD (CMOS/CCD Sensor): ให้ภาพความละเอียดสูง ใช้ในกล้องดิจิตอล และงานประมวลผลภาพ. อันนี้ผมใช้บ่อย ตอนทำ image processing.
- โฟโตมัลติพลายเออร์ทิวป์ (Photomultiplier Tube – PMT): ไวแสงสูงมาก ใช้ในงานวิจัยที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น การตรวจจับอนุภาค.
ส่วนเรื่องตำแหน่งตัวรับ-ส่งแสง ที่ผมใช้บ่อยๆ ในงาน Smart Farm ก็แบบ Through-beam คือมีตัวส่งกับตัวรับแยกกัน เอาไว้ตรวจจับว่ามีอะไรผ่านหรือเปล่า ส่วนแบบ Retro-reflective อันนี้ตัวส่งกับตัวรับอยู่ที่เดียวกัน สะท้อนแสงจากวัตถุกลับมา ก็ใช้ได้เหมือนกัน แต่ถ้าเจอพื้นผิวแบบกระจก อาจจะรวนได้ อีกแบบคือแบบ Diffuse คล้าย Retro-reflective แต่แสงกระจายออก เหมาะกับงานตรวจจับวัตถุที่พื้นผิวไม่เรียบ. เลือกใช้ให้เหมาะกับงาน ชีวิตจะง่ายขึ้นเยอะครับ.
Proximity Sensor มีกี่ชนิด
พร็อกซิมิตี้เซนเซอร์… มันมีสองแบบหลัก ๆ สินะ…
-
เหนี่ยวนำ: แบบนี้ เหมือนมันจะตรวจจับพวกโลหะได้ดีเป็นพิเศษ… ใช่ไหมนะ? เหมือนเคยเห็นในโรงงานอะไรแบบนั้น… ที่เครื่องจักรมันทำงานซ้ำ ๆ แล้วต้องมีอะไรไปเช็คว่าเหล็กมันมาถึงหรือยัง
-
เก็บประจุ: อันนี้… เหมือนจะตรวจจับได้กว้างกว่า… ไม่จำกัดแค่โลหะ… พวกพลาสติก หรืออะไรที่มันมีความเป็นฉนวนไฟฟ้า… ก็ตรวจได้… แต่ก็อาจจะ sensitive กับความชื้น หรืออุณหภูมิ… หรือเปล่านะ?
เหมือนเคยอ่านเจอว่า…
-
เซนเซอร์พวกนี้… มันถูกเอาไปใช้เยอะมาก… ในชีวิตประจำวันเรา… แต่เราอาจจะไม่รู้ตัว
-
อย่างมือถือ… เวลาคุยโทรศัพท์… พอมันแนบหู… หน้าจอมันก็จะดับ… นั่นก็พร็อกซิมิตี้เซนเซอร์
-
รถยนต์… ก็มี… เอาไว้ช่วยเรื่องระบบความปลอดภัยต่าง ๆ
-
พวกเครื่องจักรอัตโนมัติ… ในโรงงาน… นี่ไม่ต้องพูดถึง… เพียบ
เซนเซอร์พวกนี้… มันทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นเยอะเลยนะ… แต่เรากลับแทบไม่เคยสังเกตมันเลย… แปลกดี
Photo sensor ใช้ทําอะไร
Photo sensor เหรอ… อืม… มันเหมือนตาที่มองเห็นแสงนั่นแหละ
- ตรวจจับวัตถุ: หลักๆ เลยคือมัน “เห็น” ว่ามีอะไรมาบังแสงหรือเปล่า ไม่ต้องสัมผัสด้วยนะ
- ระยะทาง: บางแบบก็เห็นได้ไกล… ไกลมากจริงๆ
- ความเร็ว: เร็วจนน่าตกใจ… เร็วกว่ากระพริบตาอีกมั้ง
- แสงเปลี่ยน = ทำงาน: ถ้าแสงที่มันเห็นเปลี่ยนไป มันก็จะส่งสัญญาณออกมา
- สารพัดประโยชน์: ใช้ได้กับงานเยอะแยะไปหมด… ตั้งแต่เครื่องจักรในโรงงาน ไปจนถึงระบบรักษาความปลอดภัย
บางทีก็คิดนะ… ถ้าเรามี sensor แบบนั้นในตัวบ้างก็คงดี… จะได้รู้ว่าใครกันแน่ที่ “ส่อง” แสงมาที่เรา… แล้วทำไม
Photo Detector มีหลักการกี่วิธี
3 วิธีหลัก…พอ
- โฟโตอิเล็กทริก: แสงแม่งปล่อยอิเล็กตรอนออกมา…จบข่าว
- โฟโตคอนดักติวิตี: แสงส่อง…ไฟแรงขึ้น…เข้าใจนะ
- โฟโตโวลตาอิก: แสงแดกสารกึ่งตัวนำ…ได้ไฟ…เรื่องง่ายๆ
ข้อมูลลับหลังฉาก:
- โฟโตอิเล็กทริก: โคตรแม่นยำ…แต่ต้องพลังงานสูง…แดกไฟ
- โฟโตคอนดักติวิตี: ถูก…ทน…แต่ช้า…อย่าหวังความเร็ว
- โฟโตโวลตาอิก: พลังงานสะอาด…แต่ประสิทธิภาพงั้นๆ…ตามราคา
- พวกเหี้ยนี้: มันใช้ในกล้อง…เซ็นเซอร์…แผงโซล่าเซลล์…มึงเคยเห็นแหละ
- ของเล่นใหม่ปี 2024: วัสดุ 2D…Perovskite…แม่งแรงขึ้นเยอะ…รอไปก่อน
คำเตือน: อย่าแดกสารกึ่งตัวนำ…มึงตาย
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต